กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – “วิษณุ” ระบุอาหารเลี้ยงผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค แบ่งเป็น 3 ระดับ นำทัพโดย “เชฟชุมพล” ทำอาหารให้ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอาหารที่จะเลี้ยงผู้นำประเทศและคณะที่เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค 2022) ว่ามีอยู่ 3 ระดับ
ระดับที่ 1 เป็นระดับผู้นำที่นั่งเก้าอี้ 21 เขตเศรษฐกิจ โดยมีเชฟชุมพล ทำอาหารที่มาจาก 4 ภาค เช่น ข้าวซอย ระดับที่ 2 เป็นระดับรัฐมนตรี เป็นอาหารที่ลดระดับลงมาจากผู้นำ ระดับที่ 3 เป็นของคณะผู้ติดตาม
ด้านนายกรัฐมนตรีระบุว่าอาหารที่จะใช้เสิร์ฟประชุมเอเปค รับประทานได้ แต่ยังไม่คุ้นรสชาติ เป็นกำลังใจคนรุ่นใหม่คิดค้นเมนู เผย มีอาหารเมนูหลักอยู่แล้ว
โดยวันนี้นายกรัฐมนตรีเดินชมและชิมอาหารจาก APEC Future Food for Sustainability มีเมนูที่น่าสนใจ เช่น ข้าวถั่วลูกไก่ยำปักษ์ใต้ผัก 5 สี โปรตีนสูง, ราเมงจากเส้นโปรตีนไข่ขาว ไร้แป้ง เหมาะกับคนรักสุขภาพ, ไอศกรีมปราศจากนม เพิ่มรสชาติด้วยผัดเคลและเสาวรส, ห่อหมกวีแกนเพื่อสุขภาพ, ขนมชั้นสูตรลดน้ำตาลเสริมใยอาหารและโพรไบโอติกส์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมชิมอาหารจากโครงการดังกล่าวด้วย
สำหรับเมนูอาหารอนาคตจากตัวแทนของผู้เข้ารอบการประกวด ทั้ง 21 ทีม ซึ่งเมนูบางส่วนจะถูกนำมาเป็นอาหารเลี้ยงต้อนรับผู้นำ APEC
ส่วนงานเลี้ยงกาลาร์ดินเนอร์ผู้นำเขตเศรษฐกิจในคืนวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่จะจัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือ เชฟชุมพล ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ เปิดเผยว่า วัตถุดิบที่ใช้จะเป็นของไทยทั้งหมด มาจากทั่วประเทศ เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยแขกวีไอพีที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงมีประมาณ 400 คน มีอาหาร 4 คอร์ส ซึ่งมีอาหารไทยขึ้นชื่อ และเป็นที่รู้จักของไทย อาทิ ข้าวซอย, ต้มข่าไก่, ต้มยำ, ขนมหม้อแกงเผือกภูเขา, ผักจากโครงการหลวง, ไข่ปลาคาเวียร์จากโครงการหลวง ดอยอินทนนท์, เนื้อจากโพนยางคำ, ปลากุเลาจากตากใบ รวมถึงเครื่องดื่มเป็นไวน์ไทย จากเขาใหญ่
ไทยเตรียมสร้างความประทับใจผู้นำเอเปค
ขณะเดียวกันความพร้อมการประชุมเอเปค โดยนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ แถลงถึงการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีและผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. นี้ว่า มีการยืนยันในระดับผู้นำแล้ว 16 เขตเศรษฐกิจ ส่งผู้แทน 4 เขตเศรษฐกิจ คือ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลี, รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเม็กซิโก และผู้แทนระดับเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ส่วนอีก 1 เขตเศรษฐกิจ คือ รัสเซีย ยังรอการยืนยัน โดยประเด็นสำคัญของไทยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนำขึ้นหารือคือ แนวคิด BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว จะช่วยการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ได้อย่างไร รวมทั้งยังจะมีเวทีการหารือด้านวิกฤติพลังงาน เศรษฐกิจ ระหว่างแขกรับเชิญของไทย 3 ชาติ คือ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย กับผู้นำเอเปคด้วย
ทั้งนี้ ผู้นำเอเปคจะเดินทางถึงไทยผ่าน 3 สนามบินหลักคือ บน.6 ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ และพักตามโรงแรมต่างๆ รวม 20 แห่ง ซึ่งนายภควัต ตันสกุล อธิบดีกรมพิธีการทูต เปิดเผยว่าในช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย. ผู้นำเอเปคจะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จากนั้นจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ ที่หอประชุมกองทัพเรือ ด้วยเมนูพิเศษจากเชฟชุมพลที่สะท้อนธีมของการประชุมคือ เปิดกว้าง สมดุล เชื่อมโยงในบรรยากาศไทยย้อนยุค และจำลองประเพณีการลอยกระทงให้ผู้นำเอเปคได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ด้านของที่ระลึกที่จะมอบแก่ผู้นำเอเปคมีจำนวน 7 ชิ้น อาทิ กรอบรูปถมเงินพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพดุนโลหะและกล่องใส่เครื่องประดับของคู่สมรส ฝีมือชุมชนวัดวัวลาย จ.เชียงใหม่ ผ้าไหมทอมือย้อมธรรมชาติ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกจากกรมธนารักษ์
พร้อมกันนี้ กรมพิธีการทูตยังแจ้งมายังประชาชนว่าอาจจะได้รับผลกระทบในการเดินทางจากการซ้อมขบวนรถรับส่งผู้นำเอเปค ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. และวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.นี้ ในเวลาประมาณ 19.00 น. เนื่องจากจะมีการปิดถนนและทางด่วนบางช่วง ในเส้นทางระหว่างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ โรงแรมที่พักต่างๆ 20 แห่ง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท หอประชุมกองทัพเรือ สนามบิน 3 แห่ง.-สำนักข่าวไทย