เตือน 7 พรรคเลือกคนคุณสมบัติต้องห้าม

รัฐสภา 10 ก.ค. –“เสรี” ส.ว. ยันไม่หนุนนายกฯ ที่มีคุณสมบัติต้องห้าม เตือน 7 พรรคคิดรอบคอบ อาจมีปัญหาถึงขั้นยุบพรรค พร้อมติงนักการเมืองต้องไม่ยุประชาชนลงถนน ส.ว.ไม่สนเสียงกดดันหน้าสภาฯ ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ


นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบสถานภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล จะเป็นปัจจัยการตัดสินใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของส.ว.หรือไม่ ว่า มีผลต่อการตัดสินใจคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีด้วยอยู่แล้ว โดยส.ว.จะหารือทำความเข้าใจกัน การที่กกต. จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นแนวทางที่จะทำให้เกิดความชัดเจน ถูกต้องและแก้ปัญหาเกี่ยวกับความเห็นที่แตกต่างทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ  ซึ่งถือว่าทำถูกแล้ว ซึ่งกกต.ควรยื่นคดีอาญาตามมาตรา 151 ตั้งนานแล้วด้วย ซึ่งการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา

นายเสรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การสกัดกั้นนายพิธาให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องเหล่านี้เป็นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่าให้บุคคลที่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องมึคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนั้น การทำหน้าที่ของส.ส.และสว.ตามรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องทำหน้าที่เลือกคนที่มีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้าม คือต้องไม่ถือหุ้นสื่อไอทีวีตามที่ปรากฏในสื่อ เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่ไม่จำเป็นต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคุสมบัติที่มีความผิดในตัวของมันเอง เพียงเเต่ส่งสารรัฐธรรมนูญให้เกิดข้อยุติเท่านั้นเอง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว


 “ผมยังเป็นห่วง 8 พรรคร่วมที่ไปร่วมเซ็น MOU กันไว้ จะกล้าตัดสินใจเลือกคนที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะจะกลายเป็นว่าเลือกคนที่ขาดคุณสมบัติซึ่งจะขัดรัฐธรรมนูญ 8 พรรคการเมืองที่ว่าไปแล้วก็เหมือนปลาในข้องเดียวกัน หากยังเลือกคนที่ขาดคุณสมบัติ มีลักษณะต้องห้าม จะมีปัญหากับ 7 พรรคการเมืองเหล่านั้น ก็ฝากให้พิจารณาข้อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในส่วนนี้ ฝากแต่ละพรรคการเมืองที่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ ดูรัฐธรรมนูญตามมาตรา 159 หรือยังว่าคนที่จะเลือกได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้าม นายพิธาถือหุ้นสื่อมา 17 ปี ก็เข้าข่ายที่จะถูกวินิจฉัยว่าถือหุ้นสื่อและขัดรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองต้องไปดูตรงนี้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่ากระทำการขัดรัฐธรรมนูญเสียเอง ในส่วนที่ไปเลือกคนที่ไม่มีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ไปเป็นนายกรัฐมนตรีจนกลายเป็นว่าล้มล้างระบบการปกครองหรือไม่ เเต่ก็ยังพยายามที่จะเลือกกัน โดยไม่คำนึงถึงมาตรา 159 และเมื่อขัดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 จะถูกตีความไปไกลอีกเยอะ และท้ายที่สุดแล้วจะทำร้ายตัวคุณเอง ส่วนที่กลัวว่า 188 กว่าเสียง แล้วจะไปตั้งรัฐบาล มันไม่ได้ เกิดจากที่ไหน แต่เกิดจากพวกคุณที่ไปไกลถึงถูกยุบพรรค ผมไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น” นายเสรี กล่าว

ส่วนที่พูดกันว่าส.ว.ไม่เคารพเสียงของประชาชน นายเสรี กล่าวว่า การที่ประชาชนลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองการเมืองที่ตนเองเลือกไม่ได้แปลว่าให้พรรคที่เลือกสนับสนุนพรรคอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี  เท่ากับขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนั้น ๆ แต่การทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีคือหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นคนละส่วนกับคะแนนที่ประชาชนเลือกมา ขอให้ทำความเข้าใจตรงนี้

นายเสรี กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.ค.จะมีการนัดชุมนุมนั้น ซึ่งตนมองว่าไม่ควรยุยงให้ประชาชนลงถนนสร้างความปั่นป่วน เกิดความไม่สงบเรียบร้อย การเป็นนักการเมือง ต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองประชาชน อย่าไปพูดว่าถ้าไม่เลือกแล้วประชาชนจะออกมาชุมนุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่เหมาะสมที่จะขึ้นมาบริหารประเทศหรือเป็นผู้นำประเทศ เพราะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ ยุยงส่งเสริมให้คนทำผิดกฎหมาย สร้างความไม่สงบเรียบร้อยก็ไม่ควรทำ


“ส.ว.ไม่กังวลเพราะทำตามกฎหมาย ถ้าเราเห็นว่าสิ่งใดไม่ถูกต้อง หากเกรงหรือหวาดหวั่นสิ่งที่มากดดัน เราก็ไม่รับผิดชอบ และเราก็คล้อยตามไป ทั้งที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง เราก็ถือว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ สำหรับในกลุ่มส.ว.ของผม ยืนยันที่จะไม่สนับสนุน พรรคการเมืองที่กระทบกับสถาบัน แก้มาตรา 112 และทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  โดยไม่เว้นหมวด 1 หมวด 2 และเชื่อว่าเสียงที่จะสนับสนุนนายพิธาบอกลบไม่เกิน 5 เสียง” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า ไม่กังวลพลังเงียบของกลุ่มส.ว. เพราะว่าพลังเงียบก็คือเงียบ  เงียบหมดไม่มีหรอก ที่บอกว่ามีแต่ไม่ออกมาแสดงตน  มีแต่รายชื่อที่บอกว่าจะสนับสนุนแต่กลับถอย  แล้วที่บอกว่าปัจจุบันได้เพิ่มขึ้น หากมีจริงก็ขอให้แสดงตัว ส่วนจะงดออกเสียงหรือไม่เห็นชอบอยู่ที่กระบวนการ ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะเลือก ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ติดต่อมาที่ตน แต่ติดต่อส.ว.คนอื่น.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]