“ไอติม” จี้ถามงบซื้อเจ็ตสกี-เรือตรวจการณ์ จำเป็นอะไร

รัฐสภา 18 ก.ค.-“ไอติม” จี้ถามสำนักเลขาสภาฯ งบซื้อเจ็ตสกี-เรือตรวจการณ์-เรือรับรอง กว่า 82 ล้านบาท มีความจำเป็นอะไร ด้าน “วิสาร” ไม่เห็นด้วยทุ่มงบกว่า 117 ล้าน เป็นห้องประชุม ครม. ขณะที่ “อาพัทธ์” รีบแจง ปรับตัดงบเรือออกไปแล้ว

การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณางบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ฯ ได้ซักถามต่อความชัดเจนต่อการเสนอของบประมาณในหลายโครงการที่พบว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และไม่สมเหตุสมผล รวมถึงมีบางโครงการที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการเปิดช่องให้มีกาาทุจริต คอรัปชั่นในงบประมาณของสภาฯ ได้

โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กมธ.ฯ ซักถามว่า ที่รัฐสภามีห้องประชุมเพื่อไว้รองรับการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่รัฐสภา แต่ล่าสุดตนได้ยินว่าจะยุบ 3 ห้องประชุมของกมธ.ฯ เพื่อใช้เป็นห้องประชุม ครม.อีก โดยตั้งงบไว้ 117 ล้านบาท ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และขอคำชี้แจง นอกจากนั้นแล้วในการจัดสรรงบประมาณ มีโครงการที่ตั้งไว้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ภายนอกอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นงบซ่อมอาคารและพื้นที่ทั้งที่อาคารอยู่ในระยะประกัน โดยรายละเอียดระบุว่าเป็นการจ้างงานดูแลระบบวิศวกรรม อาคารรัฐสภาและอาคารประกอบ ซึ่งตนทราบว่าบริษัทที่จะได้รับงานดังกล่าวเป็นบริษัทที่มีกิจการร่วมค้ากับบริษัทผู้รับเหมารายเดิมและบริษัทที่ได้รับงานไอซีทีของรัฐสภา ซึ่งตนมองว่าหากอยู่ในระยะประกันควรให้บริษัทผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบไม่ใช่ใช้เงินของสภาฯ ไปดำเนินการ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าเลขาธิการสภาฯ ทราบดีว่าในงานก่อสร้างนั้นส่วนที่มีผลประโยชน์หรือกำไรคือ งานส่วนไอซีทีที่มีการบวกมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์


“ในช่วง 3-4 เดือนนี้ เลขาธิการสภาฯ อย่าลงนามในสัญญาจ้างใดๆ เพราะแม้ว่าจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่คดีที่ถูกยื่นต่อ ป.ป.ช. นั้นตามติดตลอดชีวิต ซึ่งในหลายโครงการของรัฐสภา ผมเชื่อว่าจะมีการคอรัปชั่นอย่างมโหฬาร และหากเป็นไปได้ ผมขอให้ถอนโครงการ เพราะจากงบก่อสร้างรัฐสภา 1.2 หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้รวมค่าซ่อมด้วย ต้องใช้งบร่วม 2 หมื่นล้านบาท” นายวิสาร กล่าว

ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะ กมธ.ฯ ตั้งคำถามต่อการเสนอของบประมาณของสภาฯ เพื่อใช้ในโครงการจัดซื้อรถนำขบวนของประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ รวม 3 คัน มูลค่ารวม 8 ล้านบาท รวมถึงงบประมาณเพื่อจัดซื้อเรือ ได้แก่ เจ็ตสกี จำนวน 2 ลำ เรือตรวจการณ์ จำนวน 2 ลำ มูลค่า 40 ล้านบาท และเรือรับรอง 1 ลำ มูลค่า 40 ล้านบาท รวมงบประมาณซื้อเรือทั้ง 3 ประเภทนั้นมูลค่ากว่า 82 ล้านบาท ซึ่งมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน

ด้านนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคปชน. ในฐานะกมธ. อภิปรายท้วงติงต่อการโอนงบประมาณที่เสนอขอในปี 2568 ไปทำโครงการอย่างอื่น เช่น งบพัฒนาเยาวชน 19 ล้านบาท ไปเป็นค่าคุรุภัณฑ์ เพื่อปรับปรุงห้องจัดเลี้ยง ชั้นบี 1 และบี 2 ย้ายงบ 11 ล้านบาทไปทำไฟส่องสว่างริมแม่น้ำ ย้ายงบเกี่ยวกับกล้องซีซีทีวีของสภาฯ 10 ล้านบาท ไปเป็นเรื่องของจอแอลอีดี นอกจากนั้นแล้วพบว่ายังมีการโอนงบประมาณเพื่อพัฒนาเยาวชนเกี่ยวกับประชาธิปไตย จำนวน 35 ล้านบาท เพื่อนำไปปรับปรุงภูมิทัศน์ คือ น้ำพุ


“กรณีลักไก่แบบนี้ ทำไม่ได้ ต้องตัดทิ้ง อย่างการย้ายห้องสมุดมาอยู่ชั้น 1 พบว่ากรมโยธิการและผังเมืองมาออกแบบแล้ว ตามที่ประธานสภาฯ ดำริไว้ ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว” นายภัณฑิล กล่าว

จากนั้น ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาฯ ชี้แจงว่าประเด็นการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณนั้น เพราะมีการพิจารณาว่าควรแก้ปัญหาด้านต่างๆ สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จึงขอเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ วงเงิน 200 ล้านบาทเป็นงบผูกพันนั้น โดยจะมีพื้นที่ MB1 และชั้น 11 ยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่ามีนาคม 2569 จะได้ข้อสรุป ทั้งนี้ ในส่วนดังกล่าวจะมีค่าควบคุมงาน 6-7 ล้านบาท ส่วนห้องสมุดที่ของบประมาณจัดสร้างใหม่นั้น ข้อเท็จจริงห้องสมุดที่อยู่บริเวณชั้น 9 ไม่ได้ยกเลิก แต่จะสร้างเพิ่มเติมที่ชั้น 1 ซึ่งมีแบบที่ขอความอนุเคราะห์แล้ว ทั้งนี้ แต่ยังไม่มีงบดำเนินการ ขณะที่ประเด็นเรือตรวจการและเรือรับรองนั้น ได้ปรับตัดออกไปแล้ว ขณะที่อาคารจอดรถนั้นได้ยกเลิกอีบิดดิ้งแล้ว ส่วนอนาคตจะมีอีกหรือไม่ ต้องให้เป็นส่วนที่เลขาธิการสภาฯ คนใหม่จะพิจารณาตามที่ได้รับมอบนโยบายจากประธานสภาฯ

เลขาธิการสภาฯ ชี้แจงต่อว่า ห้องประชุม ครม.นั้น จะใช้พื้นที่ห้องริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชั้น 2 ติดกับห้องของ สส. โดยจะปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้พักรอระหว่างพิจารณาของสภาฯ และส่วนที่เกี่ยวข้องในกรณีที่มีองค์ประชุมใกล้เคียงกัน ซึ่งไม่ได้เบียดบังห้องกมธ.แต่อย่างใด ขณะที่โครงการปรับปรุง ศาลาแก้วเพิ่มไว้รองรับผู้มาวางพวงมาลา และพานพุ่มในวันสำคัญ แต่เมื่อพื้นที่ต้องปรับปรุงพื้นที่ลานราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 และต้องมีพระราชพิธี ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อมของสถานที่ ส่วนงบประมาณจะมีเท่าไรที่เหมาะสมต้องพิจารณาอีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]