รัฐสภา 8 ธ.ค.-“ชูวิทย์” นำรายชื่อขบวนการธุรกิจทุนจีนสีเทามอบกมธ.ป.ป.ช. แย้มมีข้อมูลใหม่ ขออย่าโยงประเด็นการเมือง สงสัยเกี่ยวข้องยาเพสติด แล้วยึดไว้ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยหรือไม่
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย เข้าพบพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร อีกครั้ง หลังยื่นหนังสือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายชูวิทย์ เปิดเผยว่า วันนี้นำข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมมามอบให้กมธ. เพราะธุรกิจทุนจีนนี้ทำเป็นกระบวนการ จึงมายื่นชื่อตัวบงการและผู้สนับสนุน ซึ่งมีข้อมูลใหม่ด้วย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง( ตม.) เพื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปรายบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม กระบวนการนี้ หากไม่มีผู้สนับสนุน คงทำไม่ได้
ส่วนจะเกี่ยวข้องถึงระดับคนในพรรคการเมืองหรือไม่ เพราะเป็นขบวนการใหญ่ในการเปลี่ยนวีซ่าของกลุ่มนายทุนจีนสีเทา นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเป็นนักการเมืองเก่า แต่ไม่อยากพูดเรื่องการเมือง เนื่องจากมีคนพยายามโยงให้เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งการที่พรรคพลังประชารัฐรับเงินบริจาค 3 ล้านบาท รับรู้หรือไม่ว่านายตู่ห่าวประกอบอาชีพอะไร เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ หากเกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องยึดไว้ตรวจสอบหรือไม่ และต้องยึดเงินคืนหรือไม่ เพราะมีมูลฐานมาจากยาเสพติด ถ้าเงินไปอยู่ที่ไหน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ต้องเข้าไปตรวจสอบ จึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องจัดการ
“มีข้อสังเกตว่ามีการเมืองมาเกี่ยวข้อง ทำให้ไม่มีความคืบหน้า ขอยืนยันว่า ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยว ที่มีคนพยายามโยงไปเรื่องเงินบริจาค รวมถึงการซื้อหมู่บ้านของบริษัทเอสซี แอสเสท นั้น ผมมองว่าเมืองไทยอย่ายุ่งการเมืองมากเกินไป ถ้านำมาแสวงหาผลประโยชน์ การหาเสียงและทำลายคู่แข่งทางการเมือง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของผู้แทนประชาชน ดังนั้น ส.ส.ควรดูแลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่ผมไม่เคยเห็นส.ส.คนไหนพูดถึงเรื่องที่ผมกำลังต่อสู้อยู่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมเป็นเพียงพลเมืองดี กลับมีพลเมืองร้ายคอยใส่ร้ายผมมาตลอด จึงไม่อยากใช้เรื่องนี้ไปป้ายสีใคร เพราะเรื่องป้ายสี หากทำกับใคร ผมทำได้เก่ง มีข้อมูลเยอะ ถ้าไม่มีข้อมูล จะไม่พูด และวันนี้มาพบพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ที่จัดการสำเร็จมาหลายคดี จึงมีข้อมูลเบื้องลึกมาให้” นาย ชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ใครที่พยายามพูดให้ตนออกมาตอบโต้ ตนไม่พูด ขอมุ่งเน้นไปที่ประเด็นธุรกิจสีเทา มาเฟีย และเจ้าหน้าที่ที่รับผลประโยชน์ ต้องล้มกระดานให้ได้ หากล้มกระดานไม่ได้ ประเทศไทยก็ไม่ต่างกับกัมพูชา วันนี้จะเปิดเผยในชั้นกมธ.ทั้งหมดว่าใครอยู่ในกระบวนการนี้บ้าง เพราะเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการ ไม่มีทางที่เวลา 10 กว่าปี นายตู้ห่าวจะมีเงินมหาศาล หากทำมาหากินสุจริต ต้องเสียภาษี ดูเส้นทางการเงินได้ แต่เกิดจากจุดเล็ก ๆ คือ จินหลิง ที่เป็นมะเร็งลุกลามไปทั่ว
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกรณีนายสันธนะ ประยูรรัตน์ เตรียมฟ้องดำเนินคดีและให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนว่า นายสันทนะเป็นตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ ลืมตรวจสอบตัวเองว่าทำงานอะไร เสียภาษีหรือไม่ สื่อต้องแยกแยะว่าใครมีข้อมูล ใครที่พูดความจริงที่เป็นประโยชน์กับสังคม ไม่เช่นนั้นนายสันธนะกลายเป็นตัวอันตราย เมื่อตัวเองมีราคาต่อหน้าสื่อ.-สำนักข่าวไทย