รมต.ประจำสำนักนายกฯ มอบนโยบาย อสมท เน้นย้ำบทบาทสื่อฯ

อสมท 22 ธ.ค.- รมต.ประจำสำนักนายกฯ เยี่ยมชม พร้อมมอบนโยบาย อสมท พร้อมเป็นกำลังใจให้พนักงาน ทำหน้าที่เป็นสื่อรัฐวิสาหกิจที่ตรงไปตรงมา พร้อมนำเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและเยี่ยมชมกิจการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมีพล.ต.อ.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ประธานกรรมการ​ บมจ.อสมท นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับชมวิดีทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินงานที่สะท้อนถึงศักยภาพด้านการสื่อสารมวลชน ทั้งการถ่ายทอดโทรทัศน์ วิทยุ การจัดกิจกรรม การผลิตบุคลากร การถ่ายทอดความรู้ การสร้างภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันสื่อ และศักยภาพด้านดิจิทัล พร้อมกันนี้ ได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของ บมจ.อสมท จากนายผาติยุทธ ใจสว่าง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานผลิตภัณฑ์ ทั้งข่าวสาร สาระความรู้ ความบันเทิง พร้อมเน้นย้ำจุดเด่นของ อสมท คือการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีในการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ซึ่ง อสมท เป็นหนึ่งในสมาชิกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศ ขณะที่งานระดับโลกต่างๆ อสมท ก็ได้รับไว้วางใจจากรัฐบาล โดยเฉพาะการรับหน้าที่ Host Broadcaster ในการประชุม APEC 2022 ที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ อสมท ยังมีคลื่นวิทยุที่หลากหลายและมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ที่สำคัญคือ ได้รับความนิยมอย่างมาก

จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและให้ข้อเสนอแนะกับคณะผู้บริหาร โดยระบุว่า ดีใจและยินดีเป็นอย่างมากที่ได้กลับมาที่ อสมท อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงเคยได้เดินทางมา อสมท เมื่อครั้งที่นายอนุชามามอบนโยบาย ทั้งนี้ อสมท นับเป็นสื่อกลางที่สำคัญที่จะสื่อสารข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แม้จะประสบปัญหาอยู่บ้าง แต่ส่วนตัวขอชื่นชมการทำงานของ อสมท ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และจับต้องได้


“ยอมรับว่า การแข่งขันของสื่อปัจจุบันเข้มข้นมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด จึงขอให้กลับมาเน้นย้ำในคุณภาพของเนื้อหา ส่วนตัวมั่นใจว่า อสมท ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ก็ขอให้ปรับปรุงให้แตกต่างและสอดแทรกเนื้อหาที่สร้างสรรค์เพราะเชื่อว่า สื่อมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของประเทศ และสร้างเนื้อหาที่มีส่วนสำคัญในการดูแลสังคม” นายธนกร กล่าว

นายธนกร กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ได้ให้ความสำคัญ กับ อสมท เพราะ อสมท เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้สื่อสารในเรื่องการทำงานของรัฐบาลไปยังพี่น้องประชาชน และส่วนตัวจะใช้เวลาทำงานให้คุ้มค่า เมื่อเข้ามาทำหน้าที่แล้วก็ต้องเป็นประโยชน์กับ อสมท ตนมีความคุ้นเคยกับพี่น้องสื่อมวลชนมาก่อน อดีตก็เคยทำงานสื่อมวลชน อะไรที่จะเป็นประโยชน์กับ อสมท ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็จะเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ขอเป็นกำลังใจให้กับ อสมท ในการมุ่งมั่นยึดหลักการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ให้นำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ย้ำว่า อะไรที่ตนสามารถทำให้ได้และเป็นประโยชน์กับ อสมท ก็ยินดีจะทำทันที

จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานหน่วยงานต่างๆ ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ 9 MCOT HD สถานีวิทยุ สำนักข่าวไทย และ MCOT MUSEUM


พร้อมกันนี้ ได้เยี่ยมชมการออกอากาศสด ของรายการ คุยขโมงบ่ายสามโมง และได้สัมภาษณ์และพูดคุยแบบสดๆ ในรายการกับ นายสุวิช สุทธิประภา และ น.ส.นีรชา หลิมสมบูรณ์ ผู้ประกาศข่าวของ อสมท ซึ่งได้เน้นย้ำในรายการ คุยขโมยบ่ายสามโมง ว่า ขอให้นำเสนอข่าวสารอย่างสร้างสรรค์ ยอมรับว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเปิดประเทศ ที่ผ่านมาไทยเอาชนะโควิดได้ดีมาก รัฐบาลก็พยายามเยียวยาด้วยโครงการต่างๆ ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์ เราเดินมาถูกทางแล้ว ขอเพียงพี่น้องประชาชนมีความรักและความสามัคคีกัน ส่วนตัวตนเองก็ชมรายการของนายสุวิช สุทธิประภา ก็มีแต่ข่าวที่ดี ดูแล้วอบอุ่นสบายใจ ทุกๆ รายการของ อสมท มีความน่าดูและเดินมาถูกทาง ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสมดุลและมีความสุขในทุกๆ วัน ยึดมั่นในชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ขอให้คนไทยรักกัน เชื่อว่า ประเทศไทยได้ไปต่ออย่างแน่นอน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานของ อสมท นั้น นำเสนอข่าวสารอย่างมีคุณภาพดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ปรับเพิ่มแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์มากขึ้น เพราะพี่น้องประชาชนเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้มากขึ้น และจะต้องนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

“ยอมรับว่าโครงสร้างและการทำงานของ อสมท ทำหน้าที่ได้อย่างดีมาก มีทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และออนไลน์ต่างๆ ซึ่งถือว่าครบวงจร และที่สำคัญที่สุด ตนเองขอเป็นกำลังใจให้กับพนักงาน อสมท เพราะเข้าใจว่า อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการจัดหารายได้ต่างๆ ตรงนี้ก็จะต้องไปดู เพราะว่าองค์กรจะเป็นธุรกิจมากขึ้น การแข่งขันของสื่อต่างๆ ค่อนข้างสูง ดังนั้น เชื่อว่า ผู้บริหารจะต้องหาทางสร้างรายได้ให้กับ อสมท เพื่อให้ อสมท อยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป และเป็นสื่อหลักในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับ อสมท เพราะเป็นสื่อรัฐวิสาหกิจที่ตรงไปตรงมา” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย