รัฐบาลเผยใช้จ่ายเงินกู้สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 2.65 ล้านล้านบาท

ทำเนียบรัฐบาล 28 ก.ย.- รองโฆษกรัฐบาล เผย คณะกรรมการประเมินการใช้จ่ายเงินกู้ เผย 19 โครงการภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจ 2.65 ล้านล้านบาท เกิดความคุ้มค่า 3.24 เท่า


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตามประเมินผลของโครงการ แผนงานตาม พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และข้อเสนอแนะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีทุก 6 เดือน โดยมีคณะกรรมการประเมินการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนด (คปก.) กระทรวงการคลัง ดำเนินการประเมิน

โดยในการประชุม ครม.เมื่อวานนี้( 27 ก.ย.) คปก. ได้รายงานผลประเมินครั้งที่ 1 คัดเลือกโครงการที่มีขนาดใหญ่ กระจายทั่วประเทศ รวม 19 โครงการ วงเงินดำเนินการรวม 8.05 แสนล้านบาท เทียบกับพ.ร.ก.กู้เงิน พ.ศ.2563 ที่มีวงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจากการประเมินระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. 65 พบว่าทั้ง 19 โครงการ มีผลการเบิกจ่ายรวม 7.95 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.84 ของวงเงินทั้ง 19 โครงการ มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก และสามารถสร้างมูลค่าและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จำนวน 2.65 ล้านล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 5.12 แสนล้านบาท เกิดความคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายงบประมาณ 3.24 เท่า


ทั้งนี้ มีการประเมินแยกตามแผนงาน 3 แผนงาน ประกอบด้วย แผนงานที่ 1 แผนงานทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 จำนวน 9 โครงการ กรอบวงเงินรวม 3.37 หมื่นล้าน มีการเบิกจ่าย 3.36 หมื่นล้าน ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แผนงานที่ 2 เพื่อช่วยเหลือ เยียวยาและชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 6 โครงการ กรอบวงเงินรวม 6.36แสนล้านบาท เบิกจ่ายรวม 6.34 แสนล้านบาท ผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจ จำนวน 2.09 ล้านล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 4.05 แสนล้านบาท รวมทั้งสามารถชะลอการเกิดหนี้เสียและเกิดการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค

ในส่วนของแผนงานที่ 3 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 4 โครงการ วงเงินรวม 1.35 แสนล้านบาท เบิกจ่าย 1.27 แสนล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ จำนวน 1.07 แสนล้านบาท ช่วยลดความตึงเครียดของประชาชน ลดการเลิกการจ้างงาน ซึ่งแผนงานที่ 3 อยู่ในระดับพอใช้ เนื่องจาก บางโครงการ เช่น โครงการกำลังใจ ไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่โครงการคนละครึ่ง เป็นการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา

ทองคำไทยสร้างสถิติสูงสุดอีก วันนี้แตะ 55,600 บาท

ราคาทองคำในไทยวันนี้สร้างสถิติสูงสุด แตะบาทละ 55,600 บาท ตามราคาทองคำโลก SCB FM มองราคาทองคำยังมีโอกาสปรับสูงขึ้นต่อ เงินบาทอาจอ่อนค่าได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวเงินบาทอาจแข็งค่า จากความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์สหรัฐที่ลดลง