“พริษฐ์” หวั่นตั้ง กก.ศึกษาแก้ รธน. เปิดช่องยื้อเวลา

พรรคก้าวไกล 14 ก.ย.- “พริษฐ์” หวั่นตั้ง กก.ศึกษาประชามติรัฐธรรมนูญ เปิดช่อง ยื้อเวลา-ย้อนหลักการ-ยอมต่ออำนาจเดิม เรื่องนี้ถูกถกเถียงพิจารณามานานแล้ว เหลือเพียง ครม.ตัดสินใจ แนะรัฐบาลแจงให้ชัด


นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ว่าประชาชนต่างจับตาประชุม ครม. นัดแรกของรัฐบาลนายเศรษฐา ว่าจะมีแนวทางการตั้ง สสร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเป็นเพียงข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้นายภูมิธรรม เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยยึดตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ โดยจะใช้เวทีรัฐสภาในการหารือรูปแบบแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วน ร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน ซึ่งในข้อเท็จจริง แนวทางเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. และการทำประชามติ ล้วนเป็นประเด็นที่ถูกพิจารณาและถกเถียงกันมาโดยละเอียดมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม จนเคยได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายทางการเมืองเห็นตรงกันมาแล้ว

โดยเมื่อธันวาคม 2562 สภาผู้แทนราษฎรมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มีตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองในสภาฯ ณ เวลานั้น และมีนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นประธานฯ และคณะกรรมาธิการดังกล่าว ได้ใช้เวลากว่า 8 เดือน ในการศึกษาทุกมาตราของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยละเอียด มีรายงาน 600+ หน้า พร้อมกับมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการที่มีหน้าที่ในการรับฟังความจากประชาชนตลอดกระบวนการ โดยหนึ่งข้อสรุปสำคัญที่คณะกรรมาธิการส่วนใหญ่เห็นชอบตรงกัน คือการให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากประชาชน


“ที่จำเป็นต้องย้อนรายละเอียดทั้งหมด ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าเรื่องนี้ ถูกพิจารณาถกเถียงกันมายาวนานหลายปี โดยทุกฝ่ายทางการเมืองมีส่วนร่วมมาโดยตลอด ตอนนี้เหลือเพียงการตัดสินใจของ ครม. ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร ดังนั้นผมจึงมีความกังวลว่าการตั้งคณะกรรมการศึกษาขึ้นมาอีกชุดจะไม่ได้นำไปสู่การที่เราได้รับทราบมุมมองอะไรที่เพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญจากที่เคยถูกแสดงมาหมดแล้ว แต่อาจมีวัตถุประสงค์ของการ “ยื้อเวลา-ย้อนหลักการ-ยอมต่ออำนาจเดิม” โดยหากรัฐบาลต้องการยืนยันว่าข้อกังวลผมไม่เป็นจริง ผมมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล ว่าสามารถชี้แจงรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมได้บ้างเพื่อคลายข้อกังวลดังกล่าวที่ผมมี และประชาชนบางส่วนอาจมีเช่นกัน” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยังเสนอว่ารัฐบาลควรชี้แจงถึงกรอบระยะเวลาการทำงานของคณะกรรมการศึกษานี้ ว่าจะได้ข้อสรุปภายในเมื่อไหร่ และรัฐบาลควรระบุให้ชัดถึงกรอบการทำงานของคณะกรรมการศึกษา ว่าจะเป็นเพียงการศึกษาในประเด็นรายละเอียดและการนำเสนอทางเลือกต่างๆ ที่ไม่ขัดต่อ 2 หลักการสำคัญที่เคยได้ข้อสรุปร่วมกันไปแล้ว เพราะยังมีข้อกังวล ว่าคณะกรรมการศึกษาชุดนี้ อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือและข้ออ้างในการย้อนหลักการสำคัญที่เคยได้ข้อสรุปร่วมกันมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจุดยืนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไม่ได้แก้ไขรายมาตราและจุดยืนเรื่องการจัดทำฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ควรมาจากการเลือกตั้ง

นายพริษฐ์ ยังกังวลว่าการตั้งคณะกรรมการศึกษาชุดนี้ อาจเป็นการเปิดช่องให้เครือข่ายอำนาจเดิมที่มีผลงานในการขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เข้ามาแทรกแซงและสกัดกั้นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ข้อสังเกตที่น่ากังวลคือการออกมารับลูกโดย สว. คนหนึ่งที่เห็นชอบกับแนวทางการตั้งคณะกรรมการศึกษาของรัฐบาล และพยายามชี้นำไม่ให้องค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวมีสัดส่วนของ “กลุ่มที่เห็นต่าง” ซึ่งอาจสอดคล้องกับคำเตือนที่ตนได้อภิปรายในรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าอาจมีความพยายามของกลุ่มอำนาจเดิม ที่จะ ล็อกสเปกรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านการล็อกสเปกตั้งแต่คนที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ หรือแม้กระทั่งย้อนมาถึงการล็อกสเปกคณะกรรมการศึกษาฯชุดนี้


นายพริษฐ์ กล่าวว่าพรรคก้าวไกลยังคงยืนยันว่า หากไม่อยากให้มีการยื้อเวลา ย้อนหลักการ หรือยอมต่ออำนาเดิม ทางออกที่เรียบง่ายที่สุด คือการที่ ครม. ออกมติให้เดินหน้าจัดทำประชามติเพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับหลักการของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร. เลือกตั้ง เพราะหากประชาชนทั่วประเทศเห็นชอบอย่างท่วมท้น ผลประชามติและเจตจำนงของประชาชนจะเป็นอาวุธที่สำคัญและชอบธรรมที่สุด ในการฝ่าฟันแรงเสียดทานจากเครือข่ายอำนาจเดิมและเดินหน้าสู่การมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์