ยินดีไทย-เกาหลี ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากเซลล์เพาะเลี้ยง

กทม. 9 ก.ค.- โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีไทย – เกาหลี ร่วมมือผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากเซลล์เพาะเลี้ยง (Cell-based inactivated influenza) สร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข เพิ่มขีดความสามารถการผลิตและเข้าถึงวัคซีนในอาเซียน


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ บริษัท SK bioscience Co., Ltd. สาธารณรัฐเกาหลี ในการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวัคซีนเพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศ (Memorandum of Understanding Collaboration on Vaccines for Thai’s Public Health Security) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยจะร่วมกันผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จากเซลล์เพาะเลี้ยง (Cell-based inactivated influenza) เชื่อมั่นจะเป็นโอกาสสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุขของประเทศ และต่อยอดไปยังภูมิภาคอาเซียน รวมถึงแสวงหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการผลิตวัคซีนชนิดอื่น ๆ ผ่านความร่วมมือระดับนานาชาติในอนาคต

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมมีโรงงานผลิตวัคซีน ซึ่งได้ดำเนินการวิจัยพัฒนาการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สำหรับใช้ในกรณีที่มีการระบาดและวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโรคอุบัติซ้ำและอุบัติใหม่ โดยเริ่มวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำโดยใช้เทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากไข่ไก่ (Egg-based technology) นอกจากนี้ยังได้เริ่มการพัฒนาวัคซีนที่ผลิตจากเซลล์เพาะเลี้ยง (Cell-based technology)


ทั้งนี้ การลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ร่วมมือกับ บริษัท SK bioscience Co., Ltd. จากสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลชนิดเชื้อตายจากเซลล์เพาะเลี้ยง ชนิด 3 สายพันธุ์ และ 4 สายพันธุ์ ในรูปแบบของวัคซีนพร้อมบรรจุ (Ready to fill bulk) และถ่ายทอดเทคโนโลยีกระบวนการบรรจุเพื่อการผลิตวัคซีนสำเร็จรูป (Drug product) เพื่อให้มีการใช้สถานที่และระบบสนับสนุนทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้งสร้างองค์ความรู้และความชำนาญให้กับบุคลากร โดยบริษัท SK bioscience Co., Ltd. เป็นผู้ให้คำปรึกษาถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านกระบวนการผลิตและองค์ความรู้ให้กับ อภ. เพื่อสร้างมาตรฐานระดับสากล เช่น การรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO Prequalification Program : WHO PQ) รวมทั้งศึกษาโอกาสตั้งโรงงานผลิตตัวยาสำคัญ (Drug substance) ในไทย เพื่อศักยภาพในการรองรับการระบาดใหญ่ (Pandemic) รวมไปถึงการผลิตวัคซีนชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น วัคซีนงูสวัด โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถขยายขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนสำหรับสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและตอบสนองด้วยการเข้าถึงวัคซีนได้อย่างกว้างขวางทั้งประเทศไทยรวมถึงภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนที่ผลิตได้เอง 3 ชนิด ได้แก่ 1.วัคซีน BCG หรือวัคซีนป้องกันวัณโรค ผลิตโดยสถานเสาวภา 2. วัคซีนไอกรน ชนิดไร้เซลล์ ของบริษัท ไบโอเนท เอเชีย และ 3.วัคซีน JD ป้องกันไข้สมองอักเสบ เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและแบ่งบรรจุ โดยบริษัท โกลบอล ไบโอเทค โปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ อภ.

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการบูรณาการการทำงานในด้านการสาธารณสุขซึ่งเห็นเป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านการสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ความมั่นคงด้านสาธารณสุขส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและเข้าถึงวัคซีนต่าง ๆ ที่สำคัญต่อสุขภาพได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ไทยมีความพร้อมรองรับโรคอุบัติใหม่ และความท้าทายในอนาคต รวมทั้งเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์ไทยสู่เป้าหมายการเป็น Medical Hub ในภูมิภาคอาเซียน” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”