กำชับไม่ให้เกิดมลพิษทางน้ำ ความเป็นอยู่ประชาชน

กองทัพเรือ 16 มี.ค.-นายกฯ สั่งเร่งช่วยเรือบรรทุกน้ำมันเชฟรอน จากเหตุน้ำเข้าตัวเรือ พร้อมวางแผนรับหากน้ำมันรั่วไหล กำชับไม่ให้เกิดผลกระทบมลพิษทางน้ำ ความเป็นอยู่ของประชาชน


พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุการณ์ เรือกักเก็บปิโตรเลียมเบญจมาศ 2 ซึ่งเป็นเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่มีน้ำมันดิบจำนวน 400,000 บาร์เรล ของบริษัทเชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด เกิดอุบัติเหตุน้ำทะเลเข้าตัวเรือ ขณะเปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลด้วยลูกอุดลมและถอดวาล์ว เพื่อบำรุงรักษาตามปกติบริเวณห้องเครื่องจักรใหญ่ใต้แนวน้ำ แต่ลูกอุดลมเกิดระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายโดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณแบริ่ง 171 ระยะ 129 ไมล์จากปลายแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ รายละเอียดตามข่าวที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ติดตามสถานการณ์พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และไม่ให้เกิดผลกระทบโดยเฉพาะมลพิษทางน้ำ ขณะที่พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือและรองผอ.ศรชล.สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 และศรชล.ภาค 1 จัดกำลังให้การสนับสนุนในทันที ขณะนี้ชุดปฏิบัติการทั้งของกองทัพเรือ ศรชล. และเจ้าที่จากบริษัทฯ เข้าพื้นที่เกิดเหตุแล้ว และกำลังสำรวจเพื่อวางแผน ปิดผนึกช่องทางเข้าของน้ำที่ทะลักเข้าตัวเรือ และกู้ร่างผู้เสียชีวิต” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว


พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า สถานภาพของเรือปัจจุบันยังปลอดภัย สภาพคลื่นลมไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน แต่เนื่องจากน้ำทะเลที่ทะลักท่วมห้องเครื่องจักรทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าภายในตัวเรือ ส่งผลให้ระบบอุ่นน้ำมันดิบไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้มีผลกระทบต่อการประมาณสถานการณ์ของการรั่วไหล อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันกองทัพเรือ (ศคปน.ทร.) ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้แล้ว  

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 1 ได้ประชุมหารือร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทเจ้าของเรือ  ศรชล. ศรชล.ภาค 1 กรมเจ้าท่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมควบคุมมลพิษ ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทั้งนี้  กองทัพเรือและศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล มีนโยบายสนับสนุนการปฏิบัติการในครั้งนี้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานหลักของศรชล.  ซึ่งมีความพร้อมแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงที

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพเรือและศรชล.จัดฝึกปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล รวมถึงการค้นหาและการช่วยชีวิตทางทะเล โดยบูรณาการความร่วมมือและการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่าง ๆ ของศรชล. โดยจะปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการด้วยความรัดกุม ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายฝั่ง” พล.ร.อ.ปกครอง กล่าว.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก