รมต.ประจำสำนักนายกฯ มอบนโยบาย อสมท เน้นย้ำบทบาทสื่อฯ

อสมท 22 ธ.ค.- รมต.ประจำสำนักนายกฯ เยี่ยมชม พร้อมมอบนโยบาย อสมท พร้อมเป็นกำลังใจให้พนักงาน ทำหน้าที่เป็นสื่อรัฐวิสาหกิจที่ตรงไปตรงมา พร้อมนำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและเยี่ยมชมกิจการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมีพล.ต.อ.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ประธานกรรมการ​ บมจ.อสมท นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับชมวิดีทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินงานที่สะท้อนถึงศักยภาพด้านการสื่อสารมวลชน ทั้งการถ่ายทอดโทรทัศน์ วิทยุ การจัดกิจกรรม การผลิตบุคลากร การถ่ายทอดความรู้ การสร้างภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันสื่อ และศักยภาพด้านดิจิทัล พร้อมกันนี้ ได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของ บมจ.อสมท จากนายผาติยุทธ ใจสว่าง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ ทั้งข่าวสาร สาระความรู้ ความบันเทิง พร้อมเน้นย้ำจุดเด่นของ อสมท คือการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีในการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่ง อสมท เป็นหนึ่งในสมาชิกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ ขณะที่งานระดับโลกต่างๆ อสมท ก็ได้รับไว้วางใจจากรัฐบาล โดยเฉพาะการรับหน้าที่ Host Broadcaster ในการประชุม APEC 2022 ที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ อสมท ยังมีคลื่นวิทยุที่หลากหลายและมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ที่สำคัญคือ ได้รับความนิยมอย่างมาก

จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและให้ข้อเสนอแนะกับคณะผู้บริหาร โดยระบุว่า ดีใจและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้กลับมาที่ อสมท อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงเคยได้เดินทางมา อสมท เมื่อครั้งที่นายอนุชามามอบนโยบาย ทั้งนี้ อสมท นับเป็นสื่อกลางที่สำคัญที่จะสื่อสารข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แม้จะประสบปัญหาอยู่บ้าง แต่ส่วนตัวขอชื่นชมการทำงานของ อสมท ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และจับต้องได้


“ยอมรับว่า การแข่งขันของสื่อปัจจุบันเข้มข้นมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด จึงขอให้กลับมาเน้นย้ำในคุณภาพของเนื้อหา ส่วนตัวมั่นใจว่า อสมท ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้ปรับปรุงให้แตกต่างและสอดแทรกเนื้อหาที่สร้างสรรค์เพราะเชื่อว่า สื่อมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของประเทศ และสร้างเนื้อหาที่มีส่วนสำคัญในการดูแลสังคม” นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ได้ให้ความสำคัญ กับ อสมท เพราะ อสมท เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้สื่อสารในเรื่องการทำงานของรัฐบาลไปยังพี่น้องประชาชน และส่วนตัวจะใช้เวลาทำงานให้คุ้มค่า เมื่อเข้ามาทำหน้าที่แล้วก็ต้องเป็นประโยชน์กับ อสมท ตนมีความคุ้นเคยกับพี่น้องสื่อมวลชนมาก่อน อดีตก็เคยทำงานสื่อมวลชน อะไรที่จะเป็นประโยชน์กับ อสมท ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็จะเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจให้กับ อสมท ในการมุ่งมั่นยึดหลักการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ให้นำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ย้ำว่า อะไรที่ตนสามารถทำให้ได้และเป็นประโยชน์กับ อสมท ก็ยินดีจะทำทันที

จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานหน่วยงานต่างๆ ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ 9 MCOT HD สถานีวิทยุ สำนักข่าวไทย และ MCOT MUSEUM


พร้อมกันนี้ ได้เยี่ยมชมการออกอากาศสด ของรายการ คุยขโมงบ่ายสามโมง และได้สัมภาษณ์และพูดคุยแบบสดๆ ในรายการกับ นายสุวิช สุทธิประภา และ น.ส.นีรชา หลิมสมบูรณ์ ผู้ประกาศข่าวของ อสมท ซึ่งได้เน้นย้ำในรายการ คุยขโมยบ่ายสามโมง ว่า ขอให้นำเสนอข่าวสารอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเปิดประเทศ ที่ผ่านมาไทยเอาชนะโควิดได้ดีมาก รัฐบาลก็พยายามเยียวยาด้วยโครงการต่างๆ ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์ เราเดินมาถูกทางแล้ว ขอเพียงพี่น้องประชาชนมีความรักและความสามัคคีกัน ส่วนตัวตนเองก็ชมรายการของนายสุวิช สุทธิประภา ก็มีแต่ข่าวที่ดี ดูแล้วอบอุ่นสบายใจ ทุกๆ รายการของ อสมท มีความน่าดูและเดินมาถูกทาง ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสมดุลและมีความสุขในทุกๆ วัน ยึดมั่นในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ขอให้คนไทยรักกัน เชื่อว่า ประเทศไทยได้ไปต่ออย่างแน่นอน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานของ อสมท นั้น นำเสนอข่าวสารอย่างมีคุณภาพดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ปรับเพิ่มแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์มากขึ้น เพราะพี่น้องประชาชนเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้มากขึ้น และจะต้องนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

“ยอมรับว่าโครงสร้างและการทำงานของ อสมท ทำหน้าที่ได้อย่างดีมาก มีทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์ต่างๆ ซึ่งถือว่าครบวงจร และที่สำคัญที่สุด ตนเองขอเป็นกำลังใจให้กับพนักงาน อสมท เพราะเข้าใจว่า อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการจัดหารายได้ต่างๆ ตรงนี้ก็จะต้องไปดู เพราะว่าองค์กรจะเป็นธุรกิจมากขึ้น การแข่งขันของสื่อต่างๆ ค่อนข้างสูง ดังนั้น เชื่อว่า ผู้บริหารจะต้องหาทางสร้างรายได้ให้กับ อสมท เพื่อให้ อสมท อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป และเป็นสื่อหลักในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับ อสมท เพราะเป็นสื่อรัฐวิสาหกิจที่ตรงไปตรงมา” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%