นักการเมืองรุ่นใหม่หนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

กทม. 30 มี.ค.- ม.ราชมงคลตะวันออก เขตจักรพงษภูวนารถ จัดเสวนา  “ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่” ขณะตัวแทน “พท.-กก.-พปชร.-ปชป.”ย้ำ หนุนกัญชาทางการแพทย์-ความเท่าเทียมทางเพศ-ทำบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่จักรพงษภูวนารถ จัดเวทีเสวนาทางวิชาการ  หัวข้อ “ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่” ถูกทาง – ถูกใจ – ถูกกฎหมาย? โดยมีนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร พรรคก้าวไกล , น.ส.ลิณธิภรณ์ วรัณวัชรโรจน์ พรรคเพื่อไทย ,น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร  พรรคประชาธิปัตย์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์  พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมเสวนาในประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ กัญชากับสังคมไทยและบุหรี่ไฟฟ้าในมุมมองคนรุ่นใหม่

นายเท่าพิภพ กล่าวยอมรับว่า ในสภาใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันกว่าครึ่งสภา ซึ่งถ้าเป็นห่วงเยาวชนจริงๆก็ควรทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย โดยการนำใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพราะรัฐก็จะได้ภาษีในส่วนนี้มาพัฒนาส่วนอื่นของประเทศด้วย โดยพรรคก้าวไกลยืนยันว่า จะไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าแต่งรสแต่งกลิ่น ดังนั้น นำใต้ดินขึ้นมาบนดินจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย และเป็นการช่วยเกษตรกรด้านใบยาสูบด้วย ส่วนประเด็นกัญชากับสังคมไทย นายเท่าพิภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย จากใต้ดินมาสู่บนดิน ทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าจะจัดการกับกัญชาอย่างไร ซึ่งในร่างกฎหมายกัญชา ตนก็เน้นเรื่องการควบคุมและเรื่องภาษี แต่ตอนนี้ ประเด็นกัญชา เปรียบเสมือนการซ่อมท่อประปาในบ้านแล้วลืมปิดวาล์วหน้าบ้าน ทำให้ทุกอย่างเละเทะไปหมด ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่า ควรให้อำนาจท้องถิ่นพิจารณาว่า จะใช้ในทางสันทนาการหรือไม่ และเชื่อว่า หากมีกฎหมายควบคุมกัญชาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องตรงไปตรงมา


สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ นายเท่าพิภพ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ถือว่า เป็นเรื่องที่ซีเรียส อย่างคำนำหน้า ก็จะเสนอว่า ไม่ใส่คำนำหน้าเลย และพรรคก้าวไกลก็จะเสนอให้ไม่เก็บภาษีผ้าอนามัย เนื่องจากเป็นภาระของผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ต้องสร้างความรู้ตั้งแต่ในสถานศึกษาเพื่อป้องกันการบูลลี่ร่างกายในอนาคต

น.ส.ศิริภา กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ผิดในตัวของมันเอง ไม่ได้สร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนรอบข้าง แต่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยตรง ดังนั้น จึงสามารถทำให้ถูกต้องกฎหมายได้ เพื่อควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง และเมื่อควบคุมแล้วก็จะสามารถเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงและภัยอันตรายให้กับเยาวชนรวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ส่วนการจะใช้หรือไม่ใช้ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของคนในสังคม ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทยนั้น

น.ส.ศิริภา ย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนแค่ทางการแพทย์และเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่สนับสนุนด้านสันทนาการ และขณะนี้เป็นช่วงสุญญากาศ ทำให้เห็นเยาวชนมากมายที่ใช้กัญชา หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ใช้กัญชาแล้วครั้งทำร้ายผู้อื่น ซึ่งกัญชาต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมส่งผลกระทบต่อบุคคลในสังคม สามารถส่งอาการทางประสาทได้ โดยเฉพาะในวันนี้ที่ไม่มีการควบคุมเลย พรรคประชาธิปัตย์ จึงยืนยันคำเดิมว่า ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ น.ส.ศิริภา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ประกอบกับร่างของ ครม. แต่แตกต่างจากของ ครม. เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักของคู่สมรสเท่าเทียมที่มีผลต่อกฎหมายทั้งหมด


นายรัฐภูมิ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ควรจะพูดคุยกันในสภา แต่ส่วนตัวมองว่า หากมีการควบคุมก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก หากมองภาพกว้างเรื่องการท่องเที่ยวก็จะเกิดผลกระทบ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีกฎหมายขึ้นมาควบคุม ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทย นายรัฐภูมิ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีนโยบายในด้านนี้ แต่จากข่าวที่ออกมาเริ่มไปในทางที่โหดร้าย มีการเมาและหลอนและเริ่มทำร้ายคน จึงไม่เห็นด้วย เพราะค่อนข้างฟรีสไตล์เกินไป ส่วนการให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจนั้น จะต้องเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง เพราะยังไม่เห็นมีใครร่ำรวย มีแต่กลุ่มที่ผูกขาดเท่านั้น แถมยังยากจนมอมเมากว่าเดิม สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ นายรัฐภูมิ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐรักทุกคน รวมทั้งกลุ่ม LGBTQ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าจะต้องมีการกำหนดมาตรฐานอายุผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เพราะในเวลานี้ยังไม่มีการควบคุมในกลุ่มเยาวชน นอกจากนี้ ต้องมีมาตรการควบคุมสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า เพราะอยู่ในจำนวนที่ไม่ต่างจากบุหรี่ปกติ ตลอดจนมีมาตรการการควบคุมการโฆษณาชวนเชื่อ แต่การออกกฏหมายที่ควบคุมก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่จะต้องเข้าสู่สภา ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทย น.ส.ลิณธิภรณ์ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนกัญชาทางสันทนาการ แต่สนับสนุนกัญชาเพื่อทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ไม่ได้ผ่านกระบวนการตามกฏหมายปกติ แต่ใช้ช่องทางของกฎหมายการปฏิรูป ทำให้มีการแก้ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ เป็นสาเหตุให้กัญชาหลุดออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งพรรคการเมืองที่เสนอในเรื่องนี้ ควรจะนำร่างกฏหมายกัญชายื่นพร้อมกับประมวลกฎหมายยาเสพติด เมื่อกัญชาถูกปลดล็อคแล้วจะได้มีกฏหมายควบคุม แต่หากจะใช้เพื่อการแพทย์ก็ไม่จำเป็นต้องปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด

สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า รักออกแบบไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนับสนุนสมรสเท่าเทียม ขณะที่รัฐบาลพยายามผลักดัน พ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่ไม่สามารถตอบโจทย์ความหลากหลายและความเท่าเทียมทางการเพศได้ ดังนั้น การมี พ.ร.บ.คู่ชีวิต ไม่ใช่คำตอบ แต่พรรคเพื่อไทยพยายามแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งจะสอดรับกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่มากมาย ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะผลักดันกฎหมายฉบับนี้เพื่อทำให้สำเร็จและเพื่อให้การสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นได้จริง. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย