แนะ “เศรษฐา” ชี้แจงข้อสงสัยก่อนโหวต

รัฐสภา 21 ส.ค.- “ดิเรกฤทธิ์” ระบุ สว. ยังกังวลจริยธรรม-ท่าที “เศรษฐา” ปมเลี่ยงภาษี-แก้รธน. แนะขอเข้าเเจงในที่ประชุมก่อนโหวต


นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นไปตามหลักการที่สว.หลายคนเสนอต่อสาธารณะว่าหากเสียงส่วนใหญ่ของ สส. เสนอใคร คนนั้นก็มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีถึง 95-100% ซึ่งหากเป็นใคร บุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยถือเป็นเป็นเรื่องพื้นฐาน ซึ่งในส่วนของคุณสมบัติมีเรื่องมาตรฐานจริยธรรม คุณธรรม ความประพฤติอันเป็นที่ประจักษ์ว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาประเทศชาติและนำพารัฐบาลของประชาชนไปสู่ความสำเร็จตามนโยบายที่วางไว้ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ

“ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับการเสนอชื่อ จะต้องแสดงความชัดเจนว่านโยบายจะนำพาประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อย นำความเจริญรุ่งเรืองมาให้ประเทศชาติและประชาชน แต่มีบางคนออกมาแสดงความเห็นว่าหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก ว่าจะมีมติคณะรัฐมนตรีให้มีการจัดทำประชามติ เพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเราต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนว่าการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความจำเป็นอย่างไรมากแค่ไหนที่จะต้องแก้ทั้งฉบับ” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะที่ สส.เลือกมาทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนอยู่แล้ว ทำไมไม่เลือกแค่เฉพาะเรื่องที่สำคัญ และแก้เป็นรายมาตรา ขอถามว่าเรื่องที่จำเป็นจะแก้ จะต้องแก้ทั้งฉบับเลยหรืออย่างไร การแก้ทั้งฉบับมีขอบเขตอย่างไร หมวด 1 หมวด 2 จะเอาไว้หรือไม่ และเรื่องอะไรบ้างที่เป็นองค์กรอธิปไตยใช้อำนาจของประชาชนไปบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการ องค์กรอิสระ มีความเห็นอย่างไร และจะแก้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้ประกอบในการเลือกให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนหากวันพรุ่งนี้เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับการเสนอชื่อ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ก็เข้าองค์ประกอบและเป็นข้อกังวลทั้ง 3 เรื่องที่ได้ระบุไว้ คือนายเศรษฐาเคยมีกรณีถูกกล่าวหา สมัยเป็นบริหารบริษัทเอกชนเคยมีพฤติการณ์เลี่ยงภาษีในการซื้อขายที่ดิน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่นายชูวิทย์ได้มาเปิดเผย และมีการนำเรื่องดังกล่าวมาร้องต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา นอกจากนี้ยังมีเรื่องแก้และยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐา ทั้งนายเศรษฐาและเพื่อไทยสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ รวมทั้งหลักฐานทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องและประชาชน ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อความสง่างาม ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

สำหรับนายเศรษฐาควรเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า นายเศรษฐาไม่ได้เป็นสส.จึงไม่ได้อยู่ในที่ประชุมรัฐสภา แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ซึ่งเกรงว่าจะเสียประโยชน์ ควรทำหนังสือมายังประธานรัฐสภาเพื่อเข้ามาชี้แจงในที่ประชุม เช่นเดียวกับส่วนราชการอื่น ๆ ก็เคยมาชี้แจง หรือให้นายเศรษฐามาสแตนด์บายแล้วให้ สส.เสนอญัตติให้นายเศรษฐาเข้ามาชี้แจง แสดงเหตุผลพร้อมหลักฐานก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท