“ภาดาท์” เชื่อนโยบายพลังงานสะอาด “ภูมิใจไทย” ตอบโจทย์แก้ปัญหาพลังงาน

กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – “ภาดาท์” เชื่อนโยบายพลังงานสะอาด ของพรรคภูมิใจไทย ตอบโจทย์ แก้ปัญหาพลังงานของประเทศไทย “รถเมล์ไฟฟ้า-โซลาร์เซลล์-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า” ถามใครจริงใจกับประชาชนมากกว่ากัน


น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตพญาไท-ดินแดง พรรคภูมิใจไทย เดินหน้าผลักดัน แก้ปัญหาด้านพลังงาน สู่วิถีพลังงานสะอาด ชัดนโยบาย “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” ตอบโจทย์การแก้ปัญหา และแก้ปัญหาด้วยความจริงใจ เพื่อประชาชน

ปัญหาพลังงานทุกวันนี้ มาจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน การขุดซากฟอสซิลที่อยู่ใต้ผืนพิภพ มาเผา มาเป็นพลังงานแบบนี้มาเป็นร้อยๆ ปี ส่งผลให้เกิดโลกป่วย ผู้คนป่วย ยกตัวอย่างเช่น สถานการณ์ PM 2.5 ที่กำลังเกิดขึ้น และหนักขึ้นทุกวัน ซึ่งในหลายๆ ประเทศได้หันมาสนใจมากขึ้นกับ “พลังงานสะอาด”


น.ส.ภาดาท์ กล่าวว่า ประเทศไทยเราโชคดีเหลือเกินที่มีแดดเป็นต้นทุนพลังงานฟรีๆ “ภูมิใจไทย” ขอเสนอนโยบายที่จะนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้คนไทยทั้งประเทศสามารถช่วยกันผลิตไฟฟ้า แล้วก็จะเลิกพึ่งพาโรงไฟฟ้า หรือพลังงานสกปรก ให้ได้มากที่สุด

“ภูมิใจไทย” ขออาสามารื้อระบบพลังงาน เพื่อสร้างพลังงานที่มีเสถียรภาพ ด้วยการเสนอสิ่งที่เป็นรูปธรรมทั้งหมดผ่านนโยบายของพรรคฯ ได้แก่

  1. รถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งรถเมล์ไฟฟ้าได้มีการวิ่งใช้งานแล้วในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2565 จำนวน 1,250 คัน 7 เส้นทาง และในปี 2566 จะมีรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาอีก 1,850 คัน 45 เส้นทาง รวมทั้งสิ้นจะมีรถเมล์ไฟฟ้า 3,100 คัน 122 เส้นทาง สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 500,000 ตัน
  2. “ภูมิใจไทย” ต้องการจะช่วยประชาชนในการลดค่าไฟ โดยทุกบ้าน ทุกหลังคาเรือน จะติดโซลาร์เซลล์ ประชาชนทุกคนก็จะเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ใช้ และผู้ขาย ในเวลาเดียวกัน สู่ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ
  3. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นความภูมิใจของพรรคฯ ที่จะให้ประชาชนทุกคนได้ประหยัดค่าน้ำมัน ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ลดภาระค่าใช้จ่าย

น.ส.ภาดาท์ กล่าวทิ้งท้ายถึงประชาชนว่า ขอให้ทุกท่านคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบว่า พรรคไหนเข้ามาแล้ว เขามีความจริงใจในการที่จะแก้ปัญหา พรรคไหนที่เข้ามาแล้ว เขาพูดจริง ทำจริง นั่นคือ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]