กมธ.ป.ป.ช. เชิญ สว.สำรอง-กกต. แจง ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 15 พ.ค.-กมธ.ป.ป.ช. เชิญ สว.สำรอง-กกต. แจง ฮั้วเลือก สว. ยันไม่ใช่เกมการเมือง แต่เพื่อให้สถาสูงสง่างาม ขอผู้แจงไม่ระบุตัวบุคคล หวั่นกระทบสำนวน DSI ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ซัด กกต.ไม่กระตือรือร้นข้อร้องเรียน

นายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ในการเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้ร้องเรียน เข้าชี้แจงเรื่องการตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่า กลุ่ม สว.ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าไปทำหน้าที่ ทำเรื่องร้องมายังคณะกรรมาธิการ เพื่อขอให้ตรวจสอบการฮั้วเลือก สว. ในฐานะกรรมาธิการจึงมีหน้าที่ในการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบหรือไม่ ในส่วนนี้มีบุคคลที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งส่วนราชการ และนักการเมือง


นายฉลาด กล่าวว่าภายหลังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษและเดินหน้าอย่างรวดเร็ว กรรมาธิการจึงได้เชิญ ผู้ร้อง และ กกต. มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อรับฟังข้อมูลทั้งหมดที่อ้างว่าถูกข่มขู่จากหน่วยของรัฐ “เราอยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย สภาเราต้องมีความโปร่งใส เลือกตั้งแต่ละครั้ง สส. ก็ถูกนินทาอยู่เรื่อย สภาสูง หรือวุฒิสภา เป็นสภากลั่นกรองจะต้องมีความสง่างาม ไม่ได้มองว่าท่านทุจริต แต่เมื่อสังคมเกิดความสงสัย ทุกองค์กรมีหน้าที่ รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ตรวจสอบว่าท่านมาด้วยความสง่างาม พวกเราก็ชื่นชม ขอให้ท่านมา ไม่ใช่เป็นการใส่ร้าย หรือปั้นแต่ง เกิดจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผู้ร้องส่วนหนึ่งมีข้อมูลจะจริงหรือเท็จก็มาพิจารณากัน” นายฉลาด กล่าว

นายฉลาด ยังย้ำว่า กกต. และดีเอสไอมีหน้าที่ในการสืบสวนข้อมูลเพื่อจะให้คุณให้โทษ ส่วนกรรมาธิการจะหาข้อมูลข้อเท็จจริง แล้วรายงานสภาให้ทราบ


เมื่อถามว่าการหยิบยกเรื่อง ฮั้ว สว. เข้าที่ประชุมกรรมาธิการจะถูกมองเป็นการเมืองหรือไม่ นายฉลาด กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ร้องมายังกรรมาธิการ จึงให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลว่ามีการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ เพราะสภาเป็นสภาคู่ ซึ่งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรต้องทำงานร่วมกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกันไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ตนยืนยันว่า วันนี้ตนเป็น สส.มา 10 สมัย ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องทำหน้าที่ไม่ทำไม่ได้

เมื่อถามว่ากลุ่ม สว.สำรอง ได้ยื่นร้องเรียนมีเรื่องใดบ้างนั้น นายฉลาด กล่าวว่า มีทั้งที่เป็นข่าว และบางเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ สิ่งใดที่เป็นความลับในสำนวน เพื่อไม่ทำให้สำนวนสอบสวนของดีเอสไอเสียหาย หรือเกิดการปราบปรามใส่ร้ายผู้ใดผู้หนึ่ง การชี้แจงต่อกรรมาธิการจึงขอให้ไม่ระบุชื่อตัวบุคคล

ทั้งนี้นายฉลาด กล่าวว่า ในนามสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะสร้างความมั่นใจว่า เราสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา มาโดยชอบด้วยกฎหมาย สง่างาม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความสวยงามตามระบอบประชาธิปไตย


สำหรับการประชุมกรรมาธิการ ป.ป.ช.วันนี้ ได้พิจารณาข้อร้องเรียนการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ สำนักงาน กกต. กรณีการเลือก สว. ที่มีการฮั้ว ที่มีผู้สมัคร สว.ร้องเรียน นำโดยพลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ อดีต ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะผู้สมัคร สว. และ สว.สำรอง ซึ่งการชี้แจงในวันนี้ (15 พ.ค.) มีกลุ่มผู้สมัคร สว.ในฐานะผู้ร้อง และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ร้อยตำรวจเอกชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต.รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ภายใน กกต.มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ

นายฉลาด ยืนยันก่อนเริ่มการพิจารณาว่า การพิจารณาข้อร้องเรียนในวันนี้ (15 พ.ค.) ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นไปตามหลักการ ทั้งการพิจารณาข้อร้องเรียนของผู้ร้องเรียน และการชี้แจงของผู้ถูกร้อง

ขณะที่ พลตำรวจโทคำรบ ยังคงย้ำว่า ระบบการเลือก สว. ที่ กกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งไม่มีความชำนาญ ทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติ และการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ไม่เรียบร้อย ผู้สมัครไม่ตรงกลุ่มอาชีพ รวมถึงยังมีการจัดตั้งผู้สมัคร นำประชาชนที่ไม่ได้เต็มใจมาสมัครรับเลือก และยังมีการใช้เงินไปจ้างลงสมัคร รวมถึงระบบที่ยังหละหลวมของ กกต.ทำให้การจัดตั้งง่ายขึ้น เจ้าหน้าที่ระดับอำเภอบางพื้นที่ ยังมีการเกี่ยวพันและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มจัดตั้ง ซึ่งความไม่ตรงไปตรงมา ก็เริ่มต้นตั้งแต่ระดับอำเภอ เมื่อมาถึงระดับประเทศ ที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานว่า จะมีผู้สมัครกลุ่มจัดตั้งใช้โพย จนมีการใช้โพยจริง ก่อนที่ กกต.จะห้ามใช้เอกสารทั้งหมดเข้าพื้นที่การเลือก และ กกต.รายหนึ่ง ก็ยังสามารถยึดโพยในเขตการเลือกได้ ซึ่งถือเป็นของกลาง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบใด ๆ จนมีการขานคะแนน ทุกกลุ่มอาชีพ พบว่า มีคะแนนออกมาเป็นชุด ๆ ตามที่เป็นข่าว และซ้ำไปซ้ำมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าว สะท้อนถึงการจัดตั้งจริง ซ้ำยังพบโพยในห้องน้ำ และคะแนนก็เกาะกลุ่มตรงตามโพย รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ก็ยังไม่กระตือรือร้นเพิกเฉยต่อข้อร้องเรียนใด ๆ จนกระทั่งมีการประกาศผลการเลือก สว.พวกตนจึงได้ไปร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI หลังจากนั้น จึงได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ และมอบให้กับ DSI จนได้ความชัดเจนเครือข่ายกลุ่มฮั้ว สว.ครอบคลุมเกือบทั้งประเทศ

พลตำรวจโทคำรบ ขอให้ กกต.ทบทวนการยกคำร้อง ข้อร้องเรียนต่อเลขาธิการ กกต. กรณีที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทราบว่าจะมีโพย และแจ้งเลขาธิการ กกต.ให้ระงับการเลือก แต่เลขาธิการ กกต.กลับละเลยด้วย

ทั้งนี้ ก่อนที่รองเลขาธิการ กกต.จะชี้แจงนั้น นายสุทธิชัย จรูญเนตร สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ได้เสนอให้ที่ประชุมกรรมาธิการฯ ดำเนินการประชุมแบบลับ ระหว่างผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เพราะเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญ และสังคมให้ความสนใจ กรรมาธิการหลายคน ต้องการซักถามและแสดงความเห็น จึงขอยังไม่มีการเปิดเผย เพราะหากมีการเผยแพร่สด การชี้แจงของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง อาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย จึงขอให้มีการประชุมลับ.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย