ปชป.ย้ำ “กองทุนไอเดีย” หมื่นล้านบาทแจกแจงได้

กรุงเทพฯ 12 เม.ย.- “มาดามเดียร์” ย้ำนโยบายกองทุนไอเดีย 10,000 ล้านบาท ของประชาธิปัตย์ แจกแจงได้ ไม่หวังพึ่งงบประมาณแผ่นดิน ชี้งบประเทศยังขาดดุล ห่วงพรรคการเมืองออกนโยบายประชานิยม หวังครองใจ Voter


น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายกองทุนไอเดีย 10,000 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ หลัง กกต.ให้พรรคการเมืองชี้แจงรายได้ที่จะนำมาใช้ในการดำเนินนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน ว่า ที่มาของเงินแจกแจงได้ชัดเจน ทั้งเงินที่มาสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กองทุน USO ของสำนักงาน กสทช. และภาษีจากอุตสาหกรรมบันเทิง

ส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย น.ส.วทันยา กล่าวว่า ทุกๆ นโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองเสนอเป็นเรื่องที่ดี ในการเสนอขายนโยบายให้กับประชาชน แต่ตามที่นักวิชาการหลายฝ่ายกังวลว่า อาจจะเป็นนโยบายที่เป็นแนวประชานิยม เพื่อหวังครองใจ Voter (ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) แต่หลายนโยบายมีการใช้เม็ดเงินจำนวนสูงมาก จึงเกิดคำถามว่าจะนำเม็ดเงินจากที่ไหนอย่างไร


“ขณะนี้ประเทศไทยก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับการบริหารการเงินที่ขาดดุลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการเผชิญปัญหาโควิด-19 ที่ต้องมีการกู้เงินจากต่างประเทศ หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น จนต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะ และยังมีปัญหาด้านการจัดเก็บรายได้ที่ลดน้อยลง แต่ก็เชื่อว่า แต่ละพรรคการเมืองได้คำนวณที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในแต่ละโครงการไว้ครบถ้วนแล้ว ซึ่งต้องรอแต่ละพรรคการเมืองได้ชี้แจง แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถชี้แจงต่อ กกต. และประชาชนได้ว่า เม็ดเงินแต่ละตัวจะมาจากไหน และที่สำคัญแต่ละนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้พึ่งเงินงบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเงินที่มาจากภาคส่วนอื่น” น.ส.วทันยา กล่าว

ส่วนนโยบายการแจกเงินที่ประชาชนฟังดูแล้วหวือหวาน่าสนใจ อาจจะแตกต่างจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา กล่าวว่า แต่ละพรรคก็พยายามทำนโยบายบนหลักการว่า จะอัดเงินเข้าระบบเศษฐกิจอย่างไร เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่จะอัดเงินเข้าระบบ 1 ล้านล้านบาท เพราะสืบเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 และวิกฤติสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน จนถึงค่าสินค้าอุปโภค บริโภค เพิ่มขึ้น

ในขณะที่รายได้ของประชาชนลดน้อยลง จึงเป็นแนวนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าจะอัดเงินเข้าไปหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ แต่การอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบ ไม่ใช่คำตอบเดียวที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยี การให้งบประมาณในการทำวิจัย และมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถคอยดูแลให้คำปรึกษากับภาคธุรกิจองค์กรต่างๆ ที่ขาดทุน ควบคู่กันไป


น.ส.วทันยา ยังย้ำว่า โลกเศรษฐกิจในยุคหน้า เป็นยุคของเศรษฐกิจดิจิทัล การขับเคลื่อนที่จะช่วยสร้างศักยภาพเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย และประเทศอื่นทั่วโลก เติบโตแบบก้าวกระโดด ต้องมีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเป็นองค์ประกอบในทุกภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งด้านเกษตร อุตสาหกรรมหนัง หรือภาคบริการ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี