ปกครอง-มั่นคง-สธ.ร่วมประกาศสงครามยาเสพติด

กระทรวงมหาดไทย 10 ต.ค.-“ปลัด มท.-ผบ.ตร.” นั่งหัวโต๊ะร่วมถกแนวทางแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงาน ประกาศสงครามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ เร่งนำผู้ติดยาเข้าบำบัด


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานร่วมการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น.ส.ปาณี นาคะนาท ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ประชาชนชาวไทยและคนทั่วโลกรับทราบโดยทั่วกันแล้วว่า เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสร้างความเศร้าเสียใจไปทั่วประเทศและทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผลกระทบปัญหายาเสพติด จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันนำเหตุการณ์ที่เศร้าสลดสะเทือนขวัญในครั้งนี้ มาร่วมกันพูดคุยกำหนดมาตรการเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหา ทั้งในเชิงป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา เพื่อจะให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่ปล่อยให้สิ่งที่ไม่ดีมาทำให้เกิดความสูญเสียและเกิดความไม่เป็นปกติ


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการสำรวจความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยแพลตฟอร์ม ThaiQM ของกรมการปกครอง ซึ่งจากฐานข้อมูลพบว่ามีพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด ตัวเลขสูงถึง 279,094 ครัวเรือน ใน 31,744 หมู่บ้าน ซึ่งถ้าเราเอาจำนวนสมาชิกในครอบครัวมาคูณจะทำให้ตัวเลขประชาชนที่ได้รับผลกระทบถึงเป็นหลักล้านคน ดังนั้น เราทุกคนจึงต้องดำเนินการกับปัญหายาเสพติดเชิงรุก ด้วยการเข้าไป Approach ปัญหา

“กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขีดเส้นตายว่า ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เราจะมีข้อมูลผู้เสพผู้ค้ายาเสพติดทั่วประเทศในเบื้องต้น เพื่อนำมาใช้วางแผนการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ปปส. และสาธารณสุข เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน สนธิและกรองข้อมูลอีกชั้นหนึ่งในระดับพื้นที่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เป็นแม่งานในการค้นหาผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกตำบล/หมู่บ้าน ทั้งผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ค้า ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนร่วมกับฝ่ายบ้านเมือง ดำเนินมาตรการปราบปราบควบคู่กับการค้นหาข้อมูล” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายสุธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยจะรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ที่มีการปราบปราบเกี่ยวกับยาเสพติดมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับสังคม เพื่อสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า เราไม่นิ่งนอนใจและเอาจริงเอาจัง และเพื่อให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือของพี่น้องประชาชนในการให้ข้อมูลกับฝ่ายบ้านเมืองเพิ่มขึ้น ไม่ว่าเป็นการจับกุม 1 เม็ด 2 เม็ด สามารถแจ้งข้อมูลได้ทั้งหมด นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ประสานทุกจังหวัดและอำเภอ สร้างความเข้าใจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในการให้การสนับสนุนในด้านวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในการตรวจหาสารเสพติด ซึ่งมีระเบียบกระทรวงมหาดไทยรองรับภารกิจของ อปท. เรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว


“กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นประกาศสงครามกับปัญหายาเสพติดทุกประเภท ทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ด้วยการเป็นกลไกหลักในการประสานงานระดับพื้นที่ โดยขอให้มั่นใจว่า ฝ่ายปกครองจะเต็มที่ทั้งการกวาดบ้านตนเอง คนของเราต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และพุ่งเป้าทำทุกมาตรการอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ขอให้กรมการปกครองเป็นแม่งานหลักให้ทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ช่วยกันหาสถานที่ ทั้งวัด โรงเรียน หรือสถานที่ที่เหมาะสมในพื้นที่ ปรับปรุงเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด พร้อมทั้งสนธิกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ดูแลอย่างใกล้ชิด มีแพทย์เป็นผู้จ่ายยาบำบัดรักษา โดยคนเสพต้องอยู่ในศูนย์ฯ รับยาบำบัด ใช้ชีวิตในศูนย์ฯ คนละอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะคนติดยาจะมีจิตใจอ่อนแอ ไม่สามารถให้ไปใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับคนปกติได้ เพื่อจะได้มีหลักประกันให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ลูกหลานที่พามาส่งบำบัดรักษาจะอยู่ในความดูแลของพวกเรา” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ตอนนี้ไฟยาเสพติดไหม้ประเทศของเราแล้ว เราจึงต้องประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างเข้มข้น ต้องช่วยกันทำให้ผู้เสพเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา บุคลากรภาครัฐในทุกสังกัด ทุกพื้นที่ ต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและได้รับการสุ่มตรวจทุกคน นอกจากนี้ ต้องทำให้หมู่บ้านในกองทุนแม่ของแผ่นดินทั้ง 100% ต้องสะอาด ต้องไม่มีผู้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเป็นตัวอย่างและเฝ้าระวังไม่ให้ยาบ้าแพร่เข้าไปในหมู่บ้านได้ โดยมี อปท.เป็นหน่วยสนับสนุนด้านงบประมาณบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งผลจากการประชุมวันนี้ จะได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย โดยอธิบดีกรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมทั้งมุ่งมั่นทุ่มเทขับเคลื่อนงาน ไม่นำปัญหาและข้อจำกัดมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน

“ระบบบำบัดรักษา เราจะทำด้วยความรัก ความเมตตา ทำให้คนหลงผิดเป็นคนดี กลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ ผมมั่นใจว่า องค์ความรู้ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (knowhow) เราดีอยู่แล้ว จึงขอให้ช่วยกัน “ค้นหา ปราบปราม รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ต้องทำควบคู่ไปด้วยกัน” ปลุกจิตวิญญาณความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีใจรุกรบในการประกาศสงครามกับยาเสพติด เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย ลูกหลานและประชาชนทุกคนมีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้าน พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย วางมาตรการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างจริงจัง “เพราะปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ” จึงเป็นที่มาของการหารือกันเพื่อบูรณาการการขับเคลื่อนการทำงานในวันนี้ โดยจากสถิติพบว่า ในปัจจุบันสถานการณ์ผู้เสพยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่ม และมีผู้เสพจำนวนมากยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดในระบบสาธารณสุข ซึ่งในจำนวนเหล่านั้น มีกลุ่มผู้เสพที่เกิดอาการทางจิตเวช มีภาวะคลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายบุพการี คนใกล้ชิด และพี่น้องประชาชน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผู้กำกับการสถานีตำรวจทั่วประเทศ ต้องเข้าไปเยี่ยมชุมชนบ่อยครั้ง เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่น อันจะเกิดความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน

“ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้รับข้อมูลเบาะแสเรื่องยาเสพติดจากกระทรวงมหาดไทย โดยฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ ซึ่งเราได้ทำงานประสานบูรณาการกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและท่านนายอำเภอเป็นแม่ทัพ และมีขุนพล คือ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. แต่แม้ว่าเราจะทำงานในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหนักเพียงใด จะจับได้กี่ล้านเม็ด ถ้ายังไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน ก็ถือว่าไม่ผ่านประเมิน ต้องยึดความพึงพอใจของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องค้นหาให้เร็ว เพื่อจะได้แก้ปัญหาด้วยกัน และนอกจากจะมีคณะกรรมการชุดใหญ่แล้ว ต้องจัดตั้งคณะอนุกรรมการย่อย 3 ส่วน คือ คณะอนุกรรมการป้องกัน มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก คณะอนุกรรมการปราบปราม มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล อัยการ เป็นหน่วยงานหลัก และคณะอนุกรรมการบำบัดรักษา มีกระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลัก  โดยทุกส่วนต้องทำงานในลักษณะ Area บูรณาการแต่ละหน่วย มีโต๊ะข่าวในพื้นที่ เพื่อให้มีข้อมูลในการดำเนินการ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จะต้องกวาดล้างยาเสพติดในวงการตำรวจ ด้วยความร่วมมือและบูรณาการระดับพื้นที่ร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาประสบความสำเร็จอย่างจริงจังและยั่งยืน” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว

ขณะที่นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ปี 2566 เราเตรียมความพร้อมดำเนินการตามนโยบายชาติ แผนปี 2566-2570 โดยแนวทางการดำเนินการมี 6 นโยบายและแผน 45 แนวทาง อาทิ การป้องกัน ปราบปราม การยึด-อายัดทรัพย์สิน การบำบัดรักษา และความร่วมมือระหว่างประเทศ นโยบายและแผนในการบริหารจัดการ รวมถึงการเตรียมการดำเนินการกับผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิต โดย ป.ป.ส.ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีข้อสรุปแนวทาง คือ 1. เราจะต้องปิดล้อมตรวจค้นเพื่อมุ่งหาข้อมูลเป้าหมาย โดยดำเนินการหาทั้งผู้เสพ ผู้ค้า และผู้หลบหนีหมายจับ รวมทั้งขยายผลยึดทรัพย์สินผู้ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ 2. การดำเนินการตามข้อร้องเรียน เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นและวางเป้าหมายการดำเนินการ 3. การขยายผล ภายหลังจากการกระทำความผิด โดยเมื่อมีการจับกุมต้องมีการขยายผลหาที่มาและเบื้องหลัง 4. การบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยมี ป.ป.ส. เป็นแกนกลางในการบูรณาการทำงานร่วมกัน 5. ข้อมูลต่าง ๆ ที่แต่ละหน่วยมีอยู่ ต้องมาบูรณาการดำเนินการร่วมกัน 6. การจับกุมบุคลากรของรัฐที่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกกรณี และ 7. การบริหารจัดการด้านงบประมาณ  

นพ.ศักดา อัลภาชน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้ความร่วมมือบูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ป.ป.ส. ในด้านการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด โดยจะได้นำผลการประชุมหารือในวันนี้ ไปกำหนดนโยบายสู่การปฏิบัติของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนภารกิจศูนย์บำบัดฟื้นฟูของกระทรวงมหาดไทย และการทำให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ และจะได้หารือร่วมกับ ป.ป.ส. เตรียมดำเนินการด้านการบำบัดรักษาให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 21 ก.ย.-กรมอุตุฯ ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ […]

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย