“บิ๊กป้อม” ปราศรัยใหญ่พิษณุโลก จับมือเกษตรกรก้าวข้ามความยากจน

พิษณุโลก 8 พ.ค. – “พล.อ.ประวิตร” จับมือเกษตรกรก้าวข้ามความยากจน ในเวทีปราศรัย จ.พิษณุโลก มั่นใจมี พปชร. คุณภาพชีวิตจะดีขึ้น มีน้ำ มีที่ทำกิน รายได้มั่นคง พ้นหนี้นอกระบบ


8 พฤษภาคม 2566 เวลา 17.30 น พรรคพลังประชารัฐ เปิดปราศรัยใหญ่ ณ ลานอเนกประสงค์ หน้าธนาคารออมสิน อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม., ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งในภาคเหนือ, นายวราเทพ รัตนากร คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พร้อมด้วยผู้สมัครทั้ง 5 เขตของจังหวัดพิษณุโลก ประกอบด้วย นายอดุลวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ หมายเลข 11 เขต 1 นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ หมายเลข 4 เขต 2 นายหัสนัยน์ สอนสิทธิ์ หมายเลข 7 เขต 3 นายอัศวิน นิลเต่า หมายเลข 7 เขต 4 และนายเอกพงษ์ กุลเจริญ หมายเลข 1 เขต 5 โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน พร้อมตะโกนเลือกเบอร์ 37

พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยว่า ตนและพรรคพลังประชารัฐ พร้อมจะรับใช้ชาวจังหวัดพิษณุโลก เราเลือกคนดีและคนเก่งมาเป็นผู้แทนของประชาชน จึงขอให้เลือกผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 5 เขต และเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 บัตรสีเขียว วันนี้ตนอยากให้คนไทยรักกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งและความยากจนไปด้วยกัน ขอให้เชื่อมั่นในพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครทั้ง 5 คนที่ยืนอยู่ตรงนี้


พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาท/เดือน วงเงินประกันชีวิตอีก 2 แสนบาท ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำทันทีที่พลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล

“เราจะแก้ปัญหาให้เกษตรกรทั้ง 8 ล้านครอบครัว มีเกษตรกร 8 ล้านครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ พรรคพลังประชารัฐ หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เราจะเติมเงินให้ครอบครัวละ 30,000 บาท ส่วนเรื่องน้ำ มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน และนโยบายเรื่องที่ดิน คือ มีเรามีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน เราต้องการทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้ประชาชนมีความยากจน ให้ประชาชนหายจน ถ้ามีพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีคนจนในประเทศ เรายืนยันว่าจะทำให้ประชาชน 20 ล้านคน หายจากความยากจน จากการดำเนินการของพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น ขอฝากให้ชาวพิษณุโลกทุกคนเลือกผู้สมัครทั้ง 5 เขตของเราในบัตรสีม่วง และบัตรสีเขียวเลือกพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 37 ด้วย” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ด้าน ศ.ดร.นฤมล กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า อาชีพหลักของชาวพิษณุโลก ก็คือการทำเกษตร อย่างเช่น การทำนา ปลูกข้าว เรื่องน้ำ ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะถ้ามี พปชร. ก็จะไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน โดยพรรคเราจะสานต่อนโยบายการบริหารจัดการน้ำ เติมน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ เพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ แหล่งน้ำสำรอง และแหล่งน้ำทางเลือก แก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก จัดทำผังน้ำชุมชน จัดระเบียบทางน้ำทั่วประเทศ ยกระดับการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และยังมีในส่วนของนโยบายจัดที่ดินทำกิน จะสานต่อให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ด้วยการปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน โดยเร่งรัดออกเอกสารสิทธิที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จัดที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คนไร้ที่ทำกินกว่า 2 ล้านราย


“นโยบายเหล่านี้ พล.อ.ประวิตร ทำมาตลอด 4 ปี และเราจะเข้าไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติและประชาชน ซึ่งถ้าทุกคนอยากได้ วันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ บัตรเขียว เบอร์ 37 เลือกให้ลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเราจะมาก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกัน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ด้านนายวราเทพ กล่าวว่า ภูมิศาสตร์ที่ตั้งของ จ.พิษณุโลก ถือว่าเป็นทำเลทอง แต่วันนี้ต้องการคนที่จะเข้ามาพัฒนาและแก้ไขปัญหา และตอนนี้อนาคตของพิษณุโลกอยู่ในมือของพี่น้องประชาชน โดยทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ถือว่าตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน และเรื่องน้ำ ถ้าพี่น้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า ลุงป้อมเป็นคนที่ทำได้แน่นอน

“การเลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องเลือกให้ดี ถ้าเลือกไม่ดี มีโอกาสที่จะกลับไปทำให้พี่น้องลำบาก แต่ถ้าเลือกให้ดี พี่น้องมีโอกาสสบาย นโยบายสั้นๆ ที่ผมอยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนในวันนี้ คือ เรื่องของบัตรประชารัฐ ที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว นโยบายของผู้สูงวัย และนโยบายอีกหลายๆ อย่างที่สำคัญ ที่เกี่ยวกับพี่น้องชาวพิษณุโลก รวมถึงเรื่องของที่ดินที่ทำกิน พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าจะมีการดำเนินงานเรื่องเอกสารสิทธิให้กับพี่น้องประชาชน ปัญหาเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง จะไม่มีอย่างแน่นอน” นายวราเทพ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย