รัฐสภา 8 ก.ย.-“โรม” ตั้งกระทู้อุ้มหาย ซ้อมทรมานผู้ต้องหา โยงคดี อดีต ผกก.โจ้ ถือตั๋วช้าง ด้าน รมช.กห. เผย ประธานก.ตร.กำชับต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก สั่งนายตำรวจดูแลลูกน้องให้ดี ยืนยันไม่มีเส้นสาย
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาการซ้อมทรมานผู้ต้องหา โดยเทียบเคียงจากกรณีของพ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ และจำเลยอีก 5 คน ที่ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย แต่เนื่องจาก คดีดังกล่าว มีคำตัดสินไปแล้ว จึงต้องถามถึง แนวทางการแก้ไขปัญหาการซ้อมทรมานผู้ต้องหา ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวทางอย่างไร และ มีความคืบหน้าในการกำหนดแนวปฏิบัติอย่างไรบ้าง ซึ่งส่วนตัว เห็นว่าในการสอบสวนผู้ต้องหา จำเป็นต้องมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมสังเกตุการณ์การสอบสวนด้วย เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม พ.ต.อ. ธิติสรรค์ จึงได้เติบโตในตำแหน่งหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว กว่าเพื่อนร่วมรุ่น และ ทำไมจึงมั่นใจว่า หากทำร้ายผู้ต้องหาแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดี มีการวิ่งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชการตำรวจ หรือที่หลายคนเข้าใจว่า มีตั๋วช้างหรือไม่ แต่เนื่องจาก ในขณะนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้ พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มาเป็นผู้ตอบแทน ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม แสดงความไม่มั่นใจ ว่า พลเอกชัยชาญ จะชี้แจงประเด็นดังกล่าวได้ครบถ้วนหรือไม่ เนื่องจากพลเอกชัยชาญ ไม่มีอำนาจ หน้าที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พลเอกชัยชาญ ยืนยันว่า ได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร ให้มาตอบคำถามเชิงนโยบาย ซึ่งก่อนเข้ามาตอบคำถาม ได้สอบถามแนวนโยบายจากพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเดิมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ว่ามีแนวทางการดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง พร้อมย้ำว่า พลเอกประวิตร ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนี้ ได้เน้นย้ำให้ที่ประชุมกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ว่าตำรวจทุกนายต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ปัจจุบัน มีประมวลจริยธรรมตำรวจ ที่จะเป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กำหนดให้ต้องมีการฝึกอบรม ให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่เป็นประจำ ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และ เป็นธรรม นำไปถ่ายทอด ฝึกอบรม ให้ข้าราชการตำรวจเป็นประจำ เพื่อให้เกิดความรู้ เข้าใจแนวทางการทำงาน รวมทั้ง เน้นย้ำเรื่องแนวทางการตรวจค้น จับกุม สอบสวน ที่จะต้องมีการบันทึกภาพทุกครั้ง ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ข้อมูลที่จัดเก็บ ก็ต้องมีการลงลายมือชื่อ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
“คดีของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กรตำรวจ แต่ ประธาน ก.ตร. ได้กำชับไปยัง ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ก็ต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ยืนยันว่า เป็นไปตามระเบียบขั้นตอน ไม่มีการใช้เส้น ส่วนการขอตัวข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำหรับการป้องกัน และปราบการการอุ้มหาย ซ้อมทรมาน ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวผ่านสภาฯ ไปแล้ว อยู่ระหว่างรอมีผลบังคับใช้” พลเอกชัยชาญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย