นักการเมืองรุ่นใหม่หนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น

กทม. 30 มี.ค.- ม.ราชมงคลตะวันออก เขตจักรพงษภูวนารถ จัดเสวนา  “ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่” ขณะตัวแทน “พท.-กก.-พปชร.-ปชป.”ย้ำ หนุนกัญชาทางการแพทย์-ความเท่าเทียมทางเพศ-ทำบุหรี่ไฟฟ้าให้ถูกกฎหมาย


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่จักรพงษภูวนารถ จัดเวทีเสวนาทางวิชาการ  หัวข้อ “ข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่” ถูกทาง – ถูกใจ – ถูกกฎหมาย? โดยมีนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร พรรคก้าวไกล , น.ส.ลิณธิภรณ์ วรัณวัชรโรจน์ พรรคเพื่อไทย ,น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร  พรรคประชาธิปัตย์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์  พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมเสวนาในประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ กัญชากับสังคมไทยและบุหรี่ไฟฟ้าในมุมมองคนรุ่นใหม่

นายเท่าพิภพ กล่าวยอมรับว่า ในสภาใช้บุหรี่ไฟฟ้ากันกว่าครึ่งสภา ซึ่งถ้าเป็นห่วงเยาวชนจริงๆก็ควรทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย โดยการนำใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพราะรัฐก็จะได้ภาษีในส่วนนี้มาพัฒนาส่วนอื่นของประเทศด้วย โดยพรรคก้าวไกลยืนยันว่า จะไม่ให้บุหรี่ไฟฟ้าแต่งรสแต่งกลิ่น ดังนั้น นำใต้ดินขึ้นมาบนดินจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย และเป็นการช่วยเกษตรกรด้านใบยาสูบด้วย ส่วนประเด็นกัญชากับสังคมไทย นายเท่าพิภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย จากใต้ดินมาสู่บนดิน ทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าจะจัดการกับกัญชาอย่างไร ซึ่งในร่างกฎหมายกัญชา ตนก็เน้นเรื่องการควบคุมและเรื่องภาษี แต่ตอนนี้ ประเด็นกัญชา เปรียบเสมือนการซ่อมท่อประปาในบ้านแล้วลืมปิดวาล์วหน้าบ้าน ทำให้ทุกอย่างเละเทะไปหมด ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่า ควรให้อำนาจท้องถิ่นพิจารณาว่า จะใช้ในทางสันทนาการหรือไม่ และเชื่อว่า หากมีกฎหมายควบคุมกัญชาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องตรงไปตรงมา


สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ นายเท่าพิภพ กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ถือว่า เป็นเรื่องที่ซีเรียส อย่างคำนำหน้า ก็จะเสนอว่า ไม่ใส่คำนำหน้าเลย และพรรคก้าวไกลก็จะเสนอให้ไม่เก็บภาษีผ้าอนามัย เนื่องจากเป็นภาระของผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ต้องสร้างความรู้ตั้งแต่ในสถานศึกษาเพื่อป้องกันการบูลลี่ร่างกายในอนาคต

น.ส.ศิริภา กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ผิดในตัวของมันเอง ไม่ได้สร้างผลกระทบโดยตรงต่อผู้คนรอบข้าง แต่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าโดยตรง ดังนั้น จึงสามารถทำให้ถูกต้องกฎหมายได้ เพื่อควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง และเมื่อควบคุมแล้วก็จะสามารถเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงและภัยอันตรายให้กับเยาวชนรวมถึงประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ส่วนการจะใช้หรือไม่ใช้ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของคนในสังคม ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทยนั้น

น.ส.ศิริภา ย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนแค่ทางการแพทย์และเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่สนับสนุนด้านสันทนาการ และขณะนี้เป็นช่วงสุญญากาศ ทำให้เห็นเยาวชนมากมายที่ใช้กัญชา หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ใช้กัญชาแล้วครั้งทำร้ายผู้อื่น ซึ่งกัญชาต่างจากบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมส่งผลกระทบต่อบุคคลในสังคม สามารถส่งอาการทางประสาทได้ โดยเฉพาะในวันนี้ที่ไม่มีการควบคุมเลย พรรคประชาธิปัตย์ จึงยืนยันคำเดิมว่า ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ น.ส.ศิริภา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ประกอบกับร่างของ ครม. แต่แตกต่างจากของ ครม. เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักของคู่สมรสเท่าเทียมที่มีผลต่อกฎหมายทั้งหมด


นายรัฐภูมิ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ควรจะพูดคุยกันในสภา แต่ส่วนตัวมองว่า หากมีการควบคุมก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก หากมองภาพกว้างเรื่องการท่องเที่ยวก็จะเกิดผลกระทบ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีกฎหมายขึ้นมาควบคุม ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทย นายรัฐภูมิ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐไม่มีนโยบายในด้านนี้ แต่จากข่าวที่ออกมาเริ่มไปในทางที่โหดร้าย มีการเมาและหลอนและเริ่มทำร้ายคน จึงไม่เห็นด้วย เพราะค่อนข้างฟรีสไตล์เกินไป ส่วนการให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจนั้น จะต้องเข้ามาศึกษาอย่างจริงจัง เพราะยังไม่เห็นมีใครร่ำรวย มีแต่กลุ่มที่ผูกขาดเท่านั้น แถมยังยากจนมอมเมากว่าเดิม สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ นายรัฐภูมิ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐรักทุกคน รวมทั้งกลุ่ม LGBTQ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าจะต้องมีการกำหนดมาตรฐานอายุผู้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เพราะในเวลานี้ยังไม่มีการควบคุมในกลุ่มเยาวชน นอกจากนี้ ต้องมีมาตรการควบคุมสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า เพราะอยู่ในจำนวนที่ไม่ต่างจากบุหรี่ปกติ ตลอดจนมีมาตรการการควบคุมการโฆษณาชวนเชื่อ แต่การออกกฏหมายที่ควบคุมก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่จะต้องเข้าสู่สภา ส่วนประเด็นกัญชาในสังคมไทย น.ส.ลิณธิภรณ์ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนกัญชาทางสันทนาการ แต่สนับสนุนกัญชาเพื่อทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งการปลดล็อคกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ไม่ได้ผ่านกระบวนการตามกฏหมายปกติ แต่ใช้ช่องทางของกฎหมายการปฏิรูป ทำให้มีการแก้ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ เป็นสาเหตุให้กัญชาหลุดออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งพรรคการเมืองที่เสนอในเรื่องนี้ ควรจะนำร่างกฏหมายกัญชายื่นพร้อมกับประมวลกฎหมายยาเสพติด เมื่อกัญชาถูกปลดล็อคแล้วจะได้มีกฏหมายควบคุม แต่หากจะใช้เพื่อการแพทย์ก็ไม่จำเป็นต้องปลดล็อคกัญชาออกจากยาเสพติด

สำหรับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า รักออกแบบไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนับสนุนสมรสเท่าเทียม ขณะที่รัฐบาลพยายามผลักดัน พ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่ไม่สามารถตอบโจทย์ความหลากหลายและความเท่าเทียมทางการเพศได้ ดังนั้น การมี พ.ร.บ.คู่ชีวิต ไม่ใช่คำตอบ แต่พรรคเพื่อไทยพยายามแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งจะสอดรับกับกฎหมายเดิมที่มีอยู่มากมาย ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล จะผลักดันกฎหมายฉบับนี้เพื่อทำให้สำเร็จและเพื่อให้การสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นได้จริง. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]