กกต. 10 พ.ค.- “ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต. สื่อทีวีรายงานข่าวเลือกตั้งไม่เป็นกลาง จัดดีเบตหน้าซ้ำไม่เกิน 10 พรรค จาก 70 พรรคการเมือง สร้างความได้เปรียบทางการเมือง ขู่หาก กกต.เพิกเฉย เตรียมรับแรงกระแทก อาจทำเลือกตั้งโมฆะ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบการรายงานข่าวการจัดประชันนโยบายของพรรคการเมืองหรือการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของสื่อมวลชนบางสำนักที่ไม่มีความเท่าเทียม เสมอภาค ทำให้เกิดข้อได้เปรียบกับพรรคการเมืองบางพรรค
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นับตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบสภาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. เป็นต้นมา ได้เฝ้าสังเกตการณ์การทำงานของสื่อมวลชน พบว่ามีสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าว รายงานกิจกรรมการหาเสียงของ ส.ส. และพรรคการเมือง อาจจะไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561 แก้ไขเพิ่มเติม ที่ระบุว่าห้ามผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดใช้สื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หาเสียงเว้นแต่เป็นไปตามที่ กกต.กำหนด ซึ่ง กกต. กำหนดว่าการหาเสียง หรือการรายงานข่าวของสื่อมวลชนนั้นจะต้องเสนอภาค เป็นกลาง และเที่ยงตรง
“ที่ผ่านมาพบว่ามีสื่อมวลชนบางสำนัก โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ มักจะเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้ง เชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาออกโทรทัศน์ โดยเฉพาะการจัดดีเบต ซึ่งในการจัดในหลายครั้งสังเกตว่า ส่วนใหญ่จะเชิญพรรคการเมืองมาไม่ถึง 10 พรรคการเมือง ส่วนใหญ่เป็นพรรคเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคไทยสร้างไทย เป็นต้น ซึ่งเชิญไม่เกิน 10 พรรค ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งเกือบ 70 พรรคการเมือง มีผู้สมัคร 4,781 คน” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ถือเป็นการลำเอียง ไม่เสมอภาค และเที่ยงธรรมในการรายงานข่าว และสื่อบางช่องรายงานข่าวผู้สมัครบางคนทุกวัน โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่เกี่ยวพันกับนักการเมือง ซึ่งอาจจะมีภรรยาไปลงเลือกตั้ง ส่วนตัวคิดว่าการเสนอข่าวแบบนี้ทำให้เกิดผลได้ และผลเสียต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งบางคนบางพรรค จึงมาร้องให้กกต.บังคับใช้กฎหมาย หรือสั่งการไปยังสื่อสำนักต่างๆ ว่าดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ชี้นำ ลำเอียง หรือรายงานข่าวเฉพาะคนที่ตัวเองสนใจ เพราะกฎหมายก็คือกฎหมายต้องยึดถือความเสมอภาค ความเป็นกลาง และเที่ยงตรง จึงจำเป็นต้องมายื่นให้ กกต. รับรู้และดำเนินการตามประเด็นที่กฎหมายกำหนด หากกกต.เพิกเฉยหลังเลือกตั้งก็จะมีประเด็นที่นำมาสู่การฟ้องร้อง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้
เมื่อถามว่า เหตุใดนายศรีสุวรรณ จึงไม่ร้องเรียนพรรคการเมืองอื่นบ้าง เช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะกรณีการหาเสียงโดยยิงแสงเลเซอร์ไปบนสะพานพระราม 8 นายศรีสุวรรณ ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า แล้วมีประเด็นผิดอะไรหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยร้องเรียนเรื่องของการปราศรัยดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มานั้นตนได้ร้องเรียนไปแล้ว ส่วนเรื่องพระราม 8 ขอให้ไปอ่านในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า มีหนังสือของ กกต. ตอบกลับไปยังพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าการใช้สื่อดิจิทัลดังกล่าวนั้น ไม่ผิดกฎหมาย ดังนั้นเมื่อไม่ผิดกฎหมาย ส่วนตัวเป็นนักกฎหมาย จะไปร้องให้อายตัวเอง แต่ในเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ แต่ในแง่กฎหมายนั้นอาจจะไม่ผิดเพรา กกต.กล่าวไปอย่างนั้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย