กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม 14 ธ.ค.-นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เสนอให้ทุกฝ่ายมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างสร้างสรรค์ ผลักดันความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสีเขียวอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล
“เพ็ญพร พิพัฒโนทัย” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป(ASEAN – EU Commemorative Summit) สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2565 รายงานว่า วานนี้(14 ธ.ค.) เวลา 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ณ อาคาร Europa นายกรัฐมนตรี ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – สหภาพยุโรป พร้อมกับผู้นำหรือผู้แทนอาเซียน 9 ประเทศ และยุโรปอีก 27 ประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมระหว่างผู้นำของทั้งสองภูมิภาคเกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทาย แต่เห็นถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนและสหภาพยุโรปที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และเป็นพลังบวกที่สร้างสรรค์ เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุข ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมเชื่อว่า 45 ปี ที่ผ่านมา สามารถเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญและประโยชน์ของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ส่งผลต่อสองภูมิภาคและต่อประชาคมโลก
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง 3 เรื่องสำคัญ ที่จะช่วยภูมิภาคและโลกให้บรรลุเป้าหมาย ดังนี้ 1. การรับมือกับความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายด้านความมั่นคง ที่มุ่งหวังจะเห็นสหภาพยุโรปมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์กับทุกฝ่าย มุ่งสร้างความร่วมมือ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในภูมิภาคที่เอื้อต่อการพัฒนา เชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องสร้างพื้นที่ทางการทูต เพื่อให้เกิดยุทธศาสตร์ทางออก ไทยขอเสนอข้อริเริ่มเพื่อสันติภาพ โดยใช้แนวทางที่แยกเรื่องการสู้รบในพื้นที่ออกจากความร่วมมือและความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรม เพื่อต่อยอดจากความสำเร็จของข้อริเริ่มการส่งออกธัญพืชในทะเลดำ และขอให้สหภาพยุโรปร่วมกับประเทศที่เกี่ยวข้องและสหประชาชาติ ผลักดันร่างข้อมติ เพื่อให้เปิดทางสำหรับปฏิบัติการทางอากาศด้านมนุษยธรรมในการส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครน
“2. การเปลี่ยนผ่านสีเขียวเพื่อความยั่งยืน โดยไทยจะร่วมกับสหภาพยุโรปส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในอาเซียน และหวังว่าจะไม่มีการนำมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็นอุปสรรคทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนความพยายามของอาเซียน รวมทั้งไทยพร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร โดยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยความมั่นคงและความยั่งยืนทางอาหารโลกในปีหน้า พร้อมเชิญผู้นำทุกคนเข้าร่วม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 3. การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล ไทยยินดีกับข้อริเริ่ม Global Gateway ของสหภาพยุโรป สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน และเสนอให้มีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการอาเซียน-สหภาพยุโรปด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ขอให้อาเซียนมีส่วนเกื้อกูลการผลิตสินค้าของสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยสนับสนุน FTA ระหว่างกัน และเชื่อว่าจะสามาถร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแก่โลกได้.-สำนักข่าวไทย