“พล.อ.ประยุทธ์” แคนดิเดตนายกฯ รทสช.

ทำเนียบรัฐบาล 23 ธ.ค.-นายกฯ ประกาศชัดร่วมงานรวมไทยสร้างชาติ พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ยันสัมพันธ์พี่น้องทหาร “พล.อ.ประวิตร” ตัดไม่ขาด อนาคตจับมือร่วมกันหรือไม่ ให้รอผลเลือกตั้ง


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติของกระทรวงวัฒนธรรม โดยนายกรัฐมนตรีเดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อไปตึกสันติไมตรี สถานที่จัดงาน แต่ระหว่างทางเชื่อม ซึ่งมีผู้สื่อข่าวยืนรออยู่ตามปกติ นายกรัฐมนตรีหันมาทักทายสื่อมวลชน พร้อมถามว่า  “อยากถามอะไรนายกฯ ถึงมากันเยอะ จะมาดูงานวันนี้ใช่หรือไม่ แล้วออกข่าวให้หรือไม่ อะไรที่เป็นประโยชน์กับส่วนรวมก็ช่วยออกให้ด้วย” ก่อนระบุว่า วันนี้หลายพรรคการเมืองออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรค ที่ผ่านมา ตนพิจารณาด้วยหลักการและเหตุผล

“วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอมาแล้วว่าจะสนับสนุนผมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผมจึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพราะมีการวิพากษ์วิจารณ์หลายอย่าง ทำให้เกิดความเสียหาย ที่ผ่านมาผมได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมก็เลยตัดสินใจ ซึ่งจริง ๆ ก็ได้ตัดสินใจมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็แล้วแต่ประชาชนจะให้การสนับสนุน การที่ผมตัดสินใจแบบนี้ เพราะอยากสานต่องานที่ยังไม่สำเร็จหลายอย่างที่เคยทำมาหลายปี หากว่าผมอยู่ได้ในระยะเวลาที่กำหนด” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนดูแลทุกพื้นที่ ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นของใคร หลายจังหวัดที่ไปก็ไม่มีส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐและพรรครัฐบาล เช่นเดียวกับที่ไปจังหวัดเชียงรายล่าสุดก็ไม่มีส.ส.รัฐบาล แต่ตนก็ยังไป เพราะมองประชาชนเป็นหลัก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็เสนอเข้าครม. จัดสรรงบประมาณให้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใสตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนยึดมั่นมาโดยตลอด ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ แม้แต่เล็กน้อย

“ผมได้กราบเรียนพล.อ.ประวิตรไปแล้วว่าอาจจะมีความจำเป็น กราบเรียนท่านไปหลายครั้งแล้ ว จนครั้งสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจไปแล้วและคุยกับท่านแล้ว​ ไม่ได้มีปัญหาอะไร​ ไม่มีความขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น ​การเมืองก็ว่ากันไปตามการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้จากกันไปไหน​ ยังพูดคุยกันเหมือนเดิม​ อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของทหารกับทหารด้วยกัน​มันลึกซึ้งกว่า​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมจบมาในการดูแลของท่าน ท่านเป็นพี่ชายของผม หลังจากที่ผมจบจากโรงเรียนนายร้อย รับราชการตั้งแต่ร้อยตรี​ จนกระทั่งอยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิต รับราชการจนถึงวันนี้​ ความผูกพันธ์นี้​ ไม่มีใครลบล้างได้​ ท่านเองก็รู้สึกเหมือนกัน​ ท่านไม่ได้ว่าอะไรผม ผมก็บอกท่านจะได้สบายใจเพราะมีแรงกดดันหลายประการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนจะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็คงต้องสมัคร ​ส่วนเรื่องเวลาต้องรอดูอีกครั้ง ส่วนจะเป็นแคนดิเดตนายกคนเดียวของพรรคเลยหรือไม่นั้น​ เท่าที่ทราบมีเพียงคนเดียว​


เมื่อถามย้ำว่าจะยังจับมือกับพล.อ.ประวิตรในทางการเมืองหรือไม่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง​ ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง​ ประชาชนจะเลือกใครก็ยังไม่รู้​ ถึงเวลานั้นภาษาการเมืองเรียกว่าการจับคู่ทางการเมือง​ ใครจะเป็นฝ่ายค้าน​ ฝ่ายรัฐบาลก็เหมือนครั้งที่แล้ว​ ที่มีพรรคร่วมรัฐบาล​ ฝ่ายค้าน ถ้าคะแนนเสียงรวมกันได้มากกว่าก็เป็นรัฐบาล​ คราวที่แล้วตนก็มาแบบนั้น​

เมื่อถามว่าการประกาศในวันนี้ถือเป็นการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าชัดเจนเลยหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยังไม่ชัดอีกหรือ​”

ส่วนครอบครัวสนับสนุนเต็มที่หรือไม่นั้น​ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เข้าใจกัน​ว่า ตนทำเพื่ออะไร​

เมื่อถามว่า การมาทำพรรคการเมืองถือเป็นความท้าทายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขามีหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว​​ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องคุยกันว่าอะไรที่รัฐบาลนี้ทำไว้ต้องสานต่อไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ​มั่นคง​ ไม่ใช่เป็นนโยบายที่จับต้องไม่ได้​ ถ้าประกาศว่าจะทำโน่นทำนี่​ จะทำได้จริงหรือไม่​ ถ้าจะให้โน่นให้นี่ จะเอาเงินจากที่ไหน ​ตนพยายามทำมาตลอด​ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้ง​ 4 ปีแรก​และ ​4 ปีหลัง​ พยายามหารายได้เข้าประเทศ เราต้องดูแลประชาชน​แต่ต้องมีกติกาพอสมควร​

“ส่วนจะจับมือกับพรรคใด ต้องรอผลการเลือกตั้งก่อน เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลังจากนี้ก็ต้องมาพูดคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า สิ่งไหนที่รัฐบาลทำไว้ก็ต้องมาสานต่อ การประกาศนโยบายต้องดูเรื่องของงบประมาณ ที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากมายทั้งสถานการณ์โควิด ยืนยันต้องการทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำคนเดียวไม่ได้ ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งทุกคนต้องมีหลักคิดว่าจะเลือกใครเข้ามาบริหารประเทศ และเมื่อเลือกตั้งมาแล้วก็ต้องมารวมคะแนนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ใครได้คะแนนเสียงข้างมากก็เป็นรัฐบาล และจะถูกเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ในอนาคตไม่มีอะไรที่แน่นอน อยู่ที่ประชาชน ซึ่งถือว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญที่สุด จึงขอให้ประชาชนคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ มีเหตุมีผล มีหลักคิดในการเลือกพรรคการเมือง ดูนโยบายหาเสียงที่จะต้องไม่เกินงบประมาณของประเทศชาติ จนทำให้ประเทศชาติเสียหาย จึงขอให้ประชาชนคิดให้ดี ซึ่งตนเองใช้หลักการบริหาร เฉลี่ยดูแลประชาชนทุกกลุ่มมาโดยตลอด

“จำเป็นต้องพูดวันนี้ เนื่องจากเกรงว่า ถ้าไม่พูด จะวิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อย ผมจึงตัดสินใจแล้ว ขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ให้การสนับสนุนผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ยืนยันว่าไม่ใช่ศัตรูกัน ที่ผ่านมารักษามารยาทกับทุกพรรค รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อเปิดตัวแล้วก็ จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน จะได้ไม่เกิดความสับสนและเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง แต่ขออย่างเดียวว่าจะต้องสงบวันนี้ เลือกตั้งได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ครบเทอมหรือยุบสภานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ดูจังหวะเวลา แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามกฏหมาย การย้ายพรรคจะต้องไม่มีปัญหา ซึ่งจะต้องหารือกับฝ่ายการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาลด้วย งานหลักของตนคือการดูแลชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ประชาชนไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ ที่ผ่านมาย้ำมาตลอดว่าการมายืนอยู่ตรงนี้ มาจากสาเหตุอะไร

“มีการออกมาพูดจาเสียหายตำหนิหลายอย่าง จนลืมไปว่าที่ผ่านมาทำความเสียหายอะไรไปบ้าง ทุกวันนี้ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ดีขึ้นแต่ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งการแก้ปัญหาจะต้องสร้างความเข้าใจ แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้มากกว่าการเลือกตั้ง คือการทำให้ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี ซึ่งผมให้ความสำคัญเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานศึกษา การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและการบูลลี่ในสถานศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่อันตราย โดยเฉพาะครูที่จะต้องทำให้ผ้าขาวเป็นผ้าขาวที่บริสุทธิ์ ขอร้องให้หยุด รัฐบาลใช้กฎหมายดูแลมาตลอด เมื่อเกิดการลงโทษตามกระบวนการกฎหมาย ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวและเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]