ทำเนียบ 22 ก.ย.-“พล.อ.ประวิตร” หารือ ทูตอิสราเอลฯ สานต่อความร่วมมือด้านแรงงาน เพิ่มมูลค่าการค้า และความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
นางออร์นา ซากิฟ (H.E. Ms. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยพลเอกประวิตร กล่าวรู้สึกยินดีที่ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศราบรื่น และจะเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 70 ปี ในปี 2567 พร้อมหวังว่าจะได้ต้อนรับการเยือนไทยของประธานาธิบดีอิสราเอลอย่างเป็นทางการในอนาคต เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยินดีที่เอกชนอิสราเอลให้ความสนใจเข้าร่วมงาน Defence & Security ประจำปี ค.ศ. 2022 และหวังว่าเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ให้มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ทั้งสองประเทศเห็นพ้องร่วมมือกันส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการของแรงงาน พร้อมหารือถึงความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้แรงงานไทยในภาคการเกษตรสามารถกลับไปทำงานในอิสราเอลได้อีกครั้ง โดยเชื่อว่าแรงงานของไทยจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรกรรมของอิสราเอลได้ ซึ่งอิสราเอล ยืนยันที่จะดูแลแรงงานไทย และพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายกองทุนชดเชย เมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง (Deposit Fund) เพื่อส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการของแรงงานในอิสราเอล รวมถึงความเป็นไปได้ในการจัดส่งแรงงานภาคการก่อสร้างในลักษณะ G-to-G
ทั้งสองฝ่ายยืนยันจะสานต่อความร่วมมือเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือด้าน startup และ SMEs ซึ่งอิสราเอลมีความเชี่ยวชาญ และพร้อมร่วมมือกับไทยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่ฝ่ายไทยให้ความสำคัญ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้ง ไทยยังรับทราบข้อเสนอของอิสราเอลในการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ และจะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยให้เร่งพิจารณาในรายละเอียดต่อไป พร้อมกันนี้ จะขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำ แลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีการผลิตน้ำจืดจากทะเล เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงของการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
เอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อส่งเสริมศักยภาพ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังระบุว่า ไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของชาวอิสราเอล ที่เดินทางมาไทยเฉลี่ยปีละเกือบ 2 แสนคน พร้อมยังชื่นชมการจัดการกับโรคโควิด-19 และการจัดหาวัคซีนให้ชาวไทย จนไทยสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งไทยพร้อมดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอิสราเอลอย่างเหมาะสม
พลเอกประวิตร กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือเอกอัครราชทูตฯ ในทุกด้านเพื่อเป็นประโยชน์กับความร่วมมือระหว่างกัน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ.-สำนักข่าวไทย