พรรคภูมิใจไทย 24 มี.ค. – “ภูมิใจไทย” เสวนาทิศทางกฎหมายกัญชาเพื่อสุขภาพและการแพทย์หลังเลือกตั้ง “อนุทิน” โผล่ร่วมแจม แฉมีพรรคร่วมเสนอ เพื่อสันทนาการในชั้นกรรมาธิการฯ
พรรคภูมิใจไทย จัดเสวนา “ทิศทางกฎหมายกัญชาเพื่อสุขภาพและการแพทย์หลังเลือกตั้ง” นำโดย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง กล่าวเปิดการเสวนาย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยทำครบถ้วนตามที่เคยหาเสียงไว้ แต่เมื่อมีการปลดล็อกกัญชาแล้ว ก็จำเป็นต้องมีกฎหมายออกมาควบคุม แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จเพราะกระบวนการทางการเมือง นอกจากนี้ มีการหยิบยกมาโจมตีและบิดเบือนเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งๆที่เป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองสังคม ดังนั้น หลังจากการเลือกตั้งยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย จะยังเดินหน้าผลักดันให้กฎหมายกัญชาออกมาเพื่อประชาชน แม้ว่าจะมีพรรคก้าวไกล เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ระบุว่า จะเอากัญชากลับเข้าไปเป็นยาเสพติดอีกก็ตาม
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่าเป็นคนหนึ่งที่ท้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินหน้าคัดค้าน พ.ร.บ.กัญชา ซึ่งที่กล้าท้าเพราะนายชูวิทย์พูดผิดและพูดเท็จ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ซึ่งนายชูวิทย์ประกาศว่าไม่เอากัญชาเสรี แต่เป็นคนที่เปิดให้คนสูบกัญชาในโรงแรมของตัวเอง
นายปานเทพ ย้ำว่ากัญชาเสพติดยากกว่า เหล้าและบุหรี่ อีกทั้งยังมีสรรพคุณส่งเสริมสุขภาพโดยใช้เพื่อทางการแพทย์ ลดปัญหายาเสพติดได้อีกด้วย ขณะเดียวกันมีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค อ้างว่าห่วงประชาชนแล้วลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงวาระแรก แต่กลับเตะถ่วงกฎหมาย โดยทำสภาล่มและไม่ลงมติวาระ 3 แล้วนำมาโจมตีทางการเมือง ทั้งๆที่ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขออกมากำหนดแนวทางควบคุมการใช้กัญชาไว้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้ใช้กัญชาผิดวัตถุประสงค์ จึงย้ำว่ากัญชาต้องไม่กลับไปเป็นยาเสพติดอีก
ขณะที่นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า กัญชายังมีข้อเด่น อีกหลายด้าน อย่างการนำมาใช้เป็นพืชเศรษฐกิจ จึงยืนยันว่า เลือกตั้งใหม่ก็จะต้องผลักดันต่ออยู่ดีเชื่อว่าเรื่องนี้ต้านไม่ได้ สุดท้ายประชาชนก็จะชนะ ขอให้ผู้ที่คัดค้านทบทวนใหม่และไม่ให้ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยวิธีการแก้ไขคือการเปิดให้เสรีใช้ได้ตามที่กฎหมายกำหนด แล้วค่อยปิดรอยรั่วของกฎหมาย
ส่วนนายแพทย์ประเสริฐ มงคลศิริ อดีต ผอ.โรงพยาบาลหนองฉาง กล่าวว่า ขณะนี้แพทย์ที่อายุมากออกจากระบบไปหมดแล้ว เหลือแต่แพทย์จบใหม่เด็กๆ ดังนั้น ร่างกายของคนไทยเปรียบเสมือนสมรภูมิรบของสารเคมี จึงอยากถามว่า รัฐบาลสูญเสียงบประมาณกับยาเคมีปีละเท่าไหร่ ทั้งที่กัญชาเป็นคำตอบ ดังนั้นหากยังนำการเมืองมาเล่นกันแบบนี้ ระบบสุขภาพจะล่มสลาย ซึ่งตนสนับสนุนถึงขั้นให้ปลูกกัญชาได้และสนับสนุนให้คนในครอบครัวพึ่งพาตัวเองได้ แล้วมาควบคุมโดยร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และสิ่งที่จะทำให้ระบบสุขภาพไม่ล่มสลาย ทางออกก็คือ กัญชา โดยการทำยากัญชา จึงขอบคุณพรรคภูมิใจไทยและเครือข่ายกัญชาทั้งประเทศ และขอให้เดินหน้าต่อไป
นายพิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การทำกัญชาให้ถูกกฎหมายมันยืดเยื้อ เพราะการรณรงค์เรื่องยาเสพติดนั้นทำไว้ดีมาก ขณะที่กัญชาไม่ใช่เรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของประชาชนและมนุษยชาติ ส่วนทางด้านการแพทย์ กัญชาสามารถรักษาได้หลายโรค รวมถึงโรคจิตเภท ตนจึงมีข้อเสนอให้จัดตั้งองค์กรมหาชนเพื่อมาจัดการกัญชาภายใต้กฎหมายเฉพาะ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์กัญชาเพื่อป้องกันผลประโยชน์ชาติและประชาชน ตั้งกองทุนกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ส่งเสริมกัญชากัญชงและและกระท่อมเพื่อการแพทย์ กัญชง เพื่ออุตสาหกรรม และส่งเสริมความรู้กัญชาศาสตร์ให้แพร่หลายในประชาชนทุกกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่การเสวนาใกล้จะจบลง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย และมาร่วมการเสวนาทันที โดยกล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยประคับประคองให้นโยบายกัญชาเพื่อทางการแพทย์ เดินหน้าต่อในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยจะแสดงให้ทุกคนเห็นชัดเจนว่า ได้วางนโยบายอย่างครอบคลุมแล้วไว้ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งทางการแพทย์ สุขภาพและเศรษฐกิจ อยู่ภายใต้กรอบที่ทำให้กัญชาใช้เพื่อสุขภาพและทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้ใช้เพื่อการมอมเมาหรือสันทนาการต่อให้พูดกี่ครั้ง คนที่ไม่สนับสนุน พรรคภูมิใจไทยก็จะพูด แต่ในทางเสียหาย ยืนยันว่า เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าถึงกัญชาได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ตัวแทนของพรรคการเมืองที่ออกมาต่อต้านกัญชาก็เป็นกรรมาธิการฯ เคยพูดว่าทำไม ไม่มีกัญชาเพื่อสันทนาการ ด้วยการแบ่งโซนนิ่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว แต่พรรคภูมิใจไทยก็คัดค้าน ต้องรอให้เป็นที่ยอมรับก่อนค่อยขยายเป็นวงกว้าง ภายใต้กรอบของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า กฎหมายที่พรรคภูมิใจไทยผลักดัน ก็เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ ด้วยความจริงใจในทางกฎหมาย ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยไม่เคยสัญญาว่าจะมีกฎหมายกัญชากับใคร แต่ยืนยันว่าจะถอดกัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งก็ดำเนินการไปแล้ว และเพื่อให้สังคมวางใจในการใช้กัญชา จึงเสนอกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
พร้อมย้ำว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ไม่ใช่ความคิดเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพียงคนเดียว แต่เป็นความเห็นร่วมกันจาก ปปส. และคณะกรรมการระดับชาติ ที่พิจารณาร่วมกัน ซึ่งได้ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดีแล้วด้วยหลักวิชาการ เหตุผลและความจำเป็นที่จะดำเนินการให้กัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์กับสุขภาพและเศรษฐกิจทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นายอนุทิน ย้ำว่าหลังจากนี้จะต้องพูดกับทุกพรรคการเมืองว่าหากได้กลับไปร่วมรัฐบาลกันอีกครั้ง ก็จะต้องผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้ประสบความสำเร็จให้จงได้ เพราะประชาชนรออยู่ ผู้แทนราษฎรจะเห็นแก่ตัวไม่ได้ ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและประชาชน โดยยืนยันพรรคภูมิใจไทยไม่มีถอย พร้อมขอให้ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทย กลับเข้ามาสนับสนุนกฎหมายนี้ให้สำเร็จ เพราะหลักการและเหตุผลยังอยู่ สามารถเดินหน้าได้ต่อ.- สำนักข่าวไทย