“อนุทิน” โชว์นิ่ง ยิ้มรับ “ชูวิทย์” บุกป่วนเวทีดินแดง

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – วางอุเบกขา ใช้สติสู้! “อนุทิน” โชว์นิ่ง ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม หลัง “ชูวิทย์” บุกป่วนเวทีดินแดง ขณะช่วย “ภาดาท์” หาเสียง ด้านประชาชนตะโกนลั่น “เรามาฟังอนุทิน”


2 พฤษภาคม 2566 ณ โดมหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ, คณะผู้บริหารพรรค, น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5 เปิดเวทีปราศรัยช่วย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 6 หาเสียง มีประชาชนมาฟังการปราศรัยประมาณ 1,000 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก

ซึ่งขณะที่นายอนุทิน กำลังพูดแนะนำนโยบาย ปรากฏว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้เข้ามาฟังการปราศรัยจากด้านนอก ก่อนกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทย ผ่านโทรโข่ง เกิดเสียงแทรกเข้ามาในเวทีปราศรัย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมงานของ น.ส.ภาดาท์ ได้ขอร้องให้นายชูวิทย์ ออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวาย


ด้านนายอนุทิน เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงกล่าวบนเวทีว่า “ต่างคนก็นำเสนอนโยบายของตัวเอง ผมนำเสนอนโยบายของภูมิใจไทย ส่วนนายชูวิทย์ ก็คงมีเรื่องราวอยากจะสื่อสาร ก็ปล่อยไป รับฟังและต้อนรับด้วย พี่น้องประชาชนจะมองว่าใครถูกใครผิด ผมไปบังคับใครไม่ได้ นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องของการพักหนี้ กองทุนผู้สูงอายุ เงินกู้ฉุกเฉินที่พี่น้องปรบมือให้ คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำได้ เราก็พูดไป จะเลือกตั้งแล้ว ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า ส่วนคนข้างนอกที่มาโวยวายอยู่นั้น ตนขอตั้งจิตเป็นอุเบกขา ปล่อยวาง และขอทำหน้าที่เพื่อคนไทยให้ดีที่สุด ภูมิใจไทยไม่สร้างความขัดแย้ง”

ระหว่างนั้น มวลชนที่มาฟังปราศรัยได้ตะโกนไล่นายชูวิทย์ว่า “ออกไป ออกไป” ขณะที่บางคนตะโกนว่า “เรามาฟังอนุทิน”

สำหรับการปราศรัยในวันนี้ นายอนุทิน แนะนำผลงานที่สำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ เรื่องของการจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ นโยบายฟอกไตฟรี และการขยายการให้บริการด้านรังสีวิทยา เป็นต้น พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งรอบนี้ อาทิ การพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย, กรมธรรม์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท, การออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท, นโยบายฟรี โซลาร์เซลล์ ติดหลังคาบ้าน ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท และได้รับสิทธิซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคา 6,000 บาท ผ่อนจ่ายเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด เป็นต้น


“ถ้าภาดาท์ได้เป็น ส.ส.ภูมิใจไทย ผมจะมานอนค้างบ้านท่านสักคน ใครให้บ้านผมนอน ผมนอน ขอค้าง 3 วันแก้บน ระหว่างนั้นใครมีปัญหา มาคุยกันเลย ผมรับปาก แก้ไขให้ ทำเต็มที่ ที่สุดแล้ว เลือกคนนี้ คนชื่อภาดาท์ ประชาชนไม่ผิดหวัง สิ่งที่ภาดาท์เจอวันนี้ ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจภาดาท์ เพราะสิ่งที่ได้รับและมากยิ่งกว่า คือ กำลังใจจากพี่น้องประชาชนที่มาฟังเราปราศรัย” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง