“พล.อ.ประยุทธ์” อ้อนชาวใต้ “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ”

ชุมพร 10 พ.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์” นำสมาชิก “รวมไทยสร้างชาติ” ชุดใหญ่ลงพื้นที่ จ.ชุมพร หาเสียงช่วยผู้สมัครช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง อ้อนขอคะแนน “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ” ขอแรงเลือกรวมไทยสร้างชาติทั้งจังหวัด สานต่องานบริหารประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา บูรพชัยศรี รองหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรค เดินทางมาพบปะประชาชน และปราศรัยหาเสียง แนะนำผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 3 เขต


ทั้งนี้ ประกอบด้วย  เขต 1 เบอร์ 11 นายวิชัย สุดสวาสดิ์,เขต 2 เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และ เขต 3 เบอร์ 9 นายสุพล จุลใส โดยทันทีที่เดินทางถึงสนามบินชุมพร มีคณะผู้บริหารพรรคในพื้นที่ภาคใต้ และประชาชนชาว จ.ชุมพรมารอต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์อย่างคึกคักเหมือนทุกจังหวัดที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปหาเสียงโดยหลังจากทักทายกับประชาชนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้เดินทางเข้าตัวอำเภอประทิว เพื่อขึ้นรถแห่หาเสียงพร้อมผู้สมัครทันที โดยขึ้นปราศรัยบนรถแห่ กลางตลาดสด อำเภอปะทิว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้น่าชื่นใจที่ทุกคน ทุกวัยมาพบกัน แต่สิ่งที่ต้องดูคือตอนนี้คนไม่ค่อยแต่งงานมีครอบครัวกัน ทำให้ประเทศไทยมีเด็กเกิดน้อยลง อนาคตจะขาดแคลนแรงงานดังนั้นสิ่งที่จะต้องมองต่อไปข้างหน้าคือจะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหานี้ ที่อาจจะต้องนำเข้ามาบ้าง แต่ส่วนของคนไทยเองจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานฝีมือดี มีงานที่ดีทำ จัดหาตำแหน่งงานให้ เพื่อสร้างมูลค่า ในส่วนของเด็กๆ เยาวชนการศึกษาอยากให้เด็กๆ เรียนและคิดไปด้วยอย่าให้ใครมายุยง เพระโอกาสในประเทศไทยของเรามีมากมาย ต่างประเทศแย่กว่าเรา คนต่างประเทศอยากมาประเทศไทยเพราะรอยยิ้ม อะไรก็ดี วันที่ 14 พ.ค.นี้ก็ขอให้ออกไปเลือกตั้งกัน ขอให้จำเบอร์ของผู้สมัครให้ได้ เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และเบอร์ 22 เบอร์พรรค เลือกให้พรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไป เพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน สัญญาก็คือสัญญา มีคนบอกว่า รักน้อยๆ รักนานๆ แต่ตนไม่เอา อยากให้ รักมากๆ และรักนานๆ ด้วย หน้าตาตนก็พอดูได้ เมื่อวานที่ปัตตานีเรียกตนว่า “แบยุ” ตอนนี้จะเรียกว่าอะไรก็ได้ แต่ขอให้รักมากๆ และรักกันนานๆ  “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ”


“ผมคิดไว้หมดแล้ว เพราะทำมา 8 ปี รู้ปัญหาทั้งหมด ก่อนอื่นต้องหาเงินเข้ากระเป๋าเราก่อน ไม่งั้นมันทำไม่ได้ ผมก็พยายามเชื่อมต่อกับต่างประเทศวันนี้เขามั่นใจประเทศไทย ว่าเป็นประเทศที่น่าจะเข้ามาลงทุนมากที่สุด ภาษีรายได้เราก็มากขึ้น เงินกระเป๋าซ้ายเรามากขึ้น ก็สามารถนำมาจ่ายในกระเป๋าขวาให้กับพวกเราได้ ในการดูแลสวัสดิการต่างๆ ให้กับทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้เดินทางต่อไปยัง อ.ท่าแซะ พร้อมขึ้นรถแห่หาเสียงต่อ โดยระบุว่า วันนี้แม้จะต้องตื่นแต่เช้าขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ แต่เมื่อพบหน้าทุกคนก็รู้สึกดีใจหายเหนื่อย ไม่ใช่คนใต้ แต่ภรรยาเกิดที่ใต้ วันนี้มาด้วยความคิดถึง อยากให้ทุกคนเลือก รวมไทยสร้างชาติเข้าไปเป็นรัฐบาลก็จะทำงานต่อให้กับทุกคนได้มีรอยยิ้ม โดยการแก้ปัญหาให้กับคนตั้งแต่เกิด โต ไปจนถึงสูงอายุ เรื่องสวัสดิการ ทั้งเรื่องสุขภาพ การศึกษาเล่าเรียน เศรษฐกิจ ประมง ปัญหาที่ดินต่างๆ

ถ้า รทสช.ได้เป็นรัฐบาลจะทำเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้นๆ ไป หลังจากที่ทำมาแล้ว วันที่ 14 พ.ค.นี้ขอให้เลือกคนดีที่จะเข้าไปทำงานให้กับประเทศ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติมากๆ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลสานงานที่เคยทำมาแล้วต่อไป ไม่ต้องไปเริ่มใหม่ โดยใน จ.ชุมพร ขอให้เลือกตัวแทนของ พรรค ทั้ง 3 คน ได้แก่ เขต 1 เบอร์ 11 นายวิชัย สุดสวาสดิ์,เขต 2 เบอร์ 12 นายสันต์ แซ่ตั้ง และ เขต 3 เบอร์ 9 นายสุพล จุลใส เลือกทั้งหมดรวมทั้งเบอร์ 22 เบอร์ของ “ลุงตู่” เบอร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย


“รักทุกคน รักจังฮู้ รักนานๆ รักทุกวันไม่มีวันหยุด เสาร์อาทิตย์ก็รัก ตัวจะอยู่หรือไม่อยู่ก็คิดถึงทุกคน วันที่ 14 นี้เลือกรวมไทยสร้างชาติเยอะๆ เราจะได้เข้าไปทำงานให้ แต่ถ้าไม่เลือกเราก็ทำอะไรให้ไม่ได้นะจ๊ะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จากนั้นเดินทาง ไปเทศบาลเมือง จ.ชุมพร เข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.ชุมพร พร้อมขึ้นรถแห่ปราศรัยไปตามถนนสายหลักท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนรับ ส่งเสียงเชียร์สนั่นตลอดสองข้างทาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก 

โดยระหว่างการปราศรัยบนรถแห่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเน้นผลงานความสำเร็จที่เคยทำมาแล้ว และพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในทุกเรื่องเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ภายใต้การบริหารจัดการที่มีคุณภาพ  เพราะตนเคยทำมาแล้วจึงรู้ว่าควรทำเรื่องไหนก่อน หรือเรื่องไหนทำได้ทำไม่ได้ ภายใต้งบประมาณที่จำกัด

“ผมยืนยันว่า หากได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งจะทำให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำเรื่องของความรักสามัคคี ขอให้ประชาชนทุกคนยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักษาความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดิน เยาวชนต้องดูแลรักเคารพพ่อแม่ ที่ผ่านมาในฐานะนายกฯ ได้พยายามทำงานเพื่อความสุขของประชาชน ทั้งเรื่องการทำมาหากินที่อยากให้ทุกคนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุข

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องสวัสดิการรัฐ ที่ได้เคยทำมาให้ทุกคนแล้ว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาในช่วงวิกฤติโควิด 19  เชื่อว่าทุกคนเห็นผลงานมาแล้ว หลายทำมาอย่างต่อเนื่อง ตนสู้ทุกอย่าง ทุกเม็ด แม้ว่ารวมไทยสร้างชาติจะสู้มาอย่างโดดเดี่ยวแต่ตอนนี้มีประชาชนมาสนับสนุน จึงไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป

“ผมขอให้เชื่อมั่นในรวมไทยสร้างชาติ อยากให้เลือกรวมไทยสร้างชาติเข้าไปทำงานเป็นรัฐบาลเดียว เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงาน มีคนมาบอกว่าข้าราชการเป็นช้างป่วย เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีใครชอบที่จะให้ใครมาดูถูกดูหมิ่นกัน อย่าให้ใครมาพูดแบบนี้ทุกคนต้องช่วยกันเลือกทั้ง ส.ส.เขต และเบอร์ 22 เบอร์ลุงตู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ” พล.อ.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล..อ.ประยุทธ์ ย้ำด้วยว่า ใครที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็รีบตัดสินใจ อย่าลังเล ตอนนี้มีเวลาเหลืออีกไม่นานจะถึงวันเลือกตั้งขอให้ เลือกเรา พรรครวมไทยสร้างชาติ เราจะเข้าไปทำต่อ ทำงานทุกอย่างให้คนทุกรุ่นทุกวัย รักทุกคน ถ้าไม่รักจริงไม่อยู่มานานขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนจากหัวใจของ “ลุงตู่”

ขณะที่การปราศรัยจุดสุดท้าย ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีประชาชนชาวหลังสวนสวมเสื้อเหลืองมารอต้อนรับ

โดย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะได้ขึ้นรถแห่หาเสียง และปราศรัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวว่า วันนี้ดีใจที่มา อ.หลังสวน ที่เป็น อำเภอที่สุขสงบ มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ตนขอชื่นชมคนใต้ทุกคนที่รักสถาบันหลักของประเทศ ตนมาด้วยความรักความคิดถึง เอาความรักมาฝาก ขอให้เลือกสุพล จุลใส เบอร์ 9 การเลือกตั้งก็คือการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศสุขสงบ ไม่แตกเป็นฝักเป็นฝ่าย ครอบครัวต้องรักกันเหมือนเดิม อย่าให้ใครมายุแหย่ เด็กและเยาวชนจะต้องมีอนาคตที่ดีบนแผ่นดินไทยผืนนี้  วันนี้รู้สึกอบอุ่นใจมากเพราะมีคนต้อนรับตลอดทาง เพราะเป็นคนที่มีใจตรงกัน ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติไปพร้อมกับลุง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จำเป็นต้องทำเพื่อคนทั้งประเทศ ทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ ขอให้เชื่อมั่น สิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญคือการดูและเรื่องปากท้องของประชาชน มีสวัสดิการให้ทุกคน ทุกช่วงวัย เรื่องเศรษฐกิจต้องทำให้ดีขึ้น ทุกวันนี้ก็มีการลงทุนเข้ามามากแล้ว และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การพัฒนาทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานความมั่นคง บ้านเมืองที่มีวินัย ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายก็อยู่ไม่ได้ เราไม่เคยขัดแย้งกับกฎหมาย กฎหมายไม่เคยรังแกใคร เราต้องรื้อ ลด ปลด สร้างกฎหมายหลายตัว เพื่อให้การพัฒนาประเทศไม่สะดุด

วันนี้มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตผู้พิพากษา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นผมจึงเชื่อมั่นว่าเราจะทำได้และประเทศจะปลอดภัยมีกฎหมายที่ดี ที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน “ลุงตู่ตัวจริงมาแล้ว เสียงดังเหมือนเดิม หน้าตาเหมือนเดิม รักทุกคน ทุกวัยทุกเพศ ทุกอาชีพ ที่ห่วงที่สุดคือเด็กน้อยเหล่านี้เขาต้องมีอนาคต อย่าทิ้ง ส.ส.สุพล เบอร์ 9 ขอให้เลือกเข้ามา และอย่าลืมเบอร์ 22 ให้ลุงตู่เข้าไปทำงาน เราต้องเลือกคนของเราเข้าสภาให้มากขึ้น ลุงตู่จะได้ทำงานให้มากขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]