กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – “อนุทิน” ชี้ “ศักดิ์สยาม” เป็นผู้บริสุทธิ์ หลังศาล รธน.ไม่รับคำร้องสอบปมแปรญัตติงบฯ ปี 64 เอื้อ หจก.บุรีเจริญฯ เผยเจ้าตัวจ่อฟ้องกลับทุกคนที่ทำให้เสียหาย เชื่อคนโจมตี “ศักดิ์สยาม” มีนัยมากกว่าเพื่อตรวจสอบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องสอบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีเป็นผู้เสนองบประมาณของกระทรวงคมนาคม ผู้พิจารณา และคณะกรรมาธิการ ที่มีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น ว่า เป็นการแสดงว่าที่ผ่านมา นายศักดิ์สยามบริสุทธิ์ เพราะไม่มีอะไรที่จะชัดเจนและสามารถเชื่อถือได้มากกว่าคำพิพากษาของศาล ซึ่งในคำพิพากษามีคำอธิบายถึงเหตุผลต่างๆ ว่า ทำไมศาลถึงวินิจฉัยออกมาเช่นนี้
เมื่อถามว่า คนที่ออกมาโจมตีนายศักดิ์สยามเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ จะมีนัยอะไรมากกว่าการตรวจสอบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มากกว่านั้นอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้เป็นยุคอะไรก็ไม่ทราบ นิดหน่อยก็หาเรื่องและหาวิธีการทำลายล้างกัน ทั้งที่ทุกคนต่างก็เข้ามาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย มีเจตนารมณ์ที่จะเข้ามารับใช้บ้านเมือง และกรณีของนายศักดิ์สยาม ผู้ร้องก็เป็นผู้แทนด้วยกันทั้งนั้น เป็น ส.ส. จริงๆ แล้วก็น่าจะหาอะไรที่เป็นการสร้างสรรค์ และทำให้เห็นถึงความสามัคคีของตัวแทนของประชาชนมากกว่านี้ ไม่ใช่อะไรๆ ก็หาช่องหาเล็กหาน้อยแล้วฟ้องเป็นคดีขึ้นมา โดยที่หลักฐานก็ทำอะไรไม่ได้ โดยที่ยกข้อกล่าวอ้างมูลเหตุแห่งคดีอะไรก็ไม่รู้ ทั้งเกี่ยวข้องกับเรื่องงบประมาณ เป็น ส.ส.ไม่ควรจะเกี่ยวกับงบประมาณ แต่นายศักดิ์สยามเป็นรัฐมนตรีด้วย ก็ถือว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความยุติธรรม
เมื่อถามว่า ตอนนี้ถือว่านายศักดิ์สยามแสดงความบริสุทธิ์ใจได้แล้ว หลังจากนี้จะเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งใช่หรือไม่ เพราะช่วงนี้เฟดตัวเองออกจากการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เขาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี เขาก็เฟดตัวเองออกมาก็ถูกแล้ว ไม่เคยโวยวาย ไม่เคยต้องถือป้ายข้างถนน ไม่เคยต้องไปตะโกนว่า ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ตัวเองหวังดีต่อบ้านเมือง ทำทุกอย่างเคารพกฎหมาย เคารพคำพิพากษาของศาล เคารพรัฐธรรมนูญ ก็ทำถูกแล้ว
ส่วนคดีเขากระโดง ที่มีการโจมตีกันอีกนั้น น่าจะยกฟ้องเหมือนคดีนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ศาลก็สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่า ที่ดินเป็นอย่างไร ควรเพิกถอนหรือไม่ แต่กรณีนายศักดิ์สยามนั้น ได้แสดงเจตนารมณ์ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเพิกถอนที่ดินไปแล้ว แต่ทางผู้ที่รับผิดชอบก็ยังไม่ตัดสินใจเพิกถอน เพราะก็ต้องดูที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อน แต่ข้อกล่าวหาที่บอกว่า นายศักดิ์สยามใช้อำนาจหน้าที่ ใช้อิทธิพลไปข่มขู่ไม่ให้เพิกถอนนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะปรากฏในคำพิพากษา แต่ตรงข้ามคือ เขาขอให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ถ้าผิดก็ขอให้ดำเนินการเพิกถอน วันนี้สิ่งที่ออกมาเป็นคำพิพากษาต่างๆ แสดงให้เห็นว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ การฟ้องร้องต่างๆ ที่กล่าวหาว่า นายศักดิ์สยามทำหน้าที่ไม่สุจริต ก็เห็นว่าไม่เป็นไปตามนั้น ก็ต้องมีความยุติธรรมกับนายศักดิ์สยามบ้าง ไม่ผิดก็คือไม่ผิด ก็ควรจบเรื่องนี้ไป
ส่วนคนที่ฟ้องร้องนายศักดิ์สยามนั้น นายศักดิ์สยามก็คงไว้ซึ่งสิทธิที่จะฟ้องร้องกลับ เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหาย คิดว่าคงมีการปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมายต่างๆ และอาจจะรวมถึงบรรดา ส.ส.ที่พากันเข้าชื่อร้องกับศาลรัฐธรรมนูญด้วย ก็แฟร์ๆ กัน ถ้าเขาไม่ผิด ก็ไปจงใจทำให้เขาเกิดความเสียหายอย่างนี้ ไปฟ้อง รัฐธรรมนูญเขาก็มีมาตราที่บอกไว้ว่า จงใจใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขณะที่คนที่ฟ้องก็เป็น ส.ส. เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ จะไม่รู้กฎหมายก็ไม่ได้. – สำนักข่าวไทย