กมธ.ป.ป.ช. เชิญ สว.สำรอง-กกต. แจง ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 15 พ.ค.-กมธ.ป.ป.ช. เชิญ สว.สำรอง-กกต. แจง ฮั้วเลือก สว. ยันไม่ใช่เกมการเมือง แต่เพื่อให้สถาสูงสง่างาม ขอผู้แจงไม่ระบุตัวบุคคล หวั่นกระทบสำนวน DSI ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ซัด กกต.ไม่กระตือรือร้นข้อร้องเรียน

นายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ในการเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้ร้องเรียน เข้าชี้แจงเรื่องการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่า กลุ่ม สว.ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าไปทำหน้าที่ ทำเรื่องร้องมายังคณะกรรมาธิการ เพื่อขอให้ตรวจสอบการฮั้วเลือก สว. ในฐานะกรรมาธิการจึงมีหน้าที่ในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ ในส่วนนี้มีบุคคลที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งส่วนราชการ และนักการเมือง


นายฉลาด กล่าวว่าภายหลังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษและเดินหน้าอย่างรวดเร็ว กรรมาธิการจึงได้เชิญ ผู้ร้อง และ กกต. มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งหมดที่อ้างว่าถูกข่มขู่จากหน่วยของรัฐ “เราอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย สภาเราต้องมีความโปร่งใส เลือกตั้งแต่ละครั้ง สส. ก็ถูกนินทาอยู่เรื่อย สภาสูง หรือวุฒิสภา เป็นสภากลั่นกรองจะต้องมีความสง่างาม ไม่ได้มองว่าท่านทุจริต แต่เมื่อสังคมเกิดความสงสัย ทุกองค์กรมีหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ตรวจสอบว่าท่านมาด้วยความสง่างาม พวกเราก็ชื่นชม ขอให้ท่านมา ไม่ใช่เป็นการใส่ร้าย หรือปั้นแต่ง เกิดจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผู้ร้องส่วนหนึ่งมีข้อมูลจะจริงหรือเท็จก็มาพิจารณากัน” นายฉลาด กล่าว

นายฉลาด ยังย้ำว่า กกต. และดีเอสไอมีหน้าที่ในการสืบสวนข้อมูลเพื่อจะให้คุณให้โทษ ส่วนกรรมาธิการจะหาข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วรายงานสภาให้ทราบ


เมื่อถามว่าการหยิบยกเรื่อง ฮั้ว สว. เข้าที่ประชุมกรรมาธิการจะถูกมองเป็นการเมืองหรือไม่ นายฉลาด กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ร้องมายังกรรมาธิการ จึงให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลว่ามีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ เพราะสภาเป็นสภาคู่ ซึ่งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรต้องทำงานร่วมกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ตนยืนยันว่า วันนี้ตนเป็น สส.มา 10 สมัย ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องทำหน้าที่ไม่ทำไม่ได้

เมื่อถามว่ากลุ่ม สว.สำรอง ได้ยื่นร้องเรียนมีเรื่องใดบ้างนั้น นายฉลาด กล่าวว่า มีทั้งที่เป็นข่าว และบางเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ สิ่งใดที่เป็นความลับในสำนวน เพื่อไม่ทำให้สำนวนสอบสวนของดีเอสไอเสียหาย หรือเกิดการปราบปรามใส่ร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง การชี้แจงต่อกรรมาธิการจึงขอให้ไม่ระบุชื่อตัวบุคคล

ทั้งนี้นายฉลาด กล่าวว่า ในนามสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะสร้างความมั่นใจว่า เราสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา มาโดยชอบด้วยกฎหมาย สง่างาม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย


สำหรับการประชุมกรรมาธิการ ป.ป.ช.วันนี้ ได้พิจารณาข้อร้องเรียนการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ สำนักงาน กกต. กรณีการเลือก สว. ที่มีการฮั้ว ที่มีผู้สมัคร สว.ร้องเรียน นำโดยพลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ อดีต ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะผู้สมัคร สว. และ สว.สำรอง ซึ่งการชี้แจงในวันนี้ (15 พ.ค.) มีกลุ่มผู้สมัคร สว.ในฐานะผู้ร้อง และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ร้อยตำรวจเอกชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต.รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน กกต.มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ

นายฉลาด ยืนยันก่อนเริ่มการพิจารณาว่า การพิจารณาข้อร้องเรียนในวันนี้ (15 พ.ค.) ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นไปตามหลักการ ทั้งการพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ร้องเรียน และการชี้แจงของผู้ถูกร้อง

ขณะที่ พลตำรวจโทคำรบ ยังคงย้ำว่า ระบบการเลือก สว. ที่ กกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งไม่มีความชำนาญ ทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติ และการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ไม่เรียบร้อย ผู้สมัครไม่ตรงกลุ่มอาชีพ รวมถึงยังมีการจัดตั้งผู้สมัคร นำประชาชนที่ไม่ได้เต็มใจมาสมัครรับเลือก และยังมีการใช้เงินไปจ้างลงสมัคร รวมถึงระบบที่ยังหละหลวมของ กกต.ทำให้การจัดตั้งง่ายขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอบางพื้นที่ ยังมีการเกี่ยวพันและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มจัดตั้ง ซึ่งความไม่ตรงไปตรงมา ก็เริ่มต้นตั้งแต่ระดับอำเภอ เมื่อมาถึงระดับประเทศ ที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานว่า จะมีผู้สมัครกลุ่มจัดตั้งใช้โพย จนมีการใช้โพยจริง ก่อนที่ กกต.จะห้ามใช้เอกสารทั้งหมดเข้าพื้นที่การเลือก และ กกต.รายหนึ่ง ก็ยังสามารถยึดโพยในเขตการเลือกได้ ซึ่งถือเป็นของกลาง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบใด ๆ จนมีการขานคะแนน ทุกกลุ่มอาชีพ พบว่า มีคะแนนออกมาเป็นชุด ๆ ตามที่เป็นข่าว และซ้ำไปซ้ำมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าว สะท้อนถึงการจัดตั้งจริง ซ้ำยังพบโพยในห้องน้ำ และคะแนนก็เกาะกลุ่มตรงตามโพย รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ก็ยังไม่กระตือรือร้นเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนใด ๆ จนกระทั่งมีการประกาศผลการเลือก สว.พวกตนจึงได้ไปร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI หลังจากนั้น จึงได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ และมอบให้กับ DSI จนได้ความชัดเจนเครือข่ายกลุ่มฮั้ว สว.ครอบคลุมเกือบทั้งประเทศ

พลตำรวจโทคำรบ ขอให้ กกต.ทบทวนการยกคำร้อง ข้อร้องเรียนต่อเลขาธิการ กกต. กรณีที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทราบว่าจะมีโพย และแจ้งเลขาธิการ กกต.ให้ระงับการเลือก แต่เลขาธิการ กกต.กลับละเลยด้วย

ทั้งนี้ ก่อนที่รองเลขาธิการ กกต.จะชี้แจงนั้น นายสุทธิชัย จรูญเนตร สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ได้เสนอให้ที่ประชุมกรรมาธิการฯ ดำเนินการประชุมแบบลับ ระหว่างผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เพราะเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ และสังคมให้ความสนใจ กรรมาธิการหลายคน ต้องการซักถามและแสดงความเห็น จึงขอยังไม่มีการเปิดเผย เพราะหากมีการเผยแพร่สด การชี้แจงของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง อาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงขอให้มีการประชุมลับ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย

แจ้ง 5 ข้อหา เอาผิดเรือเมียนมาเกยแนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์

พังงา​ 4 มิ.ย. – อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์ ​แจ้ง​ความ​เอาผิด​ผู้​เกี่ยว​ข้อ​งกับเหตุ​การ​ณ์​เรือขนส่ง​สินค้า​สัญชาติ​เมียนมา​ เกย​ตื้น​ทับแนวปะการัง​อุทยาน​แห่งชาติ​หมู่เกาะ​สุรินทร์​ ดำเนิน​คดี​ 5 ข้อหา​หนัก​ พร้อมเรียก​ร้อง​ค่าเสียหาย​ต่อรัฐ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กรณีเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังและเกยตื้นบริเวณอ่าวจาก เขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.คุระบุรี จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 13.26 น. ตาม ปจว.ข้อ 5 คดีอาญาที่ 128/2568 และคดียึดทรัพย์ที่ 60/2568 การแจ้งความดังกล่าวระบุฐานความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 รวม 5 ข้อหา ได้แก่ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า […]

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]