เอกสาร กกต.หลุด! ค้านรับรอง ส.ส. 37 จังหวัด

สำนักงานกกต. 14 มิ.ย.-เปิดเอกสารหลุดจากที่ประชุม กกต. 37 จังหวัด มีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. ขณะที่อีก 40 จังหวัด ไร้เรื่องร้องเรียน 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเอกสารข้อมูลที่เสนอต่อที่ประชุมกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณา วานนี้ (13 มิ.ย.) เพื่อพิจารณาประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต (ครั้งที่ 1) โดยรายละเอียดของเอกสารดังกล่าวเป็นการรวบรวมข้อมูลให้ กกต.พิจารณาว่าผู้ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เขตใดบ้างที่มีเรื่องร้องคัดค้าน โดยมี 37 จังหวัดที่มีผู้สมัครถูกร้องคัดค้าน ดังนี้ กรุงเทพมหานคร  33 เขต มีความเห็นเสนอประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง 32 เขต ยกเว้นเขต 28 น.ส.รัชนก ศรีนอก พรรคก้าวไกล

จังหวัดกาญจนบุรี 5 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต และไม่ประกาศรับรอง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ พรรคเพื่อไทย เขต 3 นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน พรรคภูมิใจไทย และเขต 4 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ พรรคเพื่อไทย, จังหวัดกำแพงเพชร 4 เขต เสนอประกาศรับรอง 3 เขต ไม่ประกาศรับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นายไผ่ ลิกค์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ, จังหวัดขอนแก่น 11 เขต เสนอประกาศรับรอง 9 เขต ไม่รับรอง 2 เขต คือ เขต 4 นายเอกราช ช่างเหลา พรรคภูมิใจไทย และ เขต 11 นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ พรรคภูมิใจไทย


จังหวัดฉะเชิงเทรา 4 เขต ประกาศรับรอง 3 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 3 นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ พรรคเพื่อไทย จังหวัดชลบุรี 10 เขต เสนอประกาศรับรอง 7 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 8 นายจรัส คุ้มไข้น้ำ พรรคก้าวไกล เขต 9 นายยอดชาย พึ่งพร พรรคก้าวไกล และ เขต 10 นายสะถิระ เผือกประพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดชัยภูมิ 7 เขต เสนอประกาศรับรอง 4 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 3 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ พรรคภูมิใจไทย เขต 5 นายศิวะ ธงศ์ธีระดุลย์ พรรคเพื่อไทย และเขต 7 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ พรรคพลังประชารัฐ

จังหวัดเชียงใหม่ 10 เขต เสนอประกาศรับรอง 8 เขต ไม่ประกาศรับรอง 2 เขต คือ เขต 1 น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมพู พรรคก้าวไกล และเขต 9  นายนเรศ  ธำรงทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดตรัง มี 4 เขต เสนอรับรอง 3 เขต ไม่รับรอง 1 คือ เขต 2 นายทวี สุระบาล พรรคพลังประชารัฐ, จังหวัดนครพนม มี 4 เขต เสนอรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 2 เขต คือ เขต 1 นายภูมิพัฒน์ พัชรทรัพย์ พรรคเพื่อไทย เขต 2 นางมนพร เจริญศรี พรรคเพื่อไทย

จังหวัดนครราชสีมา 16 เขต เสนอรับรอง 13 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 5 นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล พรรคเพื่อไทย เขต 10 นายอภิชา เลิศพัชรกมล พรรคเพื่อไทย และเขต 12 นายนรเสรฎฐ์ ศิริโรจนกุล พรรคเพื่อไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช มี 10 เขต เสนอประกาศรับรอง 6 เขต ไม่รับรอง 4 เขต คือ เขต 7 นายษฐา ขาวขำ พรรคภูมิใจไทย เขต 8 นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล พรรคภูมิใจไทย เขต 9 นางอวยพรศรี เชาวลิต พรรคประชาธิปัตย์ และเขต 10  น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล พรรครวมไทยสร้างชาติ


 จังหวัดบึงกาฬ มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือเขต 2 นายสุวรรรณา กุมภิโร พรรคภูมิใจไทย จังหวัดบุรีรัมย์ มี 10 เขต เสนอประกาศรับรอง 6 เขต ไม่รับรอง 4 เขต คือ เขต 4 นางรังสิกร ทิมาตฤกะ พรรคภูมิใจไทย เขต 5 นายโสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย เขต 6 ในศักดิ์ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย และ เขต 7 นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน พรรคภูมิใจไทย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นายสังคม แดงโชติ พรรคภูมิใจไทย

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 5 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 2 นายชริน วงศ์พันเที่ยง พรรคก้าวไกล เขต 3 น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ พรรคภูมิใจไทย และเขต 5 นายประดิษฐ์ สังขจาย พรรคภูมิใจไทย จังหวัดพังงา มี 2 เขต ไม่รับรอง 2 เขต คือ เขต 1 นายอรรถพล ไตรศรี พรรคภูมิใจไทย และ เขต2 นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดพัทลุง มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นางสุพัชรี ธรรมเพชร จากประชาธิปัตย์

จังหวัดพิจิตร มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง  2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ พรรคภูมิใจไทย  จังหวัดพิษณุโลก มี 5 เขต เสนอประกาศรับรอง  3 เขต ไม่รับรอง 2 เขต คือ เขต 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล และ เขต3 นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ, จังหวัดจังหวัดเพชรบุรี มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 2 นายฤกษ์ อยู่ดี จากภูมิใจไทย

จังหวัดเพชรบูรณ์ มี 6 เขต เสนอประกาศรับรอง 3 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 2 นายจักรัตน์ พั้วช่วย พรรคพลังประชารัฐ  เขต 5 นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ พรรคพลังประชารัฐ และเขต 6 นายอัคร ทองใจสด พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดภูเก็ต มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 ว่าที่ร้อยตรีสมชาติ เตชถวารเจริญ พรรคก้าวไกล จังหวัดมหาสารคาม มี 6 เขต เสนอประกาศรับรอง 5 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 2 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ พรรคเพื่อไทย

จังหวัดมุกดาหาร มี 2 เขต เสนอประกาศรับรอง  1 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นายวิริยะ ทองผา พรรคพลังประชารัฐ,จังหวัดยโสธร มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง  2 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 1 นางสุภาพร สลับศรี พรรคไทยสร้างไทย, จังหวัดร้อยเอ็ด มี 8 เขต เสนอประกาศรับรอง 7 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ เขต 3 นางรัชนี พลซื่อ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดเลย มี 4 เขต เสนอประกาศรับรอง 1 เขต ไม่รับรอง 3 เขต คือ เขต 1 นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล พรรคเพื่อไทย เขต 2 นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ พรรคเพื่อไทย และเขต 4 นายสมเจตน์ แสงเจริญรัตน์ พรรคเพื่อไทย

จังหวัดศรีสะเกษ มี 9 เขต เสนอประกาศรับรอง 5 เขต ไม่รับรอง 4 เขต คือ เขต 1 นายธเนศ เครือรัตน์ พรรคเพื่อไทย เขต 2 นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ พรรคเพื่อไทย เขต 3 นายธนา กิจไพบูลย์ชัย พรรคภูมิใจไทย และเขต 8 นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ พรรคภูมิใจไทย จังหวัดสกลนคร มี 7 เขต เสนอประกาศรับรอง 5 เขต ไม่รับรอง  2  เข คือ เขต 4 นายพัฒนา สัพโส พรรคเพื่อไทย และเขต 5 นายชัยมงคล ไชยรบ พลังประชารัฐ จังหวัดสงขลา มี 9 เขต เสนอประกาศรับรอง  8 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือ  เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดสระแก้ว มี 3 เขต เสนอประกาศรับรอง 1 เขต ไม่รับรอง 2 เขต คือ เขต 1 นางขวัญเรือน เทียนทอง พรรคพลังประชารัฐ และเขต 3  นายสรวงศ์ เทียนทอง พรรคเพื่อไทย

จังหวัดสิงห์บุรี มี 1 เขต เสนอไม่รับรอง 1 เขต คือ นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มี 7 เขต เสนอประกาศรับรอง 6 เขต ไม่รับรอง 1 เขต คือเขต  2 นายพิพิธ รัตนรักษ์ รวมไทยสร้างชาติ จังหวัดอำนาจเจริญ มี 2 เขต เสนอไม่ประกาศรับรองทั้ง 2 เขต คือ เขต 1 นางสุขสมรวย วันทนียกุล พรรคภูมิใจไทย และเขต 2 นางญาณีนาถ เข็มนาค พรรคภูมิใจไทย จังหวัดอุดรธานี มี 10 เขต เสนอประกาศรับรอง 9 เขต  ไม่รับรอง 1 เขต คือ ส.ส.เขต 3 นายหรั่ง ธุระพล พรรคไทยสร้างไทย จังหวัดอุบลราชธานี มี 11 เขต เสนอประกาศรับรอง 7 เขต ไม่รับรอง 4 เขต คือ เขต 1 นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ เพื่อไทย เขต 4 นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี เพื่อไทย เขต 7 นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ เพื่อไทย และเขต 10 นายสมศักดิ์ บุญประชม พรรคเพื่อไทรวมพลัง

สำหรับจังหวัดที่เสนอให้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง มีจำนวน  329 เขต ใน 40 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กาฬสินธุ์ จันทบุรี ชัยนาท ชุมพร เชียงราย ตราด ตาก นครนายก  นครปฐม นครสวรรค์  นนทบุรี นราธิวาส น่าน ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี  พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน  ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน สตูล สมุทรปราการ  สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี  สุโขทัย สุพรรณบุรี  สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู  อ่างทอง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.-ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวต ให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็นเพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย เช่น […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]