ทำเนียบ 2 ธ.ค.-รัฐบาลจ่ายเงินรอบ 2 ให้ชาวนา รวม 1,780 ล้านบาท พร้อมติดตามการจ่ายตรงเงินช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กว่า 4.29 ล้านราย ให้ถึงมืออย่างรวดเร็วโปร่งใส
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มอบนโยบายและติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่เห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินมาตรการช่วยเหลือผ่านโครงการสนับสนุน ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ซึ่งจะจ่ายตรงให้กับเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว กับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือ 20,000 บาท โดยโอนเงินรอบแรกไปแล้ว เมื่อช่วงวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา จำนวนกว่า 50,615 ล้านบาท มีผู้ได้รับประโยชน์จำนวนกว่า 4.29 ล้านราย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า วันนี้จะมีการโอนเงินจากนโยบายช่วยเหลือชาวนาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านทาง ธ.ก.ส. รอบที่ 2 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศอีก จำนวน 204,471 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 1,780 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นกำลังใจและเป็นทุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในการพัฒนาคุณภาพผลผลิต เพื่อให้มีโอกาสขายข้าวในราคาที่สูงขึ้น เพื่อยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และก้าวสู่เกษตรมูลค่าสูงภายใต้การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ
ซึ่งนอกจากโครงการสนับสนุน ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 แล้ว ยังมีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 ด้วย
“พล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นช่วยเหลือและทำจริง ตั้งใจจริง เน้นย้ำเสมอเรื่องต้องเงินถึงมือชาวนาทุกบาท ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ตามที่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาโดยตลอด ทั้งออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง ประคองสถานการณ์เฉพาะหน้าให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดถึงมือ และยังวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการในระยะยาว ดูแลให้มีความมั่นคงทางรายได้ และทำให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ”น.ส.ทิพานัน กล่าว.-สำนักข่าวไทย