สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 21 มี.ค.- “เศรษฐา” ทำทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย หารือ หอการค้าไทย ด้าน “สนั่น” พร้อมร่วมมือนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน มอง หากนำนวัตกรรม-เทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตร เชื่อ จีดีพี โตขึ้น 5%
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย พบปะพูดคุยกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายเศรษฐา กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นแนวทางที่ทุกพรรคการเมืองให้ความสำคัญ แต่พรรคเพื่อไทยซึ่งดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจในอดีต ได้สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก พร้อมย้ำนโยบาย Digital wallet สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่วนจำนวนเงินจะบอกอีกครั้ง ไม่ใช่ 500-600 บาทแน่นอน ไม่สามารถนำไปซื้อเหล้า บุหรี่ ได้ สามารถนำไปซื้อเครื่องมือทำการเกษตรได้ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้เป็นทวีคูณ พร้อมยืนยันว่าจะใช้นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ใช้นโยบายประชานิยมเพื่อหาเสียงอย่างเดียว ไม่มีการบิดเบือนราคาสินค้าเกษตรแน่นอน โดยจะใช้วิธีการตามปรัชญา “นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สร้างรายได้ต่อไร่ให้กับเกษตรกร 3 เท่า จากมีรายได้ 1,000 บาทต่อไร่ เป็น 3,000 บาทต่อไร่ พร้อมเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำในทุกพื้นที่ หากพรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสจากประชาชน เราจะดำเนินการตามนโยบายโดยไม่เสียวินัยการเงินการคลัง และสร้างเม็ดเงินภาษีสู่ประเทศ แม้จะเป็นกลุ่มชายขอบของสังคม หรือกลุ่มรายได้น้อย รวมทั้งปัญหาสังคม เพศสภาพ สิทธิเสรีภาพ พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญ พรรคเพื่อไทยสนใจงาน World pride parade 2028 นอกจากจะเป็นการแสดงออกด้านสิทธิเสรีภาพทางเพศแล้ว ยังสามารถส่งเสริมกระตุ้นภาคเศรษฐกิจได้ (Economic benefit) หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะพยายามทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทย
“ 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยบอบช้ำไปมาก เรายินดีปรับปรุงแก้ไข ขอให้ภาคเอกชนสบายใจได้ สิ่งที่ดีเราจะสานต่อและพร้อมฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น” นายเศรษฐา กล่าว
ด้านนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลักการของพรรคเพื่อไทยในการผลักดันเศรษฐกิจมี 3 ด้านหลักๆ คือ
1.ภาครัฐจัดเก็บภาษีจากกำไรในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน 20% ดังนั้นภาครัฐถือเป็นหุ้นส่วนกับประชาชนในการนำเงินภาษีมากระตุ้นเศรษฐกิจ
2.เพิ่มกำลังซื้อ และเพิ่มอำนาจการจับจ่ายของประชาชน ผ่านการยกฐานเศรษฐกิจด้านล่างขึ้น ค้าขายจะดีขึ้น กำลังซื้อเพิ่ม การผลิต การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีจะเพิ่มขึ้น เพื่อมาดูแลประชาชนได้ดีขึ้น
3.ประเทศไทยต้องหาโอกาสจากวิกฤต ซึ่งมาจากปัจจัยจากต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบประเทศไทยหลายประการ ทำให้เศรษฐกิจยากจะฟื้นตัว เช่น ความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครน สงครามการค้า จีน- สหรัฐ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการต่างประเทศของไทยยังไม่ดีพอ ดังนั้นเราต้องยึดถือในความเป็นเพื่อนกับทุกประเทศ ผ่านการเจรจาการค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ใหญ่ของประเทศ อย่างการเจรจาการค้า FTA ต้องเดินหน้า การประมงของไทยกลับมายิ่งใหญ่ กำลังซื้อของภาคการเกษตรต้องกลับมา เศรษฐกิจต้องฟื้นตัวอย่างน้อย 5% การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน 600 บาทต่อวันและเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน เราเคารพในไตรภาคีซึ่งมีนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ เสมอ พร้อมย้ำว่า ภาคการท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นประตูรองรับเม็ดเงินเข้าประเทศที่เร็วที่สุด และกระจายสู่ประชาชนได้ทันที หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวจากปัจจับัน 1.9 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท ผ่านการเพิ่มสายการบิน ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน การจัดการเที่ยวบิน และการบริหารด่านตรวจคนเข้าเมืองให้คล่องตัวมากขึ้น สถานที่ท่องเที่ยวต้องปลอดภัย มีอาหารที่ดี สร้างอีเวนต์ดึงชื่อเสียงของไทยกลับคืนมา การขอวีซ่าต้องง่ายขึ้น โดยต้องอยู่ภายใต้การรักษาศักดิ์ศรีของประเทศ ต่างชาติเข้าไทยได้สะดวกขึ้น คนไทยก็สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้สะดวกขึ้นเช่นกัน
“เรามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างเร็ว เป้าหมายของเรา จีดีพี 5% เชื่อว่าในอดีตที่เราเคยทำได้ เราเคยทำมาแล้ว เครื่องจักรที่มี เราเดินเต็มที่ กำลังรบเรามีพร้อม พลรบของเรา คือ ประชาชน ต้องได้รับการบำรุงฉีดยา ตอนนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในห้องไอซียู เราจะปั๊มหัวใจให้กลับมาโดยเร็ว” นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าว
ส่วนนายกิตติ ลิ่มสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นโยบายการคลัง และนโยบายการเงิน ต้องมาพร้อมกัน โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีเครื่องมือทางการเงิน ต้องกระจายความมั่งคั่งทางรายได้ กระทรวงการคลังต้องบริหารหนี้สาธารณะให้ดี ผู้มีรายได้ต้องเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อเพิ่มรายรับด้านภาษีของไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับต่ำเกินไปที่ 14% บางประเทศ 17% ซึ่งพรรคเพื่อไทย จะศึกษามาตรการจูงใจให้ประชาชนแบะผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการจัดเก็บภาษี
ขณะที่นายสนั่น กล่าวว่า รู้สึกสบายใจที่ได้ฟังว่าการใช้งบประมาณ จะมีแนวทางในการหารายได้มาสู่ระบบการเงินการคลังของประเทศมากขึ้น ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก หอการค้าไทย มีความเกี่ยวโยงกับภาคเกษตรเป็นส่วนมาก นวัตกรรมมีความสำคัญมาก ในการสร้างโอกาสที่จะทำให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นมา ทั้งนี้ชื่นชอบนโยบาย Digital government เป็นอย่างมาก เขื่อว่าจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เชื่อว่าแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา เป็นเรื่องจับต้องได้ และมาสู่ภาคปฏิบัติได้ หากขับเคลื่อนได้ เชื่อว่าจะทำให้ จีดีพีไทยโตขึ้น 5%
“หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ผมสบายใจที่ได้ยินแนวคิดต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ผมพร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ ช่วยกันผลักดันหลายๆเรื่อง” นายสนั่น กล่าว นายสนั่น กล่าวด้วยว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับขีดความสามารถของประเทศ และการทำงานของหอการค้าไทยฯที่ผ่านมา 2 ปี สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ และให้ทุกภาคส่วนมาทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ และวันนี้ถือเป็นเป็นการแสดงความจริงใจในการร่วมมือกัน. สำนักข่าวไทย