“เก่ง การุณ” ประกาศลาออกพรรคเพื่อไทย

กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – “เก่ง การุณ” ส.ส. กทม. เขตดอนเมือง ไขก๊อกพรรคเพื่อไทย ลาออกบ้านหลังใหญ่ เพื่อรักษาหัวใจเดิม ลั่นไม่ยอมเป็นนั่งร้านให้เผด็จการ


วันที่ 18 มกราคม 2566 เวลา 17.00 น. ที่ร้านฟอเรสต้าคาเฟ่ นายการุณ โหสกุล ส.ส. กทม. เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ประกาศลาออกจากพรรค โดยมีทีมงานและชาวดอนเมืองถือดอกไม้มาร่วมให้กำลังใจ

นายการุณ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากที่จะก้าวผ่านไป ตัวเองตัดสินใจมาหลายวันกว่าจะมาถึงวันนี้ ครั้งนี้ถือเป็นวิกฤติที่ใหญ่และสำคัญในชีวิต พี่น้องชาวดอนเมืองได้ให้โอกาสทำงานการเมืองรับใช้พี่น้องประชาชนเป็นเวลากว่า 20 ปี เริ่มตั้งแต่เป็นลูกยายบรรณแม่ค้าส้มตำ จนมาทำการเมืองท้องถิ่นเป็น ส.ข. ส.ก. เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย และ ส.ส. ในนามพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย


แม้จะเจอกับวิกฤติในการเมืองหลายครั้ง โดนใบแดง 2 ครั้ง แต่ประชาชนก็ให้โอกาสโอบอุ้มตัวเองเสมอมา คติของผมคือความกตัญญู เป็นบุญคุณที่ต้องตอบแทนด้วยการทำงานเพื่อชาวดอนเมืองให้ประชาชนอุ่นใจ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง ช่วงน้ำท่วมหรือช่วงโควิด ผมก็ยังอยู่กับกับชาวดอนเมืองมาตลอด เวลาเดินไปไหนก็จะเห็นแค่รอยยิ้มและความรัก แต่ทุกวันนี้ ความแตกแยกทำให้เราไม่มีรอยยิ้มและความสุขเหมือนเก่า

นายการุณ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่จะบอกพี่น้องว่าย่างก้าวต่อไปจากนี้ ผมรู้สึกลำบากใจที่สุด คือ ผมจำเป็นต้องลาออกจาก ส.ส. ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องถามว่าไปไหน เพราะในอนาคตจะได้เห็นสิ่งสำคัญที่เกิดขึ้น และขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะให้โอกาสตัวเองหรือไม่ หรืออาจจะมีคำกล่าวหาว่าออกจากเพื่อไทยแล้วไม่รักประชาธิปไตยหรือไม่

นายการุณ กล่าวว่า ตัวเองมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนมาตลอด เริ่มต่อสู้มาตั้งแต่พฤษภาทมิฬ ปี 2535 การต่อสู้ร่วมกับกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการต่อต้านรัฐประหารปี 2549 โดยมีพี่น้องชาวดอนเมืองที่รักประชาธิปไตยเป็นกำลังสำคัญ ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่กินได้ จนวันนี้คดีก่อการร้ายโทษสูงสุดคือประหารชีวิต และตัวเองถูกหมายหัวเป็นแกนนำ ยังอยู่ในศาล


รัฐประหารในปี 2557 ถูกคนทั้งในและนอกเครื่องแบบ เอาถุงดำคลุมหัว เดินทาง 6 ชั่วโมงด้วยความกดดัน ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาหาแม่ มาดูแลลูกไหม และปี 2562 ตัวเองก็คือคนที่ออกไปกราบตำรวจว่าอย่าทำร้ายนักศึกษา และออกไปประกันตัวน้องๆ นักศึกษาด้วยอุดมการณ์เดียวกันคือเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์จุดยืนทางการเมืองของตัวเองเป็นอย่างดี

วันนี้ ต้องบอกว่า “เจ้านายผมก็รัก แต่ที่รักมากกว่าเจ้านายคือประชาชน พี่น้องประชาชนให้โอกาสจากลูกยายบันขายส้มตำ เป็น ส.ข. ส.ก. และ ส.ส. จะมีหรือไม่มีตำแหน่งเรายังรักกันด้วยดีเสมอมา วันนี้จึงกลับมาหา มาแถลงข่าวร่วมกับพี่น้องที่ให้ความรักความเมตตา และขออ่านความใจในที่เขียนมาเป็นจดหมายน้อยโดยมีเนื้อความว่า

“ผมขอบคุณและทราบซึ้งถึงโอกาสที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยที่ให้ผมมาตลอด ขอบคุณนายกในดวงใจ นายกทักษิณ นายกยิ่งลักษณ์ ที่ได้มอบโอกาสมากมายให้แก่ผม จนมีโอกาสได้เข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะผู้แทนราษฎร ผมยืนยันตรงนี้ ด้วยเกียรติของผมว่าผมจะไม่มีวันทำร้ายพรรคเพื่อไทย ไม่มีวันทำร้ายอดีตนายกที่ผมรักทั้ง 2 ท่าน แต่ในวันนี้ เมื่อทิศทางการเมืองเปลี่ยน ผมขอไม่พูดเรื่องนี้อีก เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ผมจะขอเดินก้าวข้ามความขัดแย้งนี้

ผมการุณ โหสกุล มีหัวใจเดิม คือหัวใจที่ไม่ยอมก้มหัวให้เผด็จการ ผมเคารพในอุดมการณ์ และวีรชนที่ร่วมต่อสู้แลกชีวิต เพื่อต่อต้านเผด็จการครับ จุดยืนของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ความกตัญญูของผมเป็นเครื่องนำทาง วันนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องตอบพี่น้องคนดอนเมืองของผมอย่างตรงไปตรงมา และขอกราบลาอดีต 2 นายก กราบลาผู้ใหญ่ที่ผมเคารพในพรรคเพื่อไทยหลายท่านที่ให้ความกรุณาผม ขอลาน้องๆ เพื่อนพ้องน้องพี่ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยทุกคน ผมขอลาออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

ผมขอลาออกจากบ้านหลังใหญ่ เพื่อรักษาหัวใจเดิมของผมเอาไว้ หัวใจผมอยู่กับพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย พี่น้องประชาชนเขตดอนเมืองทุกคนครับ

หลังจากนี้ ผมจะเดินหน้าพบพี่น้องประชาชนที่เคยให้การสนับสนุนผม พี่น้องประชาชนที่ร่วมต่อสู้มากับผม พี่น้องประชาชนที่มีพระคุณกับผม พี่น้องประชาชนที่ได้อุทิศจิตวิญญาณอุทิศเลือดเนื้อ เพื่อประชาธิปไตยและประเทศที่พวกเรารัก และภารกิจของผมหลังจากนี้ คือร่วมมือกับพี่น้องที่มีหัวใจเดียวกัน ด้วยการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญต้านรัฐประหาร ตัดวงจรอุบาทว์ที่บ่อนทำลายชาติไทย และส่งมอบประเทศไทยที่ดีกว่าให้ลูกหลานเราครับ เพราะผมยังเชื่อเสมอว่า ถ้าการเมืองมันดี รัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน เป็นประชาธิปไตย ไม่ปล่อยให้ใครเอากระบอกปืนมายึดอำนาจไปจากประชาชน ไม่ต้องมีใครเอาถุงดำมาคลุมหัวประชาชน ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวไทยและชาวดอนเมืองจะดีกว่านี้ “ดอนเมืองไม่ทิ้งกัน การุณไม่ทิ้งใคร” ครับ”

หลังอ่านจบ นายการุณ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ลำพังเองไม่สามารถทำงานให้พี่น้องได้ ตัวเองมีเพื่อนคู่คิด มิตรร่วมทาง และก้าวเดินต่อไปครั้งนี้ ไม่ว่าจะเส้นทางใด พี่น้องประชาชนลืมตัวเองได้ แต่อย่าลืมพี่น้องทีมงานทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนดอนเมืองมาตลอด และขอให้ทุกคนปรบมือเป็นกำลังใจให้ทีมงานของตน พร้อมย้ำว่าจะอยู่กับพี่น้องประชาชนดอนเมืองไปจนตาย

หลังจากนั้นประชาชนที่ร่วมฟังการแถลงลาออกก็เข้ามากอดทั้งน้ำตา ให้ดอกไม้ กล้วย และมีนักเรียนที่นายการุณส่งเรียนหนังสือเอาพวงมาลัยเข้ามากราบ เป็นการขอบคุณ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย