“เศรษฐา” ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก ไม่หวั่น “ชูวิทย์” ขู่แฉ

คลองเตย 8 มี.ค. – “เศรษฐา” ลงพื้นที่ช่วยเพื่อไทยหาเสียงครั้งแรก ชุมชนคลองเตย ไม่หวั่นถูก “ชูวิทย์” ขู่พร้อมแฉ หากไม่รักษามาตรฐาน ส่วนจะแลนด์สไลด์หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ประชาชน


นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่ กทม. นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ เขตคลองเตย

การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายเศรษฐา ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย หลังรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยได้เยี่ยมชมมูลนิธิครูประทีป พร้อมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย คุณภาพชีวิต เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ความปลอดภัย การศึกษา การรักษาพยาบาล


นายเศรษฐา กล่าวกับชาวบ้านว่า ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขทุกมิติ การย้ายที่อยู่อาศัยไม่ใช่การแก้ปัญหา และต้องมีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยจะนำเรื่องนี้ไปให้ทีมนโยบายของพรรคพิจารณา ส่วนเรื่องค่าแรง มั่นใจและให้สัญญาได้ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้ใจให้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าค่าแรงขั้นต่ำจะสูงกว่า 600 บาทแน่นอน

จากนั้น นายเศรษฐา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ชุมชน 70 ไร่ โดยมีชาวบ้านมอบดอกไม้ให้กำลังใจตลอดเส้นทาง ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรก ซึ่งได้มาเจอปัญหาและความคับแค้นใจของประชาชน โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับเป็นปัญหาที่ยาก ซับซ้อน มีหลายมิติ ซึ่งหลังรับฟังปัญหาก็จะไปหารือกับทีมงานเพื่อหาคำตอบ พร้อมบอกกับชาวคลองเตยว่า จะกลับมาพร้อมคำตอบ และไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของปัญหาได้ เพราะทุกปัญหาสำคัญหมด ต้องแก้ไปพร้อมกันทุกมิติ แต่อะไรที่ทำได้ก่อนก็จะทำทันที และให้ความมั่นใจว่า หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทำให้ได้ตามที่รับปาก

ส่วนความหวังที่จะได้ ส.ส.พื้นที่คลองเตย มั่นใจว่า นายนวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย ไม่เคยทิ้งพื้นที่มาตลอด 17 ปี ถือเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย ประกอบกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่คิดใหญ่ ทำเป็น และเคยทำมาก่อน จึงหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจให้กลับมาอีก เป็นเรื่องหลัก


หลังจากนี้จะพยายามลงพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยให้ได้มากที่สุด ทุกเวที ทุกจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและรวบรวมข้อมูลนำไปสู่การแก้ไข และจะทยอยเปิดนโยบายออกมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นนักธุรกิจ จะเข้าถึงชาวบ้านได้อย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการขายภาพลักษณ์ แต่เป็นเรื่องความเข้าใจว่าชาวบ้านต้องการอะไร ส่วนหน้าที่ตนคือการเอาความเป็นตัวตนไปขยายนโยบาย แสดงความจริงใจที่อยากแก้ไขปัญหา เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ประชาชน

เมื่อถามว่า ระยะเวลาที่เหลือจะเข้าไปอยู่ในใจประชาชนได้อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นคำถามที่ตอบลำบาก ขึ้นอยู่กับว่าตนจะทำได้ดีขนาดไหน แต่เชื่อว่าตนและพรรคเพื่อไทยทำเต็มที่ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา เข้าใจปัญหาที่ประสบมาตลอด โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม จึงเป็นหน้าที่ของเพื่อไทยที่พยายามเสนอนโยบายให้โดนใจ

ส่วนกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้กำลังใจในการลงพื้นที่ครั้งแรก นายเศรษฐา กล่าวขอบคุณ เพราะถือเป็นกำลังใจ ทีมงานก็สนับสนุน โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ที่เป็นพี่เลี้ยง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์กรุงเทพฯ ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน หน้าที่ของตนและพรรคเพื่อไทย คือ การนำเสนอนโยบายที่มั่นใจว่าจะโดนใจประชาชน

นายเศรษฐา กล่าวยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักอดีตนักการเมือง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว เพราะมีเพื่อนฝูงอีกหลายคนที่ให้กำลังใจในการทำหน้าที่ เสนอแนะให้รักษามาตรฐานการทำงาน ซึ่งคนที่รักกันชอบกันก็ให้กำลังใจ และหวังว่าจะเป็นตัวของตัวเอง ทั้งนี้ได้ขอให้ดูกันต่อไป รวมถึงเห็นว่า การออกมาเปิดเผยข้อมูลของนายชูวิทย์ ถือเป็นหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งตนก็มีหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในการให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และเปิดนโยบายก่อน เปรียบเหมือนเป็นช่วงเวลาการกวดวิชาที่สั้น แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด จะลงพื้นที่ให้มากขึ้น

เมื่อถามว่า มีความหวั่นใจหรือไม่ หากนายชูวิทย์ ระบุว่า หากทำไม่ดีจะแฉ นายเศรษฐา บอกว่า ตนเป็นนักธุรกิจมาก่อน และการเข้ามาสู่มิติใหม่ของช่วงเวลาชีวิต แต่หากจะบอกว่าไม่กลัวเลย ก็เป็นการโกหก ถึงเวลาแล้วที่ตนจะทำหน้าที่ที่ชายคนหนึ่งสะสมประสบการณ์มา 30 ปี และอยากที่จะนำเสนอตัวเองในพรรคเพื่อไทย พรรคที่มีนโยบายโดนใจประชาชน ก่อนย้ำจะทำให้ดีที่สุด จึงอยากขอโอกาส พร้อมกล่าวย้ำจะชี้แจงทุกข้อสงสัยและทุกคำถามที่เกี่ยวกับตนเอง

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ที่ระบุชื่อว่า “ขงเบ้ง” กับนายเศรษฐา อาจเป็นการเปิดแผลพรรคเพื่อไทยว่า “ขงเบ้ง” ไม่เกี่ยวกับแสนสิริ เป็นคู่เขยที่รู้จักกันมา 30 ปี ส่วนตัวก็รู้จักคนในวงการหลากหลายอาชีพ ส่วนจะกระทบต่อการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่ นายเศรษฐา มองว่า อยู่ที่การวางตัวของตน แต่ขอให้ทุกคนช่วยดูด้วยความเป็นธรรมว่า ตนทำอะไรไม่เหมาะสมหรือไม่ และไม่ได้ต้องการที่จะฟ้องร้องหรือเป็นศัตรูกับใคร “ศัตรูของตนคือความยากจน และความเหลื่อมล้ำ” จึงขอโอกาสและความเห็นใจ ตนจะทำงานให้หนักเพื่อตอบโจทย์ประชาชน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]