เหตุกฎหมายบิดเบี้ยวทำ ก้าวไกล ยกประธานสภาฯ ให้เพื่อไทยไม่ได้

กรุงเทพฯ 25 พ.ค.-นักวิชาการ ระบุตำแหน่งประธานสภาฯ กับการเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญกว่าครั้งอื่น เหตุความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญที่ให้ ส.ว.เลือกนายกฯ ชี้ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติยังต่อรองกันได้ แต่รอบนี้ถ้าก้าวไกล ยกประธานสภาฯ ให้เพื่อไทย มีสิทธิชวดตำแหน่งนายกฯ ด้วย


ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความสำคัญของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ จะถือเป็นผู้คุมเกมในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้กำหนดวาระของกระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีวาระสำคัญหลายเรื่องที่ใช้เป็นจุดแข็งหาเสียงไว้ รวมถึงจุดแข็งการตั้งพรรค เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม การแก้ไข กฎหมายมาตรา 112 หรือกฎหมายการผูกขาดสุราก้าวหน้า เป็นต้น หากตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคอื่น การคุมเกมในสภาฯ จะทำได้ยาก จึงเป็นสาเหตุที่ตำแหน่งประธานสภามีความสำคัญกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการช่วงชิงตำแหน่งนี้ แต่ประเด็นที่มีความสำคัญมากกว่าคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งพรรคทั้งหลายยืนยันหลักการว่าพรรคที่ได้เสียงข้างมากที่สุดในสภาฯ จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ นายพิธาอาจจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากวุฒิสภา (ส.ว.) ดังนั้น พรรคก้าวไกลในฐานะที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด หากยกตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคเพื่อไทยตอนนี้ อาจจะทำให้เสียทั้ง 2 ตำแหน่งก็ได้ จึงทำให้ไม่สามารถต่อรองกันได้


“หากให้ประเมินพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีคะแนนห่างกันแค่ 10 ที่นั่ง ซึ่งหากเป็นสถานการณ์ปกติ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกับตำแหน่งประธานสภาฯ อาจจะแบ่งกันได้ แต่เรากำลังอยู่ในกลไกของการเมืองที่บิดเบี้ยวจากรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ส.ว. ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และอีกประเด็นคือนายพิธาอาจถูกตัดสิทธิ์เรื่องคุณสมบัติกรณีถือหุ้นสื่อดังนั้น การต่อรองทำได้ยาก ถ้าในสถานการณ์ปกติ พรรคเพื่อไทย อาจจะหาหรือว่าพรรคก้าวไกลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ในจุดที่ มีความบิดเบี้ยวเกิดขึ้น ถ้าพรรคก้าวไกลยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรคเพื่อไทย ก็อาจจะทำให้ เสียตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานสภาฯ ก็ได้” ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าว

เมื่อถามว่าคะแนนที่ต้องเกาะเกี่ยวกันเพื่อจับมือเป็นรัฐบาล จะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรคในการตั้งรัฐบาลหรือไม่ ศ.ดร. สิริพรรณ กล่าวว่า ตอนนี้มีปัญหาแน่ ๆ ถ้าในมุมของพรรคเพื่อไทยที่มองได้ว่าเมื่อคะแนนห่างกันเพียง 10 ที่นั่ง เขาจะต้องยอมยกทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล ก็อาจจะรู้สึกว่าให้มากเกินไป เพราะการสัญญากันตั้งแต่ต้น คือพรรคอันดับ1 มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่พูดคุยต่อรองกันได้ หากมองทั้งสองมุมก็จะเห็นว่ามีความยากลำบากที่การจัดสรรตำแหน่งไม่ลงตัว โดยประเด็นหลักอยู่ที่ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยบอกว่าหากไม่ให้ตำแหน่งประธานสภาฯ จะถอนตัว พรรคก้าวไกลก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคเพื่อไทยได้ ซึ่งในแง่นี้พรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า เพราะพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับพรรคอื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ตามที่ประกาศไว้

ส่วนทางออกจะไปในทิศทางใด ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า ทางออกได้ยากมาก เพราะเห็นถึงความจำเป็นของทั้งสองพรรคที่อยากจะได้ตำแหน่งประธานสภา ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลมาจากการออกแบบรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว ที่ทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคอันดับหนึ่งมีความไม่แน่นอน เลยทำให้ต้องต่อรอง พอรัฐธรรมนูญออกแบบมาแบบนี้ทำให้การต่อรองเป็นเรื่องเหมือนน่ารังเกียจ แต่ก็อยากให้มองเป็นเรื่องปกติในระบอบรัฐสภา ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการช่วงชิงอำนาจ แต่เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยยาก


ศ.ดร. สิริพรรณ กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ประนีประนอม แล้วส่งคนท้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร อาจทำให้ได้คะแนนเสียงชนะพรรคก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกลจะมีคะแนน 152 เสียง รวมกับพรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย ส่วนพรรคอื่นที่เหลือก็มีสิทธิ์ที่จะโหวตให้ผู้ท้าชิงจากพรรคเพื่อไทย ถ้ามีการเสนอแข่ง ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งแรกไปก่อน อีกทั้งยังเป็นการโหวตลับ และหากเป็นแบบนั้นพรรคเพื่อไทยจะถูกมองว่าหักหลังพรรคก้าวไกล แต่ถ้ามองอีกแบบหนึ่งเป็นการต่อสู้กันในระบอบรัฐสภาปกติ เพราะไม่ได้มีคำสัญญาว่าจะโหวตให้กับประธานสภาฯ ของพรรคก้าวไกล ทางออกคงต้องเจรจากัน ถ้าพรรคก้าวไกลจะขอตำแหน่งนี้ไว้ต้องแลกกับอะไรบ้าง ต้องเป็นการพูดคุยกันนอกรอบ ไม่ใช่ออกมาปะทะกันผ่านสื่อเพราะจะทำให้กองเชียร์ของแต่ละฝั่งโจมตีกันมากขึ้น ไม่เป็นผลดีกับทั้งสองพรรค

เมื่อถามว่า ถ้าตกลงกันไม่ได้พรรคก้าวไกลจะเดียวดายในสภาหรือไม่ ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ ตำแหน่งประธานรัฐสภาเป็นตำแหน่งคุมเกมฝ่ายนิติบัญญัติ มีความหมายมากกว่าการเป็นประธานในที่ประชุม พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ใช้กระบวนการนิติบัญญัติในสภาฯ แสดงจุดยืนทางการเมือง และสร้างความผูกพันกับประชาชนค่อนข้างมาก ผ่านการเสนอนโยบายสมรสเท่าเทียม การยุติการเกณท์ทหาร รวมถึงประเด็นการแก้ไขม.112

“การคุมเกมในสภาผู้แทนราษฎรโดยประธานรัฐสภาจึงมีความสำคัญกับพรรคก้าวไกล แต่ต้องไม่ลืมว่าอำนาจต่อรองระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ใกล้เคียงกันมาก เพราะกันแค่ 10 คะแนน และถ้ารวมกับพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยก็มีเท่า ๆ กับพรรคก้าวไกล การต่อรองตำแหน่งประธานสภาฯ จึงมีความสำคัญกับทั้ง 2 พรรค ก็อยากให้คุยกัน ขณะที่สื่อและแฟนคลับของทั้ง 2 พรรคต้องใจเย็น ปล่อยให้เป็น กระบวนการต่อรองโดยคะแนนเสียงในสภาฯ เพราะไม่อย่างนั้นถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล ก็จะกลายเป็นฝั่งของขั้วรัฐบาลปัจจุบันเข้ามาฉกฉวยเสี้ยมให้สองพรรคนี้แตกกันได้ง่าย” ศ.ดร.สิริพรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส