กำชับผู้ว่าฯ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขปชช.

โรงแรมเซ็นทาราฯ ลาดพร้าว 8 ก.ย.-“อนุทิน” นำ 2 รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยพบปะผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ  มอบสโลแกน “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” ขอให้ทำงาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”  อย่างเต็มที่ ยันไม่มีแบ่งสาย กำชับ ดูแลนายกฯเวลาลงพื้นที่ เป็นผู้บังคับบัญชาของมท.1


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย   พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ พบปะผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย หลังจากเมื่อวานนี้ได้เข้ากระทรวงมหาดไทยเป็นวันแรก

นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่า ถือเป็นโอกาสอันดี เป็นจังหวะที่ดี ที่ตัวเองและรัฐมนตรีช่วยมีโอกาสได้มา พบกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งถือเป็นเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวขอบคุณผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยทุกคนได้ให้การต้อนรับอย่างความอบอุ่นและมีไมตรีจิตที่จะทำงานร่วมกัน


สำหรับตัวเองเป็นคนนอกกระทรวงมาก่อนมองว่า กระทรวงมหาดไทยถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนตั้งแต่เกิดเจริญเติบโต สูงวัย สูงอายุ จนสิ้นอายุขัย ทุกอย่างมีความเกี่ยวพันต่อเนื่องกับภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ภารกิจของกระทรวงมหาดไทยจึงแทบจะครอบจักรวาล และมีความสำคัญในทุกอย่าง แต่จะจัดลำดับความสำคัญอย่างไรให้ถูกแปลไปให้เกิดคุณประโยชน์กับประชาชน

นายอนุทิน ขอเน้นย้ำว่า ภารกิจของตัวเอง คือการถวายความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคยไทยทุกคน นี่คือวาระสำคัญของการเป็ารัฐมนตรีมหาดไทย ของตัวเอง และทีมงาน เพราะฉะนั้นเมื่อใดที่อธืบดี หรือผู้ว่าฯ ได้รับภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบัน เราต้องถวายงาน ไม่ต้องมาถามตัวเอง ทำไปเลย ทำอย่างทุ่มเท ที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้บังเกิดผลงาน บังเกิดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศกับประชาชน  ถัดไปคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ไม่ใช่แค่กัยคนใดคนนึง แต่ต้องเป็นประชาชนทุกคน

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีนายธนัญชัย หมั่นมาก ลูกน้องคนสนิทของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ใช้อาวุธปืน ยิงตำรวจทางหลวงเสียชีวิตว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยที่จะต้องระดมสมองร่วมกันหารือ ที่จะไม่ให้ระบบเหล่านี้มาทำลายชีวิต ทำลายความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ลูกน้องของผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งถือปืนเข้ามาสังหารประชาชน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐ โดยความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ความเป็นพ่อเมืองของทุกคน ปล่อยให้เกิดเรื่องนี้แบบนี้ไม่ได้ และต้องลงไปตรวจสอบว่า คนแบบนี้เป็นกำนัน เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำชุมชนได้อย่างไร และหากประชาชนต้องตาใคยเหล่านี้ประเทศจะเป็นอย่างไร โดยหลังจากนี้จะต้องมีการขึ้นบัญชี สอบประวัติ และพฤติกรรม หากพบมีพฤติกรรมเช่นนี้ คงมาเป็นผู้นำมวลชนไม่ได้ และมีที่เดียวที่จะอยู่ ซึ่งสมัยก่อนสังกัดกระทรวงมหาดไทย แต่ขณะนี้ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ให้ส่งไปปลายทางนั้นที่น่าจะยินดีรับคนเหล่านี้


นายอนุทิน ยังขอเวลาตัวเอง และรัฐมนตรีช่วย ซึ่งจะพยายามเข้ามาจัดลำดับงานเร่งด่วนที่สุด ว่าต้องขับเคลื่อนอย่างไร แต่คิดว่า พื้นฐานก็คงไม่ต่างจากสิ่งที่ตัวเองปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมา พร้อมขอความร่วมมืออย่างเต็มที่จากผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยทุกคน เพราะมีเป้าหมายคือความสุขของประชาชน ความอยู่ดีกินดี ตัวเองนั้นมั่นใจว่า ทุกคนมีความยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงสภาพการทำงานให้สอดคล้องก้บยโยบายของผู้ที่เข้ามาบรืหาร วันนี้ตัวเองมีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาล ขอให้มั่นใจว่า แม้จะอยู่ต่างพรรคกัน ขับเคี่ยวกันในการหาเสียง แต่ทุกอย่างก็จบแล้ว มาเป็นคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการขับเคลื่อนงานของตัวเองไม่มีพรรคการเมืองแล้ว มีแต่รัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล

“ขอให้ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ยึดหลักการทำงาน “ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที” หากใครมีปัญหาเรื่องเร่งด่วน ขอให้โทรหาตัวเอง หรือรัฐมนตรีช่วยได้ทันที อย่าไลน์มา เพราะบางทีไม่ได้อ่าน ไม่ต้องเกรงใจ เพราะบางทีระบบไลน์ก็ทำให้คนเราขาดปฏิสัมพันธ์ ทั้งนี้ขอให้สบายใจกับการทำงานของตัวเอง เพราะเป็นคนติดดิน อยู่ง่ายกินง่าย และจะไม่เป็นภาระกับข้าราชการ หากนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดใด ขอให้ผู้ว่าฯ อยู่กับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีด้วยด้วย อย่ามอบหมายคนอื่น และไม่ต้องเป็นห่วงตัวเองว่า จะไม่มีคนดูแล เพราะมีคนอื่นดูแลอยู่แล้ว อยากให้ไปคอยอธิบายหรือชี้แจงกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีใครอยู่สายใคร เป็นคนมหาดไทยเหมือนกันหมด เพราะ 1+1 ต้องเท่ากับ 2 ไม่มช่ 1+1 เท่ากับ 1 หรือ 0 จึงขอให้ทุกคนสบายใจได้ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ซื่อสัตย์ สุจริต มีความมั่นคง ใครก็ทำลายความเจริญก้าวหน้าของท่านไม่ได้ และใครมาพูดเรื่องตำแหน่ง หรือผลประโยชน์ก็อย่าไปเชื่อ ถ้าใครอ้างว่าเป็นตัวแทนของตัวเองมาพูด ให้ถ่ายรูปหรือวีดีโอส่งมา แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งถ้าข้าราชการไม่ได้ ทำผิดทำนองคลองธรรม ผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกท่านเป็นอันขาด

“ขอยืนยันตรงนี้และขอให้วางใจว่าจะไม่มีการรับน้องใดๆ ต่อไปคงได้พบปะกันอีก และคงได้เข้าใจความเป็นตัวตนของผมมากขึ้น ขออย่างเดียวคือ ความร่วมมือ ความจริงใจ อย่ารังแกประชาชน อย่าให้ประชาชนถูกรังแก และกำจัดคนที่ชอบรังแกประชาชน ถ้าเกิดความเป็นธรรมแล้วสิ่งดีๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา และขอให้ทำงานให้สนุก ถึงจะเป็นสุข เมื่อสมัยที่คุณพ่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดก็ถูกตีตราขึ้นหน้าหนึ่ง แต่เมื่อแก้ไขชี้แจงได้ ทำให้กลายเป็นสิ่งที่ดี กลับไปถูกนำเสนออยู่ท้ายๆ แต่ตราบาปก็ยังคงอยู่ อาจจะแกะได้หรือแกะไม่ได้เลย” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน  นายชาดา  และนายทรงศักดิ์ได้เข้าไปทักทายสมาคมแม่บ้านมหาดไทยที่ประชุมอยู่ห้องติดกัน โดยนางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย  เป็นตัวแทนมอบดอกไม้แสดงความยินดี  พร้อมกล่าวเป็นกำลังใจ ซึ่งกล่าวติดตลกว่า อยู่ชมรม  “เกลียมัว” (กลัวเมีย)  พร้อมเล่าว่า ในงานเลี้ยงหนึ่ง พิธีกรประกาศว่าใครกลัวเมียขึ้นมาบนเวที  ตัวเองและคนอื่น ๆ รีบขึ้นเวทีกันหมด ยกเว้นท่านปลัด (สุทธิพล  จุลเจริญ) ที่นั่งคนเดียว  จึงถามว่าทำไมท่านปลัดไม่ขึ้นมา ท่านปลัดตอบว่า คุณวันดี (ภรรยา) ยังไม่ได้สั่ง

“ยุคนี้อย่างที่บอก “ไม่มีครับ มท.1 มีแต่มท.หนู มท.ป้อม (ชื่อเล่นทรงศักดิ์)  มท.หลา (ชื่อเรีอกชาดา) เพราะต้องทำงานด้วยกัน”  แล้วก็ทำให้เป้าหมายคือประชาชน พร้อมฝากไว้สามคำ ให้กรอกหูสามีทุกวันก่อนนอน “ทันสมัย ทันท่วงที ทันเวลา” ถือเป็นสโลแกนในการทำงานของพวกเรา ที่เข้ามาทำงานในยุคนี้” นายอนุทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนร่วมงาน นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เข้ารายงานเหตุกำนันตกเป็นผู้ต้องหาคดีสังหารสารวัตรทางหลวงให้นายอนุทินทราบ.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]