พรรคประชาธิปัตย์ 2 มิ.ย.-“มัลลิกา” ดักคอ ส.ว. หยุดเสนอช่องทางอื่นตั้งรัฐบาล ขอทุกฝ่ายทำหน้าที่ ให้ยุติที่ข้อกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แล้วไปสิ้นสุดที่ศาล
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข อดีตกรรมการบริหารและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติของสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เพื่อเป็นทางออกประเทศกรณีตั้งรัฐบาลไม่ได้ว่าจะนำไปสู่ความยุ่งยากและสร้างเงื่อนไขต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด หนทางที่ดีที่สุดคือขอให้ทุกฝ่ายทั้งส.ส.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรอง กกต. สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนตามรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ เสร็จสิ้นและยึดถือเอากติกาทั้งในส่วนของระเบียบกกต.และตัวบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้วินิจฉัยจนสิ้นสุดทางเลื่อน จะเป็นเหตุเป็นผลสำหรับการยอมรับได้ของทุกฝ่าย
“แต่หากไปหาหนทางอื่นนอกเหนือจากที่กติกาและกฎหมายกำหนดจะกลายเป็นผูกเงื่อนไขเพิ่มขึ้นจนหาทางออกไม่ได้ อย่างกรณีหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่คุณสมบัติจะได้หรือไม่นั้น สมควรอย่างยิ่งที่กกต.จะได้เร่งดำเนินการในส่วนหน้าที่ของตนเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุดแล้วส่งเรื่องไปสู่การพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญต่อไป” น.ส.มัลลิกา กล่าว
น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า กรณีการถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นประเด็นที่ส.ว.มีความกังวลที่สุดเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภามีหน้าที่โดยตรงตามรัฐธรรมนูญในการกลั่นกรองบุคคลผู้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ยังมีตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นด้วย ดังนั้น ความกังวลของสมาชิกวุฒิสภานั้น ทุกฝ่ายทราบดี กรณีนายพิธานั้นบัดนี้เหลือเพียงเงื่อนไขเดียวคือเรื่องคุณสมบัติ เพราะเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ใน MOU ของการจัดตั้งรัฐบาลแปลว่าไม่ผลักดันแก้หรือยกเลิกกฎหมายในฐานะรัฐบาล
“แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีความกังวลใจว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 151 คนของพรรคก้าวไกลจะไปผลักดันเองในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและในการประชุมรัฐสภานั้นก็เป็นเรื่องอนาคต ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมี 500 คนแต่มีจำนวนเพียงแค่ 151 คนเท่านั้นที่จะไปดันการแก้ไขยกเลิกมาตรา 112 จึงเชื่อว่านอกจากจะบรรจุวาระไม่ได้เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาแล้วแม้ดันทุรังเข้าไปก็ไม่มีใครให้ผ่านอยู่ดีเพราะทุกพรรคไม่มีใครเอาด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ทุกพรรคที่ไม่เอาด้วยแต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เอาด้วย หลักฐานชัดเจนที่สุดคือ 27 ล้านเสียงที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล ดังนั้นการแก้ปัญหาเวลานี้เพียงยึดถือกติกาและช่องทางที่มีอยู่ก็จัดการปัญหาได้แล้วอย่าไปหาทางออกที่เป็นการหาเรื่องให้เป็นเงื่อนไขไม่สิ้นสุด” น.ส.มัลลิกา กล่าว.-สำนักข่าวไทย