15ส.ค.กทม.- วธ. โดย สศร. เผยโฉมทัพศิลปินไทย-ต่างชาติกลุ่มที่สาม 15 ศิลปิน / กลุ่มศิลปิน ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยในงาน Thailand Biennale, Phuket 2025 ช่วงเดือนพ.ย. 2568 – เม.ย. 2569 ดัน “ภูเก็ต” สู่เมืองศิลปะ หนุนเป็นหมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก ขับเคลื่อน Soft Power ไทย ชูทุนวัฒนธรรม สร้างรายได้และภาพลักษณ์ที่ดีแก่ประเทศไทยสู่นานาชาติ
วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดตัวศิลปินกลุ่มที่สามที่เข้าร่วมโครงการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 โดยมีนายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นายอริญชย์ รุ่งแจ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ โครงการฯ นางสาวมาริสา พันธรักษ์ราชเดช ภัณฑารักษ์โครงการฯ ศิลปิน ผู้แทนหน่วยงานรัฐ เอกชน เครือข่ายศิลปวัฒนธรรมและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ชั้น 1 RCB Artery ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร่วมกับจังหวัดภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สมาคมศิลป์ภูเก็จ หน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายศิลปินในจังหวัดภูเก็ตและเครือข่ายศิลปินร่วมสมัยทั่วประเทศ จัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 มีเป้าหมายสำคัญ คือ การก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านศิลปะร่วมสมัยระหว่างศิลปินไทยกับศิลปินนานาชาติ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านศิลปะ สร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนและศิลปินรุ่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ของไทยด้วยมิติของศิลปะร่วมสมัยสู่ระดับนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นหมุดหมายของงานศิลปะร่วมสมัยที่สำคัญของโลก นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถด้านศิลปะให้แก่จังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน ขยายฐานความเข้าใจและการรับรู้ด้านศิลปะในสังคม สร้างโอกาสในการเข้าถึงศิลปะอย่างทั่วถึง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 ขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 – เมษายน 2569 ภายใต้แนวคิด “นิรันดร์กัลป์” ซึ่งเปรียบเปรยถึงความรักที่มั่นคง อาจคงอยู่ชั่วขณะ การตระหนักถึงความเสื่อมสลาย จึงสอดคล้องกับการทำนุบำรุงรักษา เพื่อความยั่งยืนของธรรมชาติที่เป็นตัวแทนของความเป็นนิรันดร์ โดยนำศิลปะหลากหลายสาขามาเป็นเครื่องมือนำเสนอแนวคิดการสำรวจความสัมพันธ์อันยั่งยืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติเพื่อต่อยอดภูเก็ตให้เป็นเมืองศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นางโชติกา กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมในโครงการฯครอบคลุมทั้ง 3 อำเภอในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอกระทู้และอำเภอถลาง อีกทั้งสศร.ได้ดำเนินการคัดเลือกศิลปินเข้าร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยจากประเทศไทยและประเทศต่างๆทั่วโลกครบทั้งหมด 65 ศิลปินเรียบร้อยแล้วและก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวศิลปินกลุ่มแรกและกลุ่มที่สองไปแล้วรวม 45 ศิลปินและวันนี้เปิดตัวศิลปินกลุ่มที่สาม 15 ศิลปิน/กลุ่มศิลปิน แบ่งเป็นศิลปินไทย 8 ศิลปิน/กลุ่มศิลปิน และศิลปินต่างชาติ 7 ศิลปิน/กลุ่มศิลปิน ได้แก่ 1. Ampannee Satoh 2. Anuwat Apimukmongkon 3.Araya Rasdjarmrearnsook 4.Chatpong Chuenrudeemol & Eakapob Huangthanapan 5. Doloh Chetae 6. Kite 7. Minnette de Silva 8. Mochu and Merve Ertufan 9. Noémie Goudal 10. Ryue Nichizawa 11. Speedy Grandma 12. Ariane Suthavong 13. Tun Win Aung & Wah Nu 14. Woraphob Tantinantakul และ 15. Wu Tsang
นอกจากนี้ มีการจัดกิจกรรมกิจกรรมศาลา (Sala) จากเครือข่ายศิลปินและองค์กรศิลปะทั้งในไทยและต่างประเทศ ผ่านการประกาศรับสมัคร (Open call) ซึ่งสศร.ได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกและตัดสิน

โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จำนวน 7 ศาลา ได้แก่ 1. ศาลา 4 กออาร์ตแลนด์ กลมเกลียว กอดฟ้าห่มดิน ก่อศิลป์ กล่อมเกลากัลป์ โดยกลุ่มสี่กออาร์ตแลนด์ ศาลา SALA Youngwon- Vernacular Horizon: Where Regions Unfold โดยกลุ่ม Gwangju Biennale 3. ศาลา ที่นี่ไม่เปิดให้บริการ/ IN NOBODY’S SERVICE/ IM DIENST VON NIEMANDEM โดยกลุ่ม un.thai.tled 4.ศาลา ตัวบ่าง-กอจ๊าน โดยกลุ่มบริษัท อัตตา สตูดิโอ จำกัด 5. ศาลา “อยู่ในเรื่องของเรา (The Living Commons)” โดยกลุ่มบริษัทฟอรั่ม จำกัด 6. ศาลา Sea Sand Sun SALA โดยกลุ่ม Ctrl+R Collective 7. ศาลา Instant Kalpa(s) โดยกลุ่มJuan Pablo García Sossa ซึ่งศาลาเหล่านี้จะจัดแสดงผลงานตลอด 5 เดือนของการจัดงานโดยเป็นพื้นที่สำหรับแสดงผลงานนิทรรศการของกลุ่มศิลปินและองค์กรศิลปะซึ่งมีทั้งหมด 13 ศาลา แบ่งเป็นศาลาที่มาจากการคัดเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศ 7 ศาลา และศาลาที่นำเสนอโดยจังหวัดภูเก็ตและภูมิภาคต่าง ๆ 6 ศาลา
นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้บูรณาการความร่วมมือกับวธ. โดยสศร. หน่วยงานรัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน และเครือข่ายศิลปินทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อขับเคลื่อนการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 ทั้งในเรื่องของสถานที่จัดงาน การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะติดตั้งถาวร การจัดกิจกรรมคู่ขนาน และการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ร่วมกับชุมชนและประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านศิลปะร่วมสมัยทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองศิลปะ ทำให้เป็นพื้นที่ศูนย์กลางของการกิจกรรมด้านศิลปะร่วมสมัยอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม เสริมสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย ทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก จะนำไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ช่วยสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ชุมชน และจังหวัดภูเก็ต จึงขอเชิญชวนคนไทยและชาวภูเก็ตทุกท่านในฐานะเจ้าภาพร่วมกันต้อนรับบรรดาศิลปิน นักท่องเที่ยวและผู้รักงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกที่จะมาเยือนจังหวัดภูเก็ต
นายอริญชย์ รุ่งแจ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ โครงการมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการออกแบบรูปแบบการจัดแสดง และแบบร่างการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติในงาน Thailand Biennale, Phuket 2025 มุ่งสร้างสรรค์ผลงานจริงให้สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยการนำประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ชุมชนมาเป็นแนวคิดประกอบการสร้างงาน ซึ่งนอกจากการจัดนิทรรศการหลักแล้ว จะมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานหรือ Collateral Events โดยความร่วมมือกับศิลปินร่วมสมัย ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรเครือข่ายศิลปะทั้งในไทยและต่างประเทศตลอดระยะเวลาจัดงานครั้งนี้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 จนถึงเดือนเมษายน 2569 ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandbiennale.org /Facebook https://www.facebook.com/thailandbiennale/ และสายด่วนวัฒนธรรม 1765.-สำนักข่าวไทย612