“เศรษฐา” ทำทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย หารือ หอการค้าไทย

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 21 มี.ค.- “เศรษฐา” ทำทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย หารือ หอการค้าไทย ด้าน “สนั่น” พร้อมร่วมมือนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน มอง หากนำนวัตกรรม-เทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตร เชื่อ จีดีพี โตขึ้น 5%


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พบปะพูดคุยกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นแนวทางที่ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญ  แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจในอดีต ได้สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก  พร้อมย้ำนโยบาย Digital wallet สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่วนจำนวนเงินจะบอกอีกครั้ง  ไม่ใช่ 500-600 บาทแน่นอน  ไม่สามารถนำไปซื้อเหล้า บุหรี่  ได้  สามารถนำไปซื้อเครื่องมือทำการเกษตรได้ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้เป็นทวีคูณ  พร้อมยืนยันว่าจะใช้นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ใช้นโยบายประชานิยมเพื่อหาเสียงอย่างเดียว  ไม่มีการบิดเบือนราคาสินค้าเกษตรแน่นอน โดยจะใช้วิธีการตามปรัชญา “นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สร้างรายได้ต่อไร่ให้กับเกษตรกร 3 เท่า จากมีรายได้ 1,000 บาทต่อไร่ เป็น  3,000  บาทต่อไร่  พร้อมเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำในทุกพื้นที่ หากพรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสจากประชาชน เราจะดำเนินการตามนโยบายโดยไม่เสียวินัยการเงินการคลัง และสร้างเม็ดเงินภาษีสู่ประเทศ แม้จะเป็นกลุ่มชายขอบของสังคม หรือกลุ่มรายได้น้อย  รวมทั้งปัญหาสังคม เพศสภาพ สิทธิเสรีภาพ พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ  พรรคเพื่อไทยสนใจงาน World pride parade 2028 นอกจากจะเป็นการแสดงออกด้านสิทธิเสรีภาพทางเพศแล้ว ยังสามารถส่งเสริมกระตุ้นภาคเศรษฐกิจได้ (Economic benefit)  หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะพยายามทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทย


“ 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยบอบช้ำไปมาก  เรายินดีปรับปรุงแก้ไข ขอให้ภาคเอกชนสบายใจได้ สิ่งที่ดีเราจะสานต่อและพร้อมฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว

ด้านนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลักการของพรรคเพื่อไทยในการผลักดันเศรษฐกิจมี 3 ด้านหลักๆ คือ

1.ภาครัฐจัดเก็บภาษีจากกำไรในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน 20% ดังนั้นภาครัฐถือเป็นหุ้นส่วนกับประชาชนในการนำเงินภาษีมากระตุ้นเศรษฐกิจ


2.เพิ่มกำลังซื้อ และเพิ่มอำนาจการจับจ่ายของประชาชน ผ่านการยกฐานเศรษฐกิจด้านล่างขึ้น ค้าขายจะดีขึ้น กำลังซื้อเพิ่ม การผลิต การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีจะเพิ่มขึ้น เพื่อมาดูแลประชาชนได้ดีขึ้น

3.ประเทศไทยต้องหาโอกาสจากวิกฤต ซึ่งมาจากปัจจัยจากต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบประเทศไทยหลายประการ ทำให้เศรษฐกิจยากจะฟื้นตัว เช่น ความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครน   สงครามการค้า จีน- สหรัฐ  ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการต่างประเทศของไทยยังไม่ดีพอ  ดังนั้นเราต้องยึดถือในความเป็นเพื่อนกับทุกประเทศ  ผ่านการเจรจาการค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ใหญ่ของประเทศ อย่างการเจรจาการค้า FTA ต้องเดินหน้า การประมงของไทยกลับมายิ่งใหญ่ กำลังซื้อของภาคการเกษตรต้องกลับมา เศรษฐกิจต้องฟื้นตัวอย่างน้อย 5% การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน 600 บาทต่อวันและเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เราเคารพในไตรภาคีซึ่งมีนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ เสมอ  พร้อมย้ำว่า ภาคการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นประตูรองรับเม็ดเงินเข้าประเทศที่เร็วที่สุด และกระจายสู่ประชาชนได้ทันที หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจากปัจจับัน 1.9 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท  ผ่านการเพิ่มสายการบิน  ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน การจัดการเที่ยวบิน และการบริหารด่านตรวจคนเข้าเมืองให้คล่องตัวมากขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวต้องปลอดภัย มีอาหารที่ดี สร้างอีเวนต์ดึงชื่อเสียงของไทยกลับคืนมา  การขอวีซ่าต้องง่ายขึ้น โดยต้องอยู่ภายใต้การรักษาศักดิ์ศรีของประเทศ ต่างชาติเข้าไทยได้สะดวกขึ้น  คนไทยก็สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้สะดวกขึ้นเช่นกัน 

“เรามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างเร็ว เป้าหมายของเรา จีดีพี 5% เชื่อว่าในอดีตที่เราเคยทำได้  เราเคยทำมาแล้ว  เครื่องจักรที่มี เราเดินเต็มที่ กำลังรบเรามีพร้อม พลรบของเรา คือ ประชาชน ต้องได้รับการบำรุงฉีดยา  ตอนนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในห้องไอซียู เราจะปั๊มหัวใจให้กลับมาโดยเร็ว” นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าว

ส่วนนายกิตติ ลิ่มสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า นโยบายการคลัง และนโยบายการเงิน ต้องมาพร้อมกัน  โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีเครื่องมือทางการเงิน ต้องกระจายความมั่งคั่งทางรายได้  กระทรวงการคลังต้องบริหารหนี้สาธารณะให้ดี  ผู้มีรายได้ต้องเข้าสู่ระบบภาษี  เพื่อเพิ่มรายรับด้านภาษีของไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับต่ำเกินไปที่ 14% บางประเทศ 17% ซึ่งพรรคเพื่อไทย จะศึกษามาตรการจูงใจให้ประชาชนแบะผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการจัดเก็บภาษี

ขณะที่นายสนั่น กล่าวว่า รู้สึกสบายใจที่ได้ฟังว่าการใช้งบประมาณ จะมีแนวทางในการหารายได้มาสู่ระบบการเงินการคลังของประเทศมากขึ้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก  หอการค้าไทย มีความเกี่ยวโยงกับภาคเกษตรเป็นส่วนมาก นวัตกรรมมีความสำคัญมาก ในการสร้างโอกาสที่จะทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นมา  ทั้งนี้ชื่นชอบนโยบาย Digital government เป็นอย่างมาก เขื่อว่าจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส  เชื่อว่าแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา เป็นเรื่องจับต้องได้ และมาสู่ภาคปฏิบัติได้ หากขับเคลื่อนได้ เชื่อว่าจะทำให้ จีดีพีไทยโตขึ้น 5%

“หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล  ขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด  ผมสบายใจที่ได้ยินแนวคิดต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย  ผมพร้อมให้ความร่วมมือ  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ  ช่วยกันผลักดันหลายๆเรื่อง” นายสนั่น กล่าว นายสนั่น กล่าวด้วยว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับขีดความสามารถของประเทศ และการทำงานของหอการค้าไทยฯที่ผ่านมา 2 ปี สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ และให้ทุกภาคส่วนมาทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และวันนี้ถือเป็นเป็นการแสดงความจริงใจในการร่วมมือกัน. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.- ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวตให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็น เพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย […]