ทำเนียบรัฐบาล 13 ก.ย. – ที่ประชุม ครม. ให้คงคดีความผิดเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ยา และอาหารเป็นคดีพิเศษ เพิ่มความผิดคดียาเสพติด การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และสื่อลามกอนาจารเด็กเป็นคดีพิเศษด้วย
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติมตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญปรับเพิ่มและยกเลิกคดีความผิดทางอาญาที่ต้องสืบสวนและสอบสวนตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษจากร่างกฎกระทรวงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาเห็นชอบ ดังนี้ ให้คงคดีความผิดทางอาญาตามกฎหมายรวม 3 ฉบับ เป็นคดีพิเศษ ได้แก่ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยา และคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร
“เพิ่มเติมคดีความผิดทางอาญาตามกฎหมายรวมอีก 3 ฉบับเป็นคดีเศษ ได้แก่ คดีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราและคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก และได้ยกเลิกคดีความผิดทางอาญาตามกฎหมาย 2 ฉบับเป็นคดีพิเศษ คือ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสุราและคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาสูบ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ยังให้คงคดีความผิดเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ยา และอาหาร เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบว่า การกระทำความผิดเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ยา และอาหาร เป็นการกระทำความผิดที่เกิดโดยการปลอมผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค นำวัตถุต้องห้ามมาใช้เป็นส่วนผสม ใช้สถานที่ผลิตไม่มีมาตรฐาน นำเทคโนโลยีมาใช้ในการโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลและใช้สื่อดิจิทัลในการกระทำความผิดในช่องทางต่าง ๆ
“การพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ยา และอาหาร ให้มีศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล ทั้งการผลิต การนำเข้า หรือการขาย ส่งผลให้คดีความผิดในกลุ่มนี้มีจำนวนผู้เสียหายเป็นวงกว้าง และส่งผลให้การป้องกันและปราบปรามมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น อาจเกิดอันตรายแก่ประชาชน มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของประเทศและระบบเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นคดีพิเศษ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนการให้เพิ่มเติมคดีความผิดทางอาญา 3 ฉบับเป็นคดีพิเศษ ได้แก่ คดีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เนื่องจาก รัฐบาลมุ่งเน้นนโยบายเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และกระทรวงยุติธรรมได้มอบนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีบทบาทในการปราบปรามยาเสพติด และใช้มาตรการในการริบทรัพย์สินเครือข่ายค้ายาเสพติดให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ที่ต้องให้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบนำไปสู่อาชญากรรมประเภทอื่น โดยผู้ให้กู้ยืมเงินมักเป็นองค์กรอาชญากรรมที่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ และมักใช้วิธีการทวงหนี้ ข่มขู่ บังคับ หรือใช้ความรุนแรง บางครั้งอาจรวมกลุ่มกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงทำให้มีลักษณะการกระทำความผิดที่สลับซับซ้อน
“สำหรับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่ต้องให้เป็นคดีพิเศษเนื่องจาก ปัญหาสื่อลามกอนาจารเด็กใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ทำให้เด็กสามารถรับรู้ เข้าถึง และเผยแพร่สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อันอาจส่งผลกระทบต่อเด็กโดยตรง ทำให้เด็กถูกล่อลวงหรือชักจูงให้ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นอาชญากรรมต่อเด็กรูปแบบใหม่ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและมีพฤติกรรมที่สลับซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และพบว่าการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กมีส่วนสัมพันธ์กันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กในรูปแบบอื่น เช่น การกระทำชำเรา การกระทำอาจาร เป็นต้น” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย