“ทรัมป์” ประกาศตัวชิง ปธน.สหรัฐปี 2567

ฟลอริดา 16 พ.ย.- อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2567 แม้ว่าเขาจะมีอิทธิพลในพรรครีพับลิกันลดลง หลังจากผู้สมัครที่เขาเลือกด้วยตัวเองทำผลงานไม่ดีในการเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อสัปดาห์ก่อน ทรัมป์ วัย 76 ปี ประกาศต่อผู้สนับสนุนที่คฤหาสน์มาร์-อะ-ลาโกในรัฐฟลอริดาเมื่อค่ำวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า เพื่อให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่และรุ่งเรืองอีกครั้ง เขาขอประกาศเรื่องลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐเป็นประเทศที่กำลังเสื่อมถอย รัฐบาลโจ ไบเดนได้ทำลายเศรษฐกิจสหรัฐในเวลาเพียง 2 ปี ถนนหนทางในเมืองที่เคยยิ่งใหญ่กลายเป็นแหล่งรวมอาชญากรรมรุนแรง เขาจะทำให้ไบเดนไม่ได้รับโอกาสอีก อย่างไรก็ดี ทรัมป์อาจไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่คิด เพราะพรรครีพับลิกันกล่าวโทษผู้สมัครที่ทรัมป์เป็นคนเลือกว่า ทำให้ผลการเลือกตั้งกลางสมัยน่าผิดหวัง บางคนถามอย่างเปิดเผยว่า ทรัมป์คือผู้ที่เหมาะสมสำหรับการเป็นตัวแทนพรรคชิงประธานาธิบดีครั้งหน้าหรือไม่ ทรัมป์ได้ยื่นเอกสารสมัครอย่างเป็นทางการต่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้งไปเมื่อต้นเดือนนี้ และจะเป็นการลงเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของเขา หลังจากชนะเลือกตั้งปี 2559 และพ่ายให้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 ทำเนียบขาวมองว่า ทรัมป์ประกาศตัวแต่เนิ่น ๆ หวังสกัดผู้ที่จะสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน หนึ่งในผู้ที่อาจจะเป็นคู่แข่งของเขาคือ รอน เดอแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาที่ครองตำแหน่งอีกสมัย หลังจากชนะเลือกตั้งกลางสมัยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนด้วยคะแนนท่วมท้น นอกจากนี้ทรัมป์ยังหวังสกัดการถูกตั้งข้อหาอาญาที่เขากำลังถูกสอบสวนในหลายคดี ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ในปี 2560-2564 เพราะอาจทำให้เขาขาดคุณสมบัติในการลงสมัครได้ […]

พรรคเดโมแครตยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ

พรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐต่อไป ในการเลือกตั้งกลางสมัยครั้งสำคัญที่ผลการเลือกตั้งพลิกความคาดหมายที่ว่า พรรครีพับลิกันจะได้ชัยชนะได้ครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

“ไบเดน” ให้คำมั่นจะทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกัน

การเลือกตั้งกลางสมัยในสหรัฐเสร็จสิ้นไปแล้วในวันอังคาร แต่ผลการนับคะแนนยังไม่ทราบแน่ชัดว่า พรรคเดโมแครต หรือ รีพับลิกัน จะได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ในขณะที่พรรครีพับลิกันเข้าใกล้ที่จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ชาวอเมริกันเลือกตั้งกลางสมัยล่วงหน้ามากกว่าปี 2561

วอชิงตัน 8 พ.ย.- ข้อมูลของทางการและหน่วยงานวิจัยในสหรัฐพบว่า ชาวอเมริกันไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยล่วงหน้าในปีนี้แล้วมากกว่า 41 ล้านคน และพบว่าหลายรัฐรวมทั้งรัฐสมรภูมิที่ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากมีคนใช้สิทธิล่วงหน้ามากกว่าการเลือกตั้งกลางสมัยปี 2561 เจ้าหน้าที่เลือกตั้ง ศูนย์วิจัยเอดิสัน และแคตตาลิสต์ บริษัทฐานข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งระบุว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไม่สามารถใช้คาดหมายจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิทั้งหมดได้ และพบว่าแนวโน้มการใช้สิทธิเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เกิดโควิด เพราะหลายคนเลือกไปใช้สิทธิล่วงหน้ามากขึ้น ผู้ชื่นชอบพรรคเดโมแครตมักใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งทางไปรษณีย์หรือไปเลือกด้วยตนเอง มากกว่าผู้ชื่นชอบพรรครีพับลิกันที่มักไปลงคะแนนในวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ยอดผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยปีนี้ยังคงน้อยกว่ายอดผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ที่คนมีความสนใจมากกว่า ประกอบกับเป็นช่วงที่โควิดยังระบาดหนัก ข้อมูลพบว่า รัฐสมรภูมิหลายรัฐมีคนใช้สิทธิล่วงหน้ามากกว่าปี 2561 เช่น จอร์เจียใช้แล้ว 2.5 ล้านคน มากกว่า 2.1 ล้านคนในปี 2561 วิสคอนซินใช้แล้ว 715,000 คน มากกว่า 580,000 คนในปี 2561 เช่นเดียวกับคอนเนตทิคัต เดลาแวร์ เคนทักกี ลุยเซียนา เมน แมสซาชูเซตส์ มิชิแกน นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ เซาท์แคโรไลนาเวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” หาทางต้านกระแสรีพับลิกันในเลือกตั้งกลางสมัย

วอชิงตัน 7 พ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันช่วยกันปกป้องประชาธิปไตย หวังต้านทาน “กระแสสีแดง” ของพรรครีพับลิกันที่กำลังมาแรงในการเลือกตั้งกลางสมัยที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐ ซึ่งอาจปูทางให้โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง ประธานาธิบดีไบเดนวัย 79 ปี หาเสียงที่รัฐนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อปกป้องประชาธิปไตย และกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปก่อจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อต้นปี 2564 เพราะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปี 2563 เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไบเดนไปช่วยหาเสียงให้นางแคธี โฮเคิล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นรัฐฐานเสียงของพรรคเดโมแครต สะท้อนว่าพรรคเดโมแครตกำลังกังวลต่อกระแสของพรรครีพับลิกันที่มาแรง ด้านทรัมป์ วัย 76 ปี ไปช่วยผู้สมัครพรรครีพับลิกันในรัฐฟลอริดาหาเสียงที่เมืองไมแอมี แต่ดูเหมือนว่าอนาคตการเมืองของเขาจะเป็นที่สนใจมากกว่า เพราะฝูงชนพากันถือป้ายและตะโกนเรียกร้องให้เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีก 4 ปี ผลการหยั่งเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายพบว่า ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันมีคะแนนนำผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งกลางสมัยที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.หมดทั้ง 435 ที่นั่ง และ ส.ว.1 ใน 3 จากทั้งหมด 100 คน เนื่องจากไม่พอใจเรื่องเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 40 ปี และมีคนลอบเข้าเมืองเพิ่มขึ้น ชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ผลการเลือกตั้งกลางสมัยมักถูกมองว่าเป็นการลงประชามติต่อประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง หากประธานาธิบดีมีคะแนนนิยมต่ำกว่าร้อยละ […]

คาดว่าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยสหรัฐมากเป็นประวัติการณ์

สื่อสหรัฐรายงานคาดว่า การเลือกตั้งสหรัฐ 6 พ.ย. จะเป็นการเลือกตั้งกลางสมัยที่มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนมากเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ

ชาวอเมริกันเริ่มไปใช้สิทธิเลือกตั้งและตัดสินผลงานรัฐบาลทรัมป์

ชาวอเมริกันเริ่มไปใช้สิทธิเลือกตั้งกลางสมัยของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นเครื่องชี้วัดครั้งสำคัญในผลงานรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ผ่านมา

...