กำชับผู้ว่าฯ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขปชช.

โรงแรมเซ็นทาราฯ ลาดพร้าว 8 ก.ย.-“อนุทิน” นำ 2 รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยพบปะผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ  มอบสโลแกน “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” ขอให้ทำงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”  อย่างเต็มที่ ยันไม่มีแบ่งสาย กำชับ ดูแลนายกฯเวลาลงพื้นที่ เป็นผู้บังคับบัญชาของมท.1


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย   พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ พบปะผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย หลังจากเมื่อวานนี้ได้เข้ากระทรวงมหาดไทยเป็นวันแรก

นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่า ถือเป็นโอกาสอันดี เป็นจังหวะที่ดี ที่ตัวเองและรัฐมนตรีช่วยมีโอกาสได้มา พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถือเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวขอบคุณผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยทุกคนได้ให้การต้อนรับอย่างความอบอุ่นและมีไมตรีจิตที่จะทำงานร่วมกัน


สำหรับตัวเองเป็นคนนอกกระทรวงมาก่อนมองว่า กระทรวงมหาดไทยถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนตั้งแต่เกิดเจริญเติบโต สูงวัย สูงอายุ จนสิ้นอายุขัย ทุกอย่างมีความเกี่ยวพันต่อเนื่องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ภารกิจของกระทรวงมหาดไทยจึงแทบจะครอบจักรวาล และมีความสำคัญในทุกอย่าง แต่จะจัดลำดับความสำคัญอย่างไรให้ถูกแปลไปให้เกิดคุณประโยชน์กับประชาชน

นายอนุทิน ขอเน้นย้ำว่า ภารกิจของตัวเอง คือการถวายความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคยไทยทุกคน นี่คือวาระสำคัญของการเป็ารัฐมนตรีมหาดไทย ของตัวเอง และทีมงาน เพราะฉะนั้นเมื่อใดที่อธืบดี หรือผู้ว่าฯ ได้รับภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบัน เราต้องถวายงาน ไม่ต้องมาถามตัวเอง ทำไปเลย ทำอย่างทุ่มเท ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้บังเกิดผลงาน บังเกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศกับประชาชน  ถัดไปคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ไม่ใช่แค่กัยคนใดคนนึง แต่ต้องเป็นประชาชนทุกคน

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีนายธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องคนสนิทของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืน ยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิตว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยที่จะต้องระดมสมองร่วมกันหารือ ที่จะไม่ให้ระบบเหล่านี้มาทำลายชีวิต ทำลายความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ลูกน้องของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งถือปืนเข้ามาสังหารประชาชน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐ โดยความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ความเป็นพ่อเมืองของทุกคน ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้แบบนี้ไม่ได้ และต้องลงไปตรวจสอบว่า คนแบบนี้เป็นกำนัน เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำชุมชนได้อย่างไร และหากประชาชนต้องตาใคยเหล่านี้ประเทศจะเป็นอย่างไร โดยหลังจากนี้จะต้องมีการขึ้นบัญชี สอบประวัติ และพฤติกรรม หากพบมีพฤติกรรมเช่นนี้ คงมาเป็นผู้นำมวลชนไม่ได้ และมีที่เดียวที่จะอยู่ ซึ่งสมัยก่อนสังกัดกระทรวงมหาดไทย แต่ขณะนี้ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ส่งไปปลายทางนั้นที่น่าจะยินดีรับคนเหล่านี้


นายอนุทิน ยังขอเวลาตัวเอง และรัฐมนตรีช่วย ซึ่งจะพยายามเข้ามาจัดลำดับงานเร่งด่วนที่สุด ว่าต้องขับเคลื่อนอย่างไร แต่คิดว่า พื้นฐานก็คงไม่ต่างจากสิ่งที่ตัวเองปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา พร้อมขอความร่วมมืออย่างเต็มที่จากผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทุกคน เพราะมีเป้าหมายคือความสุขของประชาชน ความอยู่ดีกินดี ตัวเองนั้นมั่นใจว่า ทุกคนมีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงสภาพการทำงานให้สอดคล้องก้บยโยบายของผู้ที่เข้ามาบรืหาร วันนี้ตัวเองมีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาล ขอให้มั่นใจว่า แม้จะอยู่ต่างพรรคกัน ขับเคี่ยวกันในการหาเสียง แต่ทุกอย่างก็จบแล้ว มาเป็นคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการขับเคลื่อนงานของตัวเองไม่มีพรรคการเมืองแล้ว มีแต่รัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล

“ขอให้ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ยึดหลักการทำงาน “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” หากใครมีปัญหาเรื่องเร่งด่วน ขอให้โทรหาตัวเอง หรือรัฐมนตรีช่วยได้ทันที อย่าไลน์มา เพราะบางทีไม่ได้อ่าน ไม่ต้องเกรงใจ เพราะบางทีระบบไลน์ก็ทำให้คนเราขาดปฏิสัมพันธ์ ทั้งนี้ขอให้สบายใจกับการทำงานของตัวเอง เพราะเป็นคนติดดิน อยู่ง่ายกินง่าย และจะไม่เป็นภาระกับข้าราชการ หากนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดใด ขอให้ผู้ว่าฯ อยู่กับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีด้วยด้วย อย่ามอบหมายคนอื่น และไม่ต้องเป็นห่วงตัวเองว่า จะไม่มีคนดูแล เพราะมีคนอื่นดูแลอยู่แล้ว อยากให้ไปคอยอธิบายหรือชี้แจงกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครอยู่สายใคร เป็นคนมหาดไทยเหมือนกันหมด เพราะ 1+1 ต้องเท่ากับ 2 ไม่มช่ 1+1 เท่ากับ 1 หรือ 0 จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซื่อสัตย์ สุจริต มีความมั่นคง ใครก็ทำลายความเจริญก้าวหน้าของท่านไม่ได้ และใครมาพูดเรื่องตำแหน่ง หรือผลประโยชน์ก็อย่าไปเชื่อ ถ้าใครอ้างว่าเป็นตัวแทนของตัวเองมาพูด ให้ถ่ายรูปหรือวีดีโอส่งมา แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งถ้าข้าราชการไม่ได้ ทำผิดทำนองคลองธรรม ผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกท่านเป็นอันขาด

“ขอยืนยันตรงนี้และขอให้วางใจว่าจะไม่มีการรับน้องใดๆ ต่อไปคงได้พบปะกันอีก และคงได้เข้าใจความเป็นตัวตนของผมมากขึ้น ขออย่างเดียวคือ ความร่วมมือ ความจริงใจ อย่ารังแกประชาชน อย่าให้ประชาชนถูกรังแก และกำจัดคนที่ชอบรังแกประชาชน ถ้าเกิดความเป็นธรรมแล้วสิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา และขอให้ทำงานให้สนุก ถึงจะเป็นสุข เมื่อสมัยที่คุณพ่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดก็ถูกตีตราขึ้นหน้าหนึ่ง แต่เมื่อแก้ไขชี้แจงได้ ทำให้กลายเป็นสิ่งที่ดี กลับไปถูกนำเสนออยู่ท้ายๆ แต่ตราบาปก็ยังคงอยู่ อาจจะแกะได้หรือแกะไม่ได้เลย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน  นายชาดา  และนายทรงศักดิ์ได้เข้าไปทักทายสมาคมแม่บ้านมหาดไทยที่ประชุมอยู่ห้องติดกัน โดยนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย  เป็นตัวแทนมอบดอกไม้แสดงความยินดี  พร้อมกล่าวเป็นกำลังใจ ซึ่งกล่าวติดตลกว่า อยู่ชมรม  “เกลียมัว” (กลัวเมีย)  พร้อมเล่าว่า ในงานเลี้ยงหนึ่ง พิธีกรประกาศว่าใครกลัวเมียขึ้นมาบนเวที  ตัวเองและคนอื่น ๆ รีบขึ้นเวทีกันหมด ยกเว้นท่านปลัด (สุทธิพล  จุลเจริญ) ที่นั่งคนเดียว  จึงถามว่าทำไมท่านปลัดไม่ขึ้นมา ท่านปลัดตอบว่า คุณวันดี (ภรรยา) ยังไม่ได้สั่ง

“ยุคนี้อย่างที่บอก “ไม่มีครับ มท.1 มีแต่มท.หนู มท.ป้อม (ชื่อเล่นทรงศักดิ์)  มท.หลา (ชื่อเรีอกชาดา) เพราะต้องทำงานด้วยกัน”  แล้วก็ทำให้เป้าหมายคือประชาชน พร้อมฝากไว้สามคำ ให้กรอกหูสามีทุกวันก่อนนอน “ทันสมัย ทันท่วงที ทันเวลา” ถือเป็นสโลแกนในการทำงานของพวกเรา ที่เข้ามาทำงานในยุคนี้” นายอนุทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนร่วมงาน นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เข้ารายงานเหตุกำนันตกเป็นผู้ต้องหาคดีสังหารสารวัตรทางหลวงให้นายอนุทินทราบ.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย