ลุ้น กกต.ถกคำร้องวาระนายกฯ 8 ปี คาด 3 แนวทางลงมติ

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – ลุ้น กกต.พิจารณาคำร้องวาระนายกฯ 8 ปี พรุ่งนี้ (22 ส.ค.) คาด 3 แนวทางลงมติ หลังสั่งสำนักงานฯ หาข้อมูลเพิ่ม ส่วนคำร้องยื่นผ่านประธานสภาฯ คาดส่งถึงศาล รธน.วันจันทร์นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่า กกต.จะมีการพิจารณาคำร้องเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) มีรายงานว่า ในการประชุม กกต. สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นประกอบคำร้องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นต่อ กกต. เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ว่าเห็นควรยุติเรื่อง เนื่องจากมีแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวางไว้เป็นบรรทัดฐาน ว่าจะไม่พิจารณาเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ที่ประชุม กกต.เห็นว่า ควรมีการพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้รอบคอบ เนื่องจากยังมีเวลา สำนักงานฯ จึงถอนเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการ และจะเสนอต่อที่ประชุมสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาต่อกรณีดังกล่าวของ กกต. อาจสามารถออกได้ 3 แนวทาง คือ 1. เห็นควรยุติเรื่อง เนื่องจากเห็นว่าขณะยื่นคำร้องยังไม่ใช่วันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันพิพาท จึงถือว่าเหตุยังไม่เกิด โดยมีแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวางไว้เป็นบรรทัดฐาน

2. เห็นควรยุติเรื่อง เนื่องจากขณะนี้มีการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 โดย ส.ส.เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว


และ 3. มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยมองว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 บัญญัติเพียงว่า หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ให้ กกต.มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ซึ่ง กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่สำนักงานฯ นำเสนอ มีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นเรื่องผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มีรายงานว่า หากคำร้องมาถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีการนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันพุธที่ 24 สิงหาคม ซึ่งก็จะมีการพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ และตามคำร้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ที่ศาลจะต้องมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยหรือไม่. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง