รัฐสภา 16 ธ.ค.-ส.ส.ทยอยลาออกเพิ่ม เหลือ 439 คน ด้าน “ชวน” วอน ส.ส.ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์จนวินาทีสุดท้าย พร้อมยอมรับว่า ห่วงงานของสภาฯ โดยเฉพาะรายงานที่ กมธ.ได้ทุ่มเทมาหลายปี หากไม่ผ่านน่าเสียดาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเช้าวันนี้ ( 16 ธ.ค. ) เป็นการประชุมนัดพิเศษ ตามนัดหมายของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องการเร่งรัดพิจารณากฎหมายและงานด้านนิติบัญญัติให้แล้วเสร็จ ให้ได้มากที่สุดก่อนจะครบวาระ โดยในวันนี้มีวาระการพิจารณารายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ
ประกอบด้วย รายงานผลการพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการออกประทานบัตรเหมืองแร่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ /รายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และแนวทางการบริหารจัดการปัญหาหนี้สินครูและ บุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบ /รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
ขณะที่วันนี้มีสมาชิกที่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ 439 คน จากเดิมเมื่อวานนี้มีสมาชิก 442 คน โดยพบว่า นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง นายสุชาติ อุสาหะ และ พลเอก สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นลาออกเพิ่มเติม ส่งผลให้ตอนนี้มีองค์ประชุมกึ่งหนึ่งอยู่ที่ 220 คน
ทั้งนี้ในระหว่างการหารือปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ขอหารือ เรื่องที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ตำหนิการทำงานของ ส.ส.ในสภาฯที่เกิดปัญหาล่มบ่อยครั้ง ว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม พร้อมชอบคุณ ประธานสภาฯ ที่ได้เตือนไปแล้วหลายครั้ง รวมทั้งชื่นชมที่ได้ปกป้องการทำหน้าที่ของสภาฯหลังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เรื่องการประสานงานกับ ส.ส. รัฐบาลเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำไม่ได้เป็น ส.ส. ดังนั้น มองว่า ผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีควรจะต้องมาจาก ส.ส.
ด้านประธานสภาฯ ขอสมาชิกฯอย่ากังวลสถานการณ์ภายนอก แต่ควรทำหน้าที่ให้สมบูรณ์จนวินาทีสุดท้าย พร้อมยอมรับว่า ห่วงงานของสภาฯ โดยเฉพาะรายงานงานที่กรรมาธิการได้ทุ่มเทมาหลายปี หากไม่ผ่านความเห็นชอบจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย โดยขณะนี้มีเรื่องค้างอยู่ประมาณ 17 เรื่อง เชื่อว่า หากเร่งดำเนินการจะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งทั้งเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน หากรักสภาฯ รักศักดิ์ศรี ต้องทำหน้าที่ อย่าให้ใครตำหนิได้ -สำนักข่าวไทย