นิด้า 20 มี.ค.- นักวิชาการ ชี้ จากผลโพลนิด้าสะท้อนว่าเรื่องยากที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัย คาดเพื่อไทยได้มาก แต่ไม่ถึงแลนสไลด์ เว้นแต่ขโมย ส.ส. เพื่อน
นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประทศของนิด้าโพล ครั้งที่ 1 ที่พบว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมีคะแนนนำอันดับ 1 ว่า คะแนนของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ร้อยละ49 อยู่ในเกณฑ์ที่เกือบแลนสไลด์กับแลนสไลด์นิดหน่อย คาดว่าได้ส.ส.อยู่ที่จำนวน 240 ถึง 260 คน อย่างไรก็ตามจะต้องรอดูการเก็บข้อมูลสำรวจความเห็นอีก 2 ครั้ง ขณะนี้คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเพียงร้อยละ 2-3 เท่านั้น หมายความว่าบ่อของพรรคเพื่อไทยน้ำน่าจะเต็มแล้ว อาจจะขึ้นมาได้อีกนิดหน่อยไม่เกินร้อยละ 5
นายสุวิชา กล่าวว่า หากชนเพดานก็น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 55 และระหว่างทางก่อนถึงการเลือกตั้ง อาจจะมีคะแนนหนืด ที่ถูกโจมตีจากพรรคคู่แข่ง ซึ่งหากจะพลาดเป็นไปได้ว่าจะถูกเจาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน แต่พรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิ์จะแลนสไลด์ได้ด้วยการ “กินเพื่อน” หมายถึงพรรคก้าวไกล หากพรรคก้าวไกลยอม ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก และจากผลโพลที่ออกมานี้ค่อนข้างชัดว่าโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยเป็นเรื่องยาก
“ลุงตู่จะกลับมาได้ผมว่าต้องมี 3 เงื่อนไข คือคะแนนของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมต้องเกิน 250 เสียง คะแนนของรวมไทยสร้างชาติต้องมากกว่าคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เช่นนั้นลุงป้อมไม่ยอม และ 3 คะแนนของรวมไทยสร้างชาติต้องต่างจากคะแนนของคุณอนุทิน ไม่เกิน 10 คะแนน ไม่เช่นนั้นกลับบ้านแน่นอน และดูจากตามผลโพลแล้วคงยาก” นายสุวิชา กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่โจมตีพรรคภูมิใจไทยมีผลต่อคะแนนหรือไม่ นายสุวิชา กล่าวว่า มีผลระดับหนึ่ง เพราะนายชูวิทย์มีแฟนคลับมาก แต่จะมากน้อยเพียงใดต้องขอเก็บคะแนนจากกลุ่มตัวอย่างอีก 2-3 ครั้ง ว่าคะแนนของพรรคภูมิใจไทยจะเป็นอย่างไร
ด้านนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ดูจากโพลแล้วพรรคเพื่อไทยมาแน่ ในแง่ได้เสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร และคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยขณะนี้ใกล้เคียงกับปี 2554 ก่อนการเลือกตั้งมาก จึงเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้คะแนน 260-270 ที่นั่ง ในขณะที่คนที่ยังไม่ตัดสินใจเหลือประมาณร้อยละ 2 กว่า ๆ เชื่อว่าหากจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลงใหญ่ เว้นแต่ถูกยุบพรรค
“แต่สถานการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น หากดูตามโพลแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีโอกาสได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะถ้าเราดูเสียงของฝ่ายค้านที่เป็นคะแนนนิยมรวม ๆ กันแล้วจะอยู่ที่ร้อยละ 70 แล้ว หมายความว่ามีคะแนนที่จะให้ฝ่ายรัฐบาลไม่เกินร้อยละ 30 ซึ่งตอนนี้คะแนนนิยมของพรรครัฐบาลเองก็อยู่ที่ร้อยละ 20 ต้น ๆ” นายพิชสย กล่าว
นายพิชาย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ส่งผลต่อความนิยมของพรรคภูมิใจไทย โดยดูจากผลการสำรวจความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ หายไปประมาณเกือบร้อยละ 6 ซึ่งถือว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และในภาพรวมทั้งประเทศความนิยมก็ลดลงประมาณร้อยละ 2 กว่า
ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา คณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่แลนสไลด์ก็น่าจะเกิดจากการแชร์คะแนนจากพรรคแนวร่วม แต่ถ้าดูจากโพลล่าสุดจะเห็นว่าแนวร่วมทั้งสองฝั่งหายไป ฉะนั้นโอกาสที่จะไปตัดคะแนนพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดและจะกลายเป็นพรรคเพื่อไทยไปแย่งคะแนนเพื่อน เหมือนแคมเปญที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยปราศรัยว่าเลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว 310 เสียง “หากประเมินคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ต้องยอมรับว่ากระแสในช่วง 8 ปีมีปัญหาในตัวเองอยู่แล้ว และมีโพลมาตอกย้ำเช่นนี้ ยิ่งทำให้พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต้องคิดหนัก แม้จะมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการเทคะแนนให้พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็คิดว่าไม่พอที่จะสู้กับพรรคเพื่อไทย และหากคิดการเมืองไปไกลถึงหลังเลือกตั้งก็เป็นโจทย์ว่าจะตั้งรัฐบาลกันได้ง่ายหรือไม่ และในช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะมีเกมช่วงชิงแบบคาดไม่ถึง และคิดว่าเมื่อนิด้าโผล่ออกมาเช่นนี้ทุกพรรคการเมืองคงต้องตั้งวอลรูมรับมือกันอย่างแน่นอน” นายสุริยะใส กล่าว.-สำนักข่าวไทย