เร่งหาแหล่งน้ำต้นทุนรับฝนแล้งอีสาน

จ.กาฬสินธุ์ 14 ธ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ลุยอีสาน ขันน็อตแก้ปัญหาน้ำพื้นที่เสี่ยง เร่งหาแหล่งต้นทุนน้ำรับมือฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง พร้อมมอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน ป้องกันการเสียสิทธิจากจำนอง-ขายฝาก ย้ำอย่าให้ที่ดินหลุดมือเกษตรกร


 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี พร้อมน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังพร้อมคณะลงพื้นที่ภาคอีสาน จ.กาฬสินธ์ และ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามการบริหารจัดการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและการฟื้นฟูแหล่งน้ำ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

 พล.อ.ประวิตร รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมจ.กาฬสินธุ์ ณ ศาลากลางจังหวัด  ซึ่งยังพบปัญหาสำคัญคือการขาดแคลนแหล่งน้ำต้นทุนการเกษตรและการบริโภคจากการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน โดยปี 61-64 มีแผนงานพัฒนาพื้นที่แล้ว 1,152 โครงการ วงเงินกว่า 3,100 ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ 107,582 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 48,000 ครอบครัว และอยู่ระหว่างดำเนินการ 165 โครงการ โดยงบกลางกว่า 280 ล้าน ทั้งการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม สำหรับปี 66-67 มี 3 โครงการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 912 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อีก 3,100 ครอบครัว พื้นที่กว่า 5,800 ไร่


 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติจังหวัด(สทนช. จังหวัด) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง โดยขอให้เร่งพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่ให้เสร็จทันตามกำหนด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และขอให้ลงไปดูแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยและป้องกันการเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกินจากการจำนองและขายฝากของเกษตรกร อย่าให้หลุดมือเกษตรกร  พร้อมทั้งเร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน  การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ โดยให้บูรณาการความร่วมมือภาคีการพัฒนาต่างๆ และบริหารจัดการข้อมูลแบบชี้เป้าให้เป็นผล  ทั้งนี้ ให้กระจายรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน เพื่อบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมไปด้วยกัน

พล.อ.ประวิตรได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินของรัฐเป็นการชั่วคราว ตามนโยบายแก้ปัญหาความยากจนและพบปะประชาชน ในพื้นที่ “หนองผัวเมียสาธารณประโยชน์” ต.ดอนสมบูรณ์ และแปลง “โสกหมูสาธารณประโยชน์” ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด และกล่าวขอบคุณ จว.กาฬสินธุ์ ที่แก้ปัญหาการบริหารจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างถูกต้องใน 7 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 2,938 แปลง เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกับพบปะเยี่ยมเยียนและรับทราบปัญหาจากประชาชนในพื้นที่  

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายพล.อ.ประวิตรและคณะ จะพบปะประชาชน และติดตามการแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด.-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยอากาศร้อนโดยทั่วไป-ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท