พรรคไทยสร้างไทย 14 ก.ย.-ไทยสร้างไทยติงสำนักนายกฯ ใช้งบโฆษณาพุ่งติดอันดับ 9 ของประเทศ เรียกร้องให้เงินรอบคอบ มีประสิทธิภาพ หวั่นไม่เกิดประโยชน์จริง
นายรณกาจ ชินสำราญ กรรมการบริหารและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า จากรายงานของ Nielsen ประจำเดือน สิงหาคม 2565 ประกาศบริษัท-หน่วยงานที่ใช้งบโฆษณาสูงที่สุด 20 อันดับในปี 2565 โดยมีสำนักนายกรัฐมนตรี พุ่งขึ้นจากเดือน กรกฎาคม 2565 ที่อันดับ 13 มาเดือน สิงหาคม นี้กระโดดขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 9 โดยใช้งบประมาณทั้งปีไปเกือบ 900 ล้านบาท ใกล้เคียงกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota และ Coca-Cola ที่ใช้เงินโฆษณาไปประมาณ 900 กว่าล้านบาทเช่นกัน
นายรณกาจ กล่าวว่า สำหรับงบประมาณกรมประชาสัมพันธ์ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2565 มีงบประมาณทั้งหมด 2,422ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของภาครัฐ 996 ล้านบาท และงบเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในข้อมูลยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่เผยแพร่ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์อีก 1,406 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ของกรมประชาสัมพันธ์ตั้งไว้เพิ่มขึ้นจากเดิม เป็น 2,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 อีกด้วย
“ปัจจุบันภาพรวมของสื่อมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการโฆษณาที่เชื่อถือได้ เพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางด้านสื่อให้มีประสิทธิภาพและสร้างความแตกต่างจากคนอื่น ๆ นั่นหมายถึงการใช้เงินโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จะยิ่งยากมากขึ้นไปอีก หรืออีกนัยหนึ่งคือถ้าวางกลยุทธสื่อไม่เป็น เงินก็จะละลายหายไป เกิดประโยชน์ไม่เต็มที่” นายรณกาจ กล่าว
นายรณกาจ กล่าวว่า เดือนที่ผ่านมากรมประชาสัมพันธ์แถลงว่ามีความจำเป็นต้องใช้งบประชาสัมพันธ์การจัดการประชุมเอเปคเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ถึงประโยชน์ที่จะได้จากการที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยเป็นการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี แต่การการรับรู้ของประชาชนทั่วไป ยังแทบไม่รู้ว่ามีการจัดรูปแบบไหน จัดเมื่อไหร่บ้าง หรือแม้แต่เอปคคืองานอะไร และไทยได้ประโยชน์อะไร
“ขอวอนไปที่หน่วยงานของรัฐเรื่องการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ถึงแม้เราบอกไม่ได้ว่ารัฐใช้งบได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ แต่ในฐานะที่ประชาชนเป็นผู้เสียภาษี ก็อยากให้เงินนั้นถูกใช้อย่างรัดกุม ถูกที่ถูกทาง เกิดประโยชน์ต่อภาพรวม ไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นคำถามว่า “สำนักนายกฯ สายเปย์ ใช้เงินเพื่อโฆษณาตัวเองในช่วงใกล้เลือกตั้งใหญ่ใช่หรือไม่” นายรณกาจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย