นโยบายไม่มีรายละเอียด ไม่มีตัวชี้วัด เวลาไม่ชัด

รัฐสภา 11 ก.ย.- “ศิริกัญญา” ชี้คำแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่มีรายละเอียด ตัวชี้วัด กรอบเวลาไม่ชัดเจน ไม่ตรงที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง หวังอยากเห็นนำแนวทางบริหารสมัยคุม”แสนสิริ” มาปรับใช้ทำงาน


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า การแถลงนโยบายที่ดีจะเป็นการกู้คืนความเชื่อมั่น ความศรัทธาของประชาชนต่อรัฐบาลใหม่ให้กลับคืนมาได้ เป็นโอกาสที่รัฐบาลจะให้คำมั่นว่า 4 ปีข้างหน้า จะนำพาความก้าวหน้ามาให้ประชาชนอย่างไรบ้าง และวิธีการใด ทั้งนี้ คำสัญญาที่เป็นรูปธรรม จะเป็นตัวกำหนดความรับผิดชอบที่มีต่อประชาชน และประชาชนสามารถตรวจสอบได้ว่า ได้ทำสัญญาหรือไม่

“คำแถลงนโยบายรัฐบาลที่ดี ต้องเป็นแบบ Government Policy Statement (GPS) ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานตลอด 4 ปีนี้ ด้วยวิธีการใด และปฏิบัติเหมือนที่เคยหาเสียงไว้หรือไม่ และไปถึงเป้าหมายเมื่อไร แต่คำแถลงนโยบายไม่แตกต่างจากในเอกสารที่ออกมาก่อนหน้านี้ ถ้าจะบอกว่านี่คือ GPS ประเทศนี้คงหลงทาง เพราะมีแต่ความว่างเปล่า เบาหวิว แทบไม่ได้บอกอะไรเลย มีแต่คำอธิฐานลอยๆ มีแต่คำกล่าวกว้างๆ ขาดความชัดเจนเป้าที่ไปถึง ไม่มีตัวชี้วัดเป็นตัวเลข มีแต่คำขยาย อย่างเหมาะสม อย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างเป็นธรรม” นส.ศิริกัญญา กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา ได้เปรียบเทียบคำแถลงนโยบายในช่วง 3 รัฐบาลล่าสุด ซึ่งคำสัญญาที่ระบุไว้ในนโยบายต้องมีความชัดเจน ทั้งในเรื่องเป้าหมาย วิธีการ ต้องมีตัวชี้วัดที่เหมาะสมและมีการกำหนดกรอบเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ให้ประชาชนตรวจสอบผลงานได้ว่า เป็นไปตามสัญญาหรือไม่ และที่สำคัญที่สุด ต้องบรรจุนโยบายที่หาเสียงไว้ ถ้าพรรคการเมืองไหนที่ตระบัตย์สัตย์ไม่บรรจุนโยบายที่หาเสียงไว้ โดยปราศจากคำอธิบายที่รับฟังได้ แบบนี้ถือว่า พรรคการเมืองนั้นทรยศความไว้วางใจที่ให้ไว้กับประชาชน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง อยู่เกรดเดียวกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และที่น่าผิดหวัง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มาตรฐานตก ไม่ได้รักษามาตรฐานให้ดีแบบที่รัฐบาลของนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี ที่มีเป้าหมายชัด มีนโยบายที่เคยหาเสียงบรรจุไว้ทั้งหมด มีกรอบระยะเวลาชัดเจน

“คำแถลงนโยบายรัฐบาล ไม่มีรายละเอียดชัดเจน ไม่มีเป้าตัวชี้วัดที่วัดผลได้ ไม่มีกรอบเวลา และไม่ตรงกับนโยบายที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง พร้อมยกตัวอย่าง บางนโยบายเช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท แต่ในคำแถลงระบุแค่ว่า ค่าแรงขั้นต่ำเป็นธรรม และเงินเดือนที่เป็นธรรม หรือนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทก็ไมได้ระบุไว้ในคำแถลงนโยบาย นายกรัฐมนตรีมาจากภาคเอกชน เราก็คาดหวังจะนำแนวบริหารแบบภาคเอกชนมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินในบางเรื่อง แต่ยังไม่เห็นว่า เริ่มใช้ในการแถลงนโยบาย อยากให้คุณเศรษฐาลองนึก ถ้านี้คือ CEO ใหม่กำลังวิสัยทัศน์กับบอร์ด กำลังแถลงกับนักลงทุน หรือกับที่ประชุมผู้ถือหุ้น เป็นท่านท่านจะฟังต่อหรือลุกเดินหนี” นส.ศิริกัญญา กล่าว


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของนายเศรษฐา ในสมัยที่ยังดำรงแหน่งประธานบริษัทแสนสิริ จำกัดมีเป้าหมายและกรอบเวลาชัดเจน และมีตัวเลขชี้วัด และในคำแถลงนโยบายขาดความทะเยอทะยานให้สังคมก้าวหน้าหรือสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง และไม่ค่อยพูดถึงนโยบายที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่กล้าแตะเรื่องยากๆที่ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งตอนหาเสียงกล้าหาญกว่านี้มาก สมัยนายเศรษฐาเป็นผู้บริหาร มีแนวคิดสนับสนุนการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก จึงตั้งคำถามว่า ยังมีแนวคิดนี้หรือไม่ หรือเปลี่ยนความคิดไปแล้ว

“การแถลงนโยบายของนายเศรษฐา คล้ายๆกับพลเอกประยุทธ์ เพราะรัฐบาลกลัวการผูกมัด กลัวจะทำไม่ได้ตามที่สัญญา และเหตุผลที่ทำไม่ได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสมข้ามขั้วที่นโยบายเป็นคนละขั้ว และหาข้อสรุปไม่ได้ จึงต้องเขียนนโยบายแบบกว้างๆไว้ อีกทั้งที่มาของอำนาจต้องเกรงใจกลุ่มอำนาจเก่า กลุ่มทุนต่างๆ จึงไม่กล้าทำเรื่องยาก ๆ ที่ต้องปะทะกับใคร” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จะใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท แหล่งที่มาของงบประมาณจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าใช้งบประมาณแผ่นดินต้องพิจารณาว่างบพอหรือไม่ หรือมีเงินสดพอหรือไม่ หรือหากใช้เงินนอกงบประมาณ จะมี 3 วิธีการคือ กู้ยืมเงินจากธนาคารรัฐ กู้ยืมเงินกองทุนหมุนเวียนหรือไม่ และขายกองทุนวายุภักษ์ หากเลือกใช้งบประมาณ 67 คงไม่เพียงพออย่างแน่นอน เพราะงบที่เหลือจริง ๆที่ ใช้ได้คือ 4 แสนล้านบาท แต่นายกรัฐมนตรีถามพรรคร่วมรัฐบาลอื่นหรือยังที่จะเอางบที่เหลือมาลงกับดิจิตอลวอลเล็ต แต่หากเลือกใช้เงินนอกงบประมาณก็ไม่สามารถทำได้ หากไม่แก้กรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่า จะเคร่งครัดเรื่องวินัยการเงินการคลัง แต่งานแรกจะเริ่มต้นด้วยการทลายกรอบวินัยการเงินการคลังแล้วใช่หรือไม่

“ดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจได้แน่นอน แต่ขอให้ท่านจัดลำดับความสำคัญให้ดี การบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่การพนัน จะเทหมดหน้าตักแล้วไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ ข้อดีของการแถลงนโยบายแบบกว้างๆ คือท่านทำอะไรได้มากว่านั้น ท่านยังมีโอกาสอีกครั้งในการแถลงงบประมาณ ถ้าคำแถลงนโยบายคือคำสัญญา 4 ปี คำแถลงงบประมาณก็จะเป็นคำสัญญา 1 ปี ซึ่งตนยังเฝ้ารอในโอกาสหน้า” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย