ไล่ออกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฉี่ม่วง

กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- ปลัดมหาดไทย เผยไล่ออกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอำเภอลานสภาฉี่ม่วง ลั่น หากเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องรับโทษทั้งวินัยและอาญาไม่มีละเว้น


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการ Re X-Ray ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวาดบ้านให้กับตนเอง ด้วยการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกคน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญา ไม่มีละเว้น ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ตนได้รับรายงานว่า จากการตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ของอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ หรือ ผรส. มีสารเสพติดในกระแสเลือด โดยพบปัสสาวะสีม่วงชัดเจน จึงถูกไล่ออกจากทางราชการโดยทันที ซึ่งรายนี้ถือเป็นรายแรก เพราะสำหรับตำแหน่ง ผรส. นั้น ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ แต่ตัว ผรส. กลับมากระทำผิดเสียเอง “แบบนี้จึงเอาไว้ไม่ได้” เพราะถือเป็นการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง และขอย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังยาเสพติด และประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน ห้ามข้องเกี่ยวกับยาเสพติดทุกกรณี หากตรวจพบจะมีมาตรการในการลงโทษทางวินัย และดำเนินคดีอาญาทันที

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ยังได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเร่ง Re X-Ray สุ่มตรวจสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการขนส่ง โรงสี และคลังเก็บสินค้าทางการเกษตร เป็นต้น เพื่อป้องปรามและติดตามค้นหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งในวันนี้หลายพื้นที่ได้รายงานผลการดำเนินการสุ่มตรวจ เช่น 1) จังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สุ่มตรวจยาเสพติดในปัสสาวะพนักงานในสถานประกอบการแห่งหนึ่ง จำนวน 128 ราย 2) จังหวัดสกลนคร ฝ่ายปกครองจังหวัดสกลนคร ร่วมกับสำนักงานสวัสดิการแรงงานจังหวัดสกลนคร และโรงพยาบาลสกลนคร ออกสุ่มตรวจปัสสาวะ จำนวน 2 แห่ง รวมพนักงาน 43 คน 3) จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตชด.และสาธารณสุข ร่วมสุ่มตรวจปัสสาวะ ในสถานประกอบการ 8 แห่ง รวมพนักงาน 126 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังสถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ เช่น ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหารบก มทบ.26, สรรพสามิตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ และสาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ รวมกว่า 100 นาย ออกตรวจสถานประกอบการต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ โดยตรวจปัสสาวะพนักงานทุกคนที่ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยผลการตรวจปัสสาวะพนักงานทุกคน ไม่พบมีการกระทำผิด และยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในสถานบันเทิง


ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ในมิติด้านการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ทุกกลไกในพื้นที่ยังคงดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งรายใหญ่และผู้ค้ารายย่อยในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีตัวอย่างผลการปฏิบัติในวันนี้ ได้แก่

  1. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดสงขลา ภายใต้การอำนวยการของนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดสงขลา, นายปัญญวัฒน์ เรืองวงศ์โรจน์ ป้องกันจังหวัดสงขลา และนายกองตรี วิโรจน์ ศรีขวัญ ผบ.ร้อย อส.จ.สข.1 ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา นำโดย จ่าเอกไพรัช แก้วมณี ผช.ป้องกันฯ/รอง หน.ชุดฯ นำกำลัง อส. ประจำชุด ฯ ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 2 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 5 มัด หรือ 10,000 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
  2. เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้การอำนวยการของ นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอปาย ได้มอบหมายให้ นายภูรีภัทร พิพัฒน์พงศธร และนายพิเชษฐ พุ่มนวน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอปาย นำกำลังสมาชิก อส. ร้อย.อส.อ.ปาย 4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย (เจ้าหน้าที่ตรวจยึด) ได้ร่วมกันตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายเป็นยาบ้า จำนวน 12 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 2,400 เม็ด และยาบ้า อีกจำนวน 18 ถุง น้ำหนักรวมถุง 7,131.636 กรัม (ถุงละประมาณ 396.202 กรัม) ซึ่งขณะตรวจยึดไม่พบผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ที่เกิดเหตุ จึงได้นำของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดไว้ได้ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปาย ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
  3. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม นำโดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 นำโดย พ.ต.อ.จีรภัทร พฤฑฒิกุล ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.วิฑูรย์ ญานุกูล รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.พล หอมจันทร์ รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.โชติธนินท์ โชติสุรีย์ชัย รอง ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.2 พร้อมพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10 กระสอบ ประมาณ 3 ล้านเม็ด และอาวุธปืนสั้น จำนวน 2 กระบอก จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บกปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
  4. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจ สภ.ชะอวด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ในพื้นที่ อ.ชะอวด รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วรถเสียหลักตกลงข้างทางริมถนนสายเชียรใหญ่ – ควนหนองหงส์ ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากถนนลื่น ภายในรถมีชายวัยรุ่น 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อชายวัยรุ่นทั้ง 3 คนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเข้าช่วยเหลือต่างตกใจวิ่งหลบหนีไปแบบมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภายในรถกระบะพบกล่อง จำนวน 2 กล่อง เปิดตรวจสอบพบว่า มียาบ้ารวม 362,000 เม็ด จึงแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวนตรวจสอบตรวจยึดยาบ้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด พร้อมกับตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามวัยรุ่นทั้ง 3 คนมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
  5. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดชัยภูมิ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ 16 อำเภอ สถานีตำรวจภูธร จำนวน 29 แห่ง และเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 31 จุดเป้าหมาย ได้รายงานผลการปฏิบัติงาน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดคดียาเสพติด จำนวน 31 รายพร้อมของกลางยาเสพติด ประเภทยาบ้า จำนวน 4,341 เม็ด สารไอซ์ ปริมาณ 15.62 กรัม อาวุธปืน จำนวน 16 กระบอก และกระสุนและเครื่องกระสุนปืน จำนวน 22 นัด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำผู้เสพเข้ารับการสมัครใจบำบัด จำนวน 16 ราย
  6. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ณ จังหวัดกระบี่ ภายใต้การอำนวยการของนายสมยศ ณ นคร นายอำเภออ่าวลึก นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง โดยนายชนะพล เที่ยงธรรม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภออ่าวลึก กำนันตำบลคลองยา ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.คลองยา พร้อมด้วยสมาชิก อส.อ.อ่าวลึกที่ 7 ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดคดียาเสพติด จำนวน 2 ราย และตรวจยึดรถยนต์อีกหนึ่งคัน ซึ่งพบของกลางเป็นยาบ้ารวมกว่า 2,000 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานการตรวจค้นและจับกุมผู้ค้ารายย่อยจากอีกหลายพื้นที่ อาทิ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จับกุมได้กว่า 200 เม็ด อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ จับกุมได้กว่า 100 เม็ด อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับกุมได้กว่า 600 เม็ด เป็นต้น โดยทั้งหมดถูกนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลสงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

“กระทรวงมหาดไทย เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการทำสงครามกับยาเสพติดและอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกชนิด ด้วยการบูรณาการการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น โดยใช้ทุกกลไกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ลงพื้นที่ลุยกวาดล้างผู้กระทำความผิดอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งนำผู้หลงผิดเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อคืนคนดีให้กับสังคม ให้กับครอบครัว และหมั่นลงพื้นที่ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัจจัยทำลายคนบริสุทธิ์อีก อันจะทำให้ลูกหลานของพวกเราทุกคน อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข พร้อมทั้งได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์หมายเลขติดต่อในการแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และหมายเลขที่ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างสะดวก มีเจ้าหน้าที่สแตนบายพร้อมเข้าดำเนินการตามเบาะแสตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถจดจำและติดต่อได้ง่าย อันเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมในการช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย