“เศรษฐา” ย้ำจัดเต็มทุกเวทีปราศรัย ขอไม่เทียบ “ทักษิณ”

นนทบุรี 22 มี.ค.- “เศรษฐา” นำเพื่อไทย เดินตลาดสดเทศบาลนนท์ฯ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย พ่อค้าแม่ค้าเชียร์ตลอดทาง ย้ำจัดเต็มทุกเวทีปราศรัย ขอไม่เทียบ “ทักษิณ” พร้อมหยิบยกหลัก “คิดเร็ว-ทำเร็ว” มาใช้บริหารงาน ด้าน “หมอชลน่าน” ระบุให้รอ กก.บห. เคาะ 3 รายชื่อแคนดิเดต 5 เม.ย.นี้


แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์, นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์, นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร, นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์, นายปณรัศม์ วันชาญเวช นายนิยม ประสงค์ชัยกุล, นายนพดล แก้วสุพัฒน์ และนายจำลอง ขำสา ว่าที่ผู้สมัครส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เดินตลาดสดเทศบาลนนทบุรีเพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้าสอบถามเรื่องราคาสินค้า สภาพเศรษฐกิจ และการค้าขาย รวมถึงพบปะทักทายพี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในช่วงเย็น

โดยช่วงหนึ่งนายเศรษฐา ได้แวะคุยกับเจ้าของร้านทอง ซึ่งเจ้าของร้านทองแซวว่า “ทำไมตัวจริงหล่อจังเลยล่ะ หล่อกว่าในรูปและในทีวีตั้งเยอะ” ทำให้นายเศรษฐายิ้มเขิน ก่อนเจ้าของร้านทองจะสะท้อนปัญหาว่า “ทุกวันนี้เงียบมาก ลูกค้าหายหมดเลย” นายเศรษฐา จึงตอบว่า “อีกแป๊[เดียวเท่านั้นครับ อีกแป๊บเดียวเท่านั้น ทุกอย่างจะดีขึ้น”


นอกจากนี้ พ่อค้าแม่ค้าบางคนเข้ามาทักทาย นายเศรษฐา และคณะ บางคนเข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจ และหลายคนเดินเข้ามาสวมกอด นายพานทองแท้ และนายเศรษฐา ก่อนตะโกนออกมาพร้อมกันว่า “เพื่อไทย ๆ ๆ ๆ” บางคนตะโกนว่า “ขอนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย” และ “เพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์นะ” โดยพ่อค้าแม่ค้าปลาทอดได้บอกนายเศรษฐาว่า “เพื่อไทยสู้ๆ สู้มาตลอดแล้ว ต้องสู้ต่อนะ”

ช่วงหนึ่งประชาชนได้ขอถ่ายภาพกับนายเศรษฐา ซึ่งนายเศรษฐาได้กล่าวติดตลกว่า “ต้องย่อนะครับ เพราะผมสูง 192 เดี๋ยวเห็นไม่หมด”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเดินตลาดเป็นไปอย่างคึกคักตลอดเส้นทางที่คณะพรรคเพื่อไทยเดินผ่าน มีประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าร้านค้าต่างๆ ระหว่าง 2 ข้างทางเดินออกมาทักทายตลอดทั้งเส้นทางด้วย


นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเวทีปราศรัยจังหวัดนนทบุรีนี้ถือเป็นเวทีแรกหลังจากมีการยุบสภาจะมีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ว่า ตนจัดเต็มทุกเวทีไม่มีข้อยกเว้น เราเสนอนโยบายตามความเป็นจริงทุกอย่างซึ่งมีหลายอย่าง แต่โดยหลักๆ แล้ว เน้นที่เรื่องปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วโดยที่เราไม่จำเป็นต้องขยายความมาก วันนี้จบลงแล้วจากที่มีการยุบสภา วันนี้เรากำลังอยู่ในกระบวนการคืนอำนาจสู่ประชาชน ตนก็ขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมากๆ

เมื่อถามว่า ในรายการของแคร์ คิด เคลื่อนไทยเมื่อคืน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เปรียบเทียบนายเศรษฐาว่าเหมือนนายทักษิณ ที่มาทำการเมืองแรกๆ มองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า คนเราก็มีความเหมือนกันได้ แต่ก็มีความแตกต่างกันในตัวด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ตนรู้สึกว่าเป็นเกียรติ เพราะตัวนายทักษิณเองเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมชมชอบมาตลอดการของวงการการเมืองไทย

เมื่อถามว่า แล้วอะไรที่มองว่าต่างกับนายทักษิณ นายเศรษฐา กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรคมา ท่านก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ศูนย์ และวางรากฐานไว้อย่างดีมากแล้ว มีบุคคลคุณภาพเต็มพรรค ตนเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มมากกว่า เพราะตนเข้ามาตอนที่สภาพแวดล้อมนั้นดีมากอยู่แล้ว เป็นพรรคที่มีคุณภาพอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การที่นายทักษิน ชื่นชมขนาดนี้ก็ทำให้หลายคนมองว่า หลังการเลือกตั้ง นายเศรษฐา จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคเพื่อไทยจะชูเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้เป็นขั้นเป็นตอนไป โดยกรรมการบริหารพรรคจะประชุมกันในเร็ววันนี้อยู่แล้ว ขอให้อดใจนิด อย่าไปกดดันอะไรเลย เพราะเรามีคนคุณภาพอยู่ในพรรคมาก

เมื่อถามย้ำว่า ถ้าได้เป็นนายกฯ ครั้งแรก เหมือนนายทักษิณ จะทำได้แบบนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากย้อนหลังไป 20 ปีที่ผ่านมาถือว่าธุรกิจที่ท่านทำมาประสบความสำเร็จกว่าตนมาก เป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งมีแล้วท่านก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจากจุดนั้น ตนว่าเป็นอะไรที่น่าชื่นชม และคงเอามาเปรียบเทียบกับตนไม่ได้เพราะสิ่งที่ท่านสร้างมานั้นยิ่งใหญ่กว่าที่ตนทำมามาก

เมื่อถามว่า จะนำวิธีการทางเมืองของนายทักษิณมาปรับใช้บ้างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หลักการคิด คือ คิดเร็ว ทำเร็ว ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงว่า ถ้าทำเร็วแล้วจะมีความเสี่ยงมาก น้อย เรารับได้หรือไม่ แต่ก็ต้องเปรียบเทียบกับความเร่งด่วนในการที่จะต้องบริหารจัดการปัญหา ไม่ใช่ตั้งคณะกรรมการซ้อนคณะกรรมการ แล้วซ้อนคณะกรรมการอีก ทุกการทำงานมีความเสี่ยง แต่เราต้องคำนึง และวิเคราะห์ได้ว่า ความเสียหายจะมากขนาดนี้หากไม่เป็นไปตามที่ประชาชนคาดหวัง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณพูดลักษณะว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยครบทั้ง 3 คนแล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นเท่านั้น เดี๋ยวจะไปตีความว่าเป็นการครอบงำชี้นำอีก อย่างไรก็ตาม แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่เตรียมไว้จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 5 เมษายนนี้ มีความโดดเด่น ที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน

นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับกระแสตอบรับต่อตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยนั้นถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี มีหลายท่านที่กองเชียร์ไม่ได้เอ่ยชื่อมา ตนอาจจะได้รับการสนับสนุนมากหน่อย ออกสื่อมากหน่อย อาจจะเพราะตนตัวสูงเลยมองเห็นง่าย แต่ตนยืนยันว่า แต่ละคนของพรรคนั้นฝีมือสุดยอดทั้งนั้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]