EXIM BANK เปิดกลยุทธ์ Beyond Borders…Beyond Banking สร้างภูมิคุ้มกันไทยเวทีการค้าโลก

EXIM BANK เปิดกลยุทธ์ Beyond Borders…Beyond Banking สร้างภูมิคุ้มกันประเทศไทยในเวทีการค้าโลก


ปัจจุบัน SMEs ในประเทศไทยมีอยู่ราว 3.18 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% ในขณะที่การจ้างงานของประเทศโดยรวมมีประมาณ 17 ล้านคน เป็นการจ้างงานของผู้ประกอบการ SMEs มากถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็น 70% ของการจ้างงานทั้งหมด จะเห็นได้ว่าธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจมากอย่างคาดไม่ถึง

ถึงจะมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจมากแต่ธุรกิจ SMEs กลับมีความเปราะบาง มีภูมิคุ้มกันต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ จึงมีข้อสังเกตว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จำนวน SMEs เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ความเปราะบางของ SMEs ไทยมาจากหลายสาเหตุ อาทิ การขาดแคลนเงินทุน SMEs ที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนมีเพียง 1 ใน 3 ของทั้งระบบ ทั้งเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ที่เป็นเช่นนี้เพราะมี SMEs อยู่ในระบบหรือจดทะเบียนนิติบุคคลเพียง 800,000 ราย ขณะที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทส่วนบุคคลและอื่น ๆ 2.3 ล้านราย และวิสาหกิจชุมชน 9.5 หมื่นราย ทั้งนี้ มี SMEs ที่เป็นผู้ส่งออกคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.7% หรือ 22,285 รายของทั้งระบบ สวนทางกับหลายประเทศที่มีสัดส่วนสูง เช่น แคนาดา 12% เวียดนาม 8% ซึ่งในจำนวน SMEs ที่ส่งออกและมีรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพียง 1 ใน 3 ของทั้งหมด


นอกจากขาดแคลนเงินทุนแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs ยังขาดความรู้ทางธุรกิจ สะท้อนจาก Startup Skills Index (ความรู้สำหรับเริ่มต้นธุรกิจ) ของ Global Entrepreneurship and Development Institute ซึ่งจัดอันดับประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 64 จากทั้งหมด 137 ประเทศ นอกจากนั้นยังขาดในเรื่องของ Research and Development หรือ R&D และนวัตกรรม โดยมีเพียง 0.2% ของ SMEs ไทยทั้งระบบที่ใช้ R&D ยกระดับธุรกิจ ขณะที่สัดส่วน R&D ต่อ GDP ของไทยก็อยู่ที่ 1% เทียบกับหลายประเทศในเอเชียที่มีสัดส่วนดังกล่าวสูงกว่า เช่น เกาหลีใต้ 4.5% สิงคโปร์ 2%

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า สินค้าของ SMEs ไทยหลายรายยังไม่ตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ ๆ ของโลก ขาดความแตกต่าง เนื่องจาก SMEs หลายรายมักทำตามกันและคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จเหมือนกัน มากกว่าที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ สร้างความแตกต่างในตลาด

“จากข้อมูลของคลินิกแก้หนี้ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พบว่า ธุรกิจที่เป็นหนี้เสียมากที่สุด มีอายุธุรกิจสั้น คือ ร้านอาหารและร้านกาแฟ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่มีความแตกต่าง ทำเหมือน ๆ กัน ธุรกิจที่จะไปได้จะต้องมีจุดขายที่แตกต่าง และตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ ๆ ของโลก เช่น ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดิจิทัล และเกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ (Green, Digital, Health)” ดร.รักษ์ กล่าว


ปัญหาที่เป็นความเปราะบางและเป็นจุดอ่อนของ SMEs ไทยเป็นความเสี่ยงที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าที่จะเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อจึงเป็นปัญหาไก่กับไข่ ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไม่เติบโตและไม่สามารถพัฒนาขึ้นมามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจของประเทศได้มากกว่าที่เป็นอยู่ EXIM BANK จึงคิดต่างและหา Model ของตัวเองในการสนับสนุน SMEs ให้เติบโตได้โดยมีหนี้เสียต่ำ

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ธนาคารได้สร้างรูปแบบในการสนับสนุนทางการเงินสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยเป็นผู้ส่งออกป้ายแดง ด้วยการพัฒนา Ecosystem ครบวงจร ตั้งเป้าเปลี่ยน SMEs จาก “เก่งกระจุก” อยู่แค่บางกลุ่มหรือบางอุตสาหกรรมให้เป็น “เก่งกระจาย” ตลอด Supply Chain ของการค้าระหว่างประเทศโดย EXIM BANK จะเข้าไปสนับสนุนให้สินเชื่อกับธุรกิจขนาดใหญ่ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน แต่มีเงื่อนไขว่าธุรกิจขนาดใหญ่จะต้องสนับสนุนซื้อสินค้าวัตถุดิบจาก SMEs ที่เป็น Supply Chain เพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กมีโอกาสฟื้นตัวและเติบโตกลายเป็นผู้ส่งออกได้มากขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ความเสี่ยงในการสนับสนุนทางการเงินต่อ SMEs ลดลงด้วย เพราะธุรกิจรายใหญ่จะรู้จักลูกค้ามากกว่าธนาคาร

EXIM BANK ได้นำเสนอ 3 Models ในการสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ และพัฒนา Ecosystem ตลอด Supply Chain ดังนี้

Quick Win ทำได้ทันที สนับสนุนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มี SMEs อยู่ใน Supply Chain จำนวนมาก เพื่อช่วย SMEs ทางอ้อมจากความต้องการสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นอีกมาก

Medium Term ระยะกลาง ใช้โมเดลพี่จูงน้อง ดึงรายใหญ่พ่วงรายเล็กใน Supply Chain เข้า Supply Chain Financing Platform ของ EXIM BANK โดย SMEs ที่อยู่ใน Supply Chain ของผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถเข้าถึงเงินทุนง่ายขึ้นด้วยการอิงความเสี่ยงของรายใหญ่ได้ ล่าสุด EXIM BANK สานพลังสามสภาฯ ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (สภาหอฯ) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจทุกระดับตลอดห่วงโซ่การส่งออกตั้งแต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ไปจนถึงรายเล็ก

Long Term ระยะยาว เปลี่ยนผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออกหรือผู้ส่งออกทางอ้อม (Indirect Exporters) เป็นผู้ส่งออก (Direct Exporters) โดย EXIM BANK จะเปลี่ยน Indirect Exporters ที่มีอยู่ราว 10% ของ SMEs ทั้งระบบหรือราว 300,000 ราย ให้ก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกด้วยการพัฒนาผู้ส่งออกแบบครบวงจร สะท้อนถึงบทบาทการเป็นมากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) เช่น
• Training & Incubation ด้วยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้าของ EXIM BANK (EXIM Excellence Academy : EXAC) และ Business School ชั้นนำ
• Business Matching จับคู่ธุรกิจด้วยสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ใน CLMV
• Online Channel โดยใช้ EXIM Thailand Pavilion ร้านค้าออนไลน์ของ EXIM BANK
• Product Development โดยจัดให้มี SME Export Studio ซึ่ง EXIM BANK จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน SMEs โดยเฉพาะ

ดร.รักษ์ กล่าวต่อไปว่า การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ของ EXIM BANK มุ่งเน้นการช่วยเหลือจำนวนรายผู้ประกอบการได้เพิ่มขึ้น เพราะจำนวนผู้ประกอบการที่รอดหรือเกิดใหม่สำคัญกว่าวงเงินกู้ รวมถึงการเน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทยได้มากแค่ไหน เพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประเทศและประชาคมโลก

“EXIM BANK มุ่งมั่นที่สนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการภายใต้บทบาทที่มากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) ไม่ว่าจะเป็น Business Partners อยู่เคียงข้างผู้ประกอบการ ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาธุรกิจหรือรุกตลาดใหม่ ๆ เป็นตัวกลางเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศ เพื่อช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ เป็น Business Intelligence ที่สนับสนุนข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ตลอดจนการพัฒนาและเชื่อมโยง Ecosystem ทั้งในส่วนของ Supply Chain ระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่ถึงรายเล็ก และสร้าง Ecosystem ในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ” ดร.รักษ์ กล่าวทิ้งท้าย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]