พล.อ.ประวิตร นำปราศรัยใหญ่สงขลา ลั่นพร้อมรับใช้ประชาชน

สงขลา 28 เม.ย.-พล.อ.ประวิตร ทำทีมใหญ่ล่องภาคใต้ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จ.สงขลา ชูนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ขอเสียงกวาดทั้ง 9 เขต ลั่นพร้อมรับใช้ประชาชน

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ จ.สงขลา เปิดเวทีปราศรัยใหญ่แห่งแรกของภาคใต้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติสงขลา นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำภาคใต้ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. จ.สงขลา ทั้ง 9 เขต ได้แก่ นายภวัต นิตย์โชติ เขต1 เบอร์ 7 นายอดิสัณห์ ชัยวิวัฒน์พงศ์ เขต 2 เบอร์ 6 นายอาทิตย์ สุวิทย์ เขต 3 เบอร์ 5 นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว เขต 4 เบอร์ 1 นายญาณพง เพชรบูรณ์ เขต 5 เบอร์ 6 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ เขต 6 เบอร์ 5 นายธเนศ ล่องนาวา เขต 7 เบอร์ 7 นายธีรพงศ์ ดนสวี เขต 8 เบอร์ 3 และนายล่องหิ้น ทิพย์แก้ว เขต 9 เบอร์ 2 ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยประชาชนในจังหวัดและพื้นที่ข้างเคียง เข้าร่วมรับฟังนโยบายเต็มพื้นที่ กว่า 8,000 คน เต็มความจุศูนย์ประชุม เพราะครั้งนี้ถือเป็นการปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรก ประชาชนต่างโบกธงให้กำลังใจ พร้อมประสานเสียงโห่ร้องเชียร์ เบอร์ 37 อย่างต่อเนื่อง


พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำทันทีที่พลังประชารัฐได้เข้ามาเป็นรัฐบาล รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐ ยังมีนโยบายดูแลทุกช่วงวัย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือนจนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ เพื่อให้สตรีมีขวัญกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร และอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน ที่เราได้บริหารจัดการมากว่าสามปี ได้ทำให้น้ำบนดิน น้ำใต้ดิน น้ำบ่อ น้ำตื้นต่างๆ เช่นเดียวที่ดินกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่ที่อาศัย ที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ ทั้งนี้เราจะสนับสนุนเงินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 30,000 บาท ทั้ง 8 ล้านครอบครัว เพื่อแก้ปัญหาความยากจน


นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยว่า ถ้าเลือกพรรคพลังประชารัฐวันนี้ หมายความว่าพี่น้องประชาชนเลือกตัวแทนที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลที่จะมาดูแลพวกเราอย่างเต็มศักยภาพ และทำให้ชีวิตของชาวใต้ยกระดับขึ้น ขอให้ทุกคนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เราจะได้รับอะไรคืนมา

“ประเทศไทยวันนี้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พรรคพลังประชารัฐจึงเล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุในประเทศไทยทุกคน ด้วยการมอบสวัสดิการดูแลเป็นรายเดือน รวมไปถึงอนาคตของลูกหลานของเรา ก็ต้องได้รับการดูแลตั้งแต่คลอดออกมา และต้องมีการศึกษาที่ดี เพื่อที่จะได้เติบโตไปอย่างมีศักยภาพและจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศไทยของเราต่อไป ซึ่งคนทั้ง 2 กลุ่มถือว่าเป็นกลุ่มเปาะบางที่พรรคพลังประชารัฐต้องปกป้องให้พวกเขาเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเข้มแข็ง”

ด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวปราศรัยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐยกทัพใหญ่มาจังหวัดสงขลาเพราะเรามั่นใจว่าเราจะได้รับความเมตตาจากพี่น้องที่นี่ ผู้สมัครครั้งนี้แม้หน้าตาจะเปลี่ยนไป แต่ว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายที่จะเข้ามาดูแลสวัสดิการของประชาชนแต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐเราเป็นพรรคแรกที่พูดแล้วทำจริง ๆ ตั้งแต่ปี 62 และครั้งนี้ก็เช่นกัน บัตรประชารัฐของเราในครั้งนี้ลุงป้อมจะเพิ่มเงินจาก 300 บาทเป็น 700 บาทและยังมีวงเงินประกันชีวิตอีกรายละ 200,000 บาทด้วย


“เราต้องการจะเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้เข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ที่เป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเด็กเกิดมาก็ต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างประชาชนทั่วไปก็ต้องได้รับการส่งเสริมให้มีอาชีพ เพื่อที่เขาจะสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองให้ได้ สิ่งนี้ภาครัฐก็จะต้องเข้าไปดูแลเช่นกัน นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ในเรื่องของสวัสดิการประชารัฐไม่ใช่เพียงแค่บัตรประชารัฐเท่านั้น”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก แต่ครั้งนี้หลังจากวันที่ 14 พ.ค.เมื่อเราเข้าไปเป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อ เราจะพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้โดยผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อให้พื้นที่ภาคใต้มีความเจริญมากขึ้น ขอฝากให้พี่น้องประชาชนพิจารณาผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 9 คน 9 เขตด้วย

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐพูดเสมอว่า เราเป็นพรรคของประชาชน ชื่อพรรคก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม นั่นก็คือ การร่วมพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้การดูแลของรัฐ ก็คือรัฐบาล ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพีระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคนำเสนอออกมา คือ ต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีการต่อสู้ทางการเมืองมีพี่น้องหลายท่านติดคุกติดตาราง หลายท่านมีคดีติดตัว หลายท่านต้องเสียลูก เสียเมีย เสียผู้นําครอบครัว ถ้าถามว่า ตั้งแต่มีการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ถามว่าคนไทยได้อะไร ตอบได้ทันทีว่ามีแต่เพิ่มความบอบช้ำ เกิดความแตกแยกความสามัคคี บ้านใดเมืองใดไม่มีความสามัคคี อย่าหวังเลยว่าประเทศชาติจะเกิดความมั่นคง มั่งคั่งอย่างยั่งยืน มีแต่ประชาชนอดอยากปากแห้งทั้งนั้น

“จึงเป็นที่มาของนโยบายสำคัญในเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ต่อจากนี้คนไทยจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวไม่มีการแบ่งแยกสี เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน พูดภาษาเดียวกัน แม้จะนับถือศาสนาที่แตกต่างกันแต่เราจะเลิกทะเลาะ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมพลังของคนไทยทั้งแผ่นดิน รวมเป็นหนึ่งเดียว”

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อถึง นโยบายบริหารจัดการที่ดินทำกิน-น้ำ โดย พปชร.จะสานต่อนโยบายการบริหารจัดการน้ำ ยกระดับทั้งระบบ และปฏิรูประบบที่ดิน คืนที่ทำกินให้ประชาชน เร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทุกประเภท เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด พร้อมจัดที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้คนไร้ที่ทำกินกว่า 2 ล้านคน ทันทีที่เราเข้าไปบริหารประเทศในฐานะรัฐบาล

ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ทีมนโยบายเศรษฐกิจ พปชร. กล่าวว่า วันนี้หัวหน้าพรรคให้ช่วยมาดูเศรษฐกิจภาคใต้ว่าจะสามารถช่วยพัฒนาได้อย่างไร ซึ่งภาคใต้ประกอบไปด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ สตูล นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ที่พรรคจะผลักดันให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบเดียวกันกับภาคตะวันออก ที่จะเห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจเติบโตเป็นเท่าตัว ซึ่งภาคใต้ถือเป็นกำลังสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นรากแก้วที่ต้องทำให้เกิดการฟื้นตัว โดยหัวหน้าพรรคได้มีการคุยกันอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่งร่วมกัน

เมื่อพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาลสิ่งที่ทีมของเราจะทำคือการดูแลเรื่องสินค้าเกษตร การท่องเที่ยวทั้งระบบ ท่าเรือ รวมถึงการเปิดเศรษฐกิจใหม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ไปพร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสงขลามีชายหาดยาวกว่า 200 กิโลเมตร เราจะเอาเศรษฐกิจลงไปช่วยเรื่องการท่องเที่ยวโดยจะพัฒนาเป็นแลนด์บิดเชื่อมติดกับอันดามันและฝั่งอ่าวไทย รวมถึงอีกหลายแห่ง เช่น สุราษฎร์ธานี กระบี่ และจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักที่สำคัญ เพื่อสานต่อโครงการเซาท์เทิร์นซีบอร์ดให้ทั้ง 14 จังหวัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะยกระดับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะเป็นอนาคตสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับลูกหลานต่อไป

“ถ้าอยากจะให้เราทำและให้เป็นอนาคตของลูกหลานต่อไปขอความกรุณาเลือกพรรคพลังประชารัฐเลือกพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”