พลังประชารัฐ 30 ส.ค.-พปชร. สงสัย “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” มีเหตุผลอะไรมาวุ่นวายกับพรรคอื่น หลังยื่นหนังสือขอตรวจสอบคุณสมบัติ “พล.ต.อ.พัชรวาท” ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจและเคยเจอมากับตัว กรณีมีคำสั่งยกโทษที่เคยถูกสั่งปลดจากราชการ ย้อนหรือผิดหวังไม่ได้เป็น รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีนายสิทธิชัย หอมศิริวรรณ ทนายความของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยยื่นหนังสือถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพบว่าเคยถูกลงโทษปลดออกจากราชการ อันอาจเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ประกอบ มาตรา 98 (8) ซึ่งระบุไว้ว่า รัฐมนตรีต้องไม่ “เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือฉบับดังกล่าว ถูกส่งถึงกองงานนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐจัดสรรตำแหน่งให้กับบุคคลที่เหมาะสมภายในพรรคเรียบร้อยแล้ว ทั้งการยื่นหนังสือครั้งนี้ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อาจจะมาจากไม่พอใจที่ไม่ได้ตำแหน่งตามที่คาดหวัง จึงนำเรื่องนี้มายื่นเพื่อให้นายกรัฐมนตรีใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา ก่อนนำรายชื่อของ พล.ต.อ.พัชรวาทขึ้นทูลเกล้า ฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า ข้อเท็จจริงคือพล.ต.อ.พัชรวาทเคยถูกคำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อปี 2552 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี จากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อปี 2551 แต่ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและต่อสู้จนได้รับการยกโทษการปลดออกจาราชการ เมื่อปี 2557 สำหรับขั้นตอนตามกฎหมาย การได้รับการ “ยกโทษ” จากการต่อสู้คดีจนเป็นที่สิ้นสุดว่าไม่มีความผิด จะถือว่าคำสั่งให้ออกจากราชการหรือการลงโทษอื่นใดก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อถูกกล่าวหาว่าผิด แต่ต่อมาพิสูจน์ได้ว่าไม่ผิดก็ต้องถือว่าพล.ต.อ.พัชรวาทไม่มีความผิด จะยึดเอาคำสั่งที่สั่งที่ไม่ถูกต้องมาบังคับให้เป็นโทษไม่ได้ ดังนั้น เรื่องนี้จึงถือว่าพล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้ขาดคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในทางตรงกันข้ามพล.ต.อ.พัชรวาทมีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้อง
รายงานระบุว่า กรณีดังกล่าวทำให้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความไม่พอใจการดำเนินการของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นอย่างมาก ทั้งที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เคยเป็นนายตำรวจที่มีประสบการณ์เรื่องถูกสั่งให้พ้นจากราชการ 3 ข้อหา ได้แก่ โครงการเช่ารถ การใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมสั่งการ และออกคำสั่งแต่งตั้งผิดกฎหมาย เมื่อปี 2551 สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่ง นายอภิสิทธิ์เข้ามาสั่งให้ยุติการสอบสวน และยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการดังกล่าวในปี 2553 โดยที่ยังไม่ทันมีการตัดสินว่าผิดจริงหรือไม่ ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ทราบดีว่าคำสั่งและการแก้ไขคำสั่งในลักษณะนี้ ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (8) จึงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ แต่เหตุใดจึงทำเช่นนี้ และตำแหน่งรัฐมนตรีของพล.ต.อ.พัชรวาทก็เป็นโควต้าของพรรคงประชารัฐ พรรคพลังประชารัฐไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายเรื่องการทำโผครม. แต่จัดสรรกันเองภายในพรรค เหตุใดพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในของพรรคอื่น.-สำนักข่าวไทย