“พริษฐ์” แนะ “ศธ.” เลือกเช่าอาคารศึกษาธิการจังหวัด 15 แห่ง แทนสร้างใหม่

รัฐสภา 15 ส.ค. –“พริษฐ์” แนะ “ศธ.” เลือกเช่าอาคารศึกษาธิการจังหวัด 15 แห่ง แทนสร้างใหม่ ที่ของบ 375 ล้านบาท ชี้ยังไม่เห็นความจำเป็น ถ้าเช่าคุ้มกว่า ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง หน่วยงานเข้าทำงานได้เร็ว


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 3 โดยพิจารณามาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกำกับ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายขอให้กระทรวงศึกษาธิการปรับลดงบประมาณก่อสร้างอาคารศึกษาธิการ 15 จังหวัด มูลค่ารวม 375 ล้านบาท ขอให้เปลี่ยนจากวิธีการก่อสร้างอาคารใหม่มาเป็นวิธีการเช่าสถานที่ใหม่หรือวิธีการอื่น ซึ่งตนและกมธ.ฯ เห็นตรงกันว่าสถานที่ทำงานของศึกษาธิการจังหวัดใน 15 จังหวัดนี้ ณ ปัจจุบันมีปัญหาจริงและมีความจำเป็นจริงที่ต้องหาสถานที่ทำงานใหม่ที่ปลอดภัยและสะดวก

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องสร้างอาคารใหม่ ด้วยเหตุผลคือ เรื่องความคุ้มค่าของงบประมาณ หากศึกษาธิการจังหวัดเป็นหน่วยงานที่ต้องทำงานรูปแบบต่อไปอีก 100 ปีทางเลือกในการสร้างอาคารใหม่ก็พอจะรับได้ แต่ข้อเท็จจริงที่รับรู้กัน ในร่างพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับใหม่ ที่แทบจะทุกพรรคการเมืองเสนอเข้ามา และคาดว่าจะถูกพิจารณาในสภาฯเร็วๆนี้ แทบทุกฉบับมีการพูดถึงเรื่องการทบทวนโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัด ภายใต้สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ ที่ถูกเติมเข้ามาในสมัยคสช.มาถึงวันนี้ก็ถูกตั้งคำถามโดยหลายภาคส่วนว่าอาจจะมีการทับซ้อนหรืออย่างน้อยก็ไม่สามารถบูรณาการได้ดีเท่าที่ควรกับโครงสร้างเขตพื้นที่การศึกษาภายใต้ สปฐ. แม้วันนี้สภาฯไม่ต้องมาถกกันว่าโครงสร้างศึกษาธิการจังหวัดควรจะเป็นรูปแบบใด แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะมีพ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ และเราไม่รู้ว่าเนื้อหาจะกำหนดให้ศึกษาธิการจังหวัดกับเขตพื้นที่ ยังแยกกันทำงานแบบนี้ต่อหรือไม่ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนสร้างอาคารใหม่ถึง 15 อาคาร ดังนั้นควรดูความเป็นไปได้ในการใช้พื้นที่ร่วมกันภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ หรือสถานที่ของส่วนราชการนอกกระทรวงศึกษาฯ และการหาสถานที่ใหม่ในการเช่า เพราะ1อาคารมีการตั้งงบประมาณไว้เฉลี่ยอาคารละ 25 ล้านบาท หากเราหาสถานที่ใหม่ในการเช่าเดือนค่าเช่าที่ 5 หมื่นบาทต่อเดือน ดังนั้น 25 ล้านบาท สามารถเช่าได้ 40 กว่าปี หรือหากสถานที่เช่าใหม่ค่าเช่า 1 แสนบาทต่อเดือน 25 ล้านบาทนี้ก็ทำให้เราสามารถเช่าสถานที่ได้กว่า 20 ปี


นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ยังมีเหตุผล เรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากสถานที่ทำงานปัจจุบันมีความทรุดโทรมถึงขั้นที่ว่าไม่มีความปลอดภัยในการทำงานต่อการจะแก้ปัญหานี้ด้วยการก่อสร้างอาคารใหม่ก็ดูจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างจะประหลาดและไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ เพราะหากของบมาใช้ในการก่อสร้างอาคารใหม่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างเสร็จ แต่ในทางกลับกันหากเราของบประมาณมาหาสถานที่ใหม่เพื่อเช่าก็สามารถย้ายเข้าทำงานได้ทันที ดังนั้นหากเราให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จริงๆการใช้วิธีการเปลี่ยนงบประมาณ ปี 69 ที่เป็นงบก่อสร้างมาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่แทนก็น่าจะตอบโจทย์ที่สุด หรือแม้ในกรณีแย่ที่สุด ไม่สามารถแปลงงบ69 ซึ่งเป็นงบก่อสร้างมาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่ได้เพราะติดระเบียบ ดังนั้นการใช้งบปี 70 มาเช่าสถานที่ใม่เจ้าหน้าที่ก็ยังย้ายเข้าสถานที่ใหม่ได้เร็วกว่าการใช้งบ69 มาก่อสร้างอาคารใหม่

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่าเมื่อย้อนดูในบรรดา 8 จังหวัดที่เคยได้งบก่อสร้างศึกษาธิการเมื่อปี68 สำรวจเบื้องต้นแล้วน่าจะมีแค่ 1-2 จังหวัดเท่านั้นที่มีการก่อสร้างเสร็จแล้วและทางสำนักงบประมาณก็ชี้แจงมาว่าส่วนใหญ่คาดว่าจะย้ายเข้าไม่ได้ต้นปี 69 หมายความว่าหาก การก่อสร้าง 15 อาคาร เราอนุมัติงบก่อสร้างในวันนี้การก่อสร้างอาคารก็ยังสร้างไม่เสร็จและยังไม่สามารถย้ายเข้าไปได้จนกว่าจะถึงต้นปี 70 แต่ในทางกลับกันแม้ในสถานการณ์เร็วร้ายที่สุดที่เราต้องรอถึง งบ70 เพื่อตั้งงบมาเช่าสถานที่ใหม่ หน่วยงานทำงานเร็วและเตรียมการล่วงหน้าหน่วยงานก็สามารถหาสถานที่ใหม่และเตรียมการย้ายเข้าสำหรับเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 70 หรือไตรมาส4ของปี 69 ซึ่งเร็วกว่าด้วยซ้ำ

“วันนี้ สส. 500 คนจะต้องลงมติเรื่องนี้ ผมขอฝากคำถามว่า หากท่านทำธุรกิจที่มีพนักงาน 50 คน และท่านต้องหาสถานที่ทำงานในต่างจังหวัดโดยที่ท่านไม่รู้ว่าอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจท่านจะยังอยู่หรือไม่ ท่านจะเลือกอย่างไรระหว่างการหาที่ในการเช่ากับการสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ และหากสมมติท่านทำธุรกิจแล้วพนักงาน 50 คนกำลังทำงานในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ระหว่างเร่งหาที่เช่าใหม่เพื่อรีบย้ายเข้า กับการก่อสร้างอาคารใหม่แล้วรอให้ก่อสร้างเสร็จถึงจะย้ายเข้าได้ หากเราในที่นี้ปฏิบัติกับเงินภาษีของประชาชนที่มาจากหยาดเหงื่อของประชาชน เสมือนกับเงินส่วนตัวของเราที่มาจากหยาดเหงื่อของพวกเรากันเอง ผมเชื่อว่าทุกท่านจะเห็นด้วยกับผมและกรรมาธิการเสียงข้างน้อย” นายพริษฐ์กล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]