ชัวร์ก่อนแชร์: RNA ในวัคซีน mRNA เข้าสู่นิวเคลียสและจีโนมของมนุษย์ได้ จริงหรือ?

13 พฤษภาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ


ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:


  1. เป็นการบิดเบือนงานวิจัยโดยสื่อต่อต้านวัคซีน
  2. งานวิจัยไม่ได้ระบุว่ามี DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA ของวัคซีนเข้าไปอยู่ในนิวเคลียส
  3. เป็นการทดลองกับเซลล์เพาะเลี้ยงของผู้ป่วยมะเร็ง ผลลัพธ์จึงไม่อาจเทียบกับผู้รับวัคซีนทั่วไปได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดย Epoch Times เว็บไซต์ที่มีประวัตินำเสนอเนื้อหาต่อต้านวัคซีนโควิด-19 อ้างว่า พบงานวิจัยที่ยืนยันว่า RNA ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA สามารถแทรกซึมเข้าสู่นิวเคลียสภายในเซลล์ของผู้รับวัคซีน นอกจากนี้ RNA จากวัคซีนยังถูกสังเคราะห์ให้กลายเป็น DNA และรวมเข้ากับจีโนมของผู้รับวัคซีน เป็นประเด็นที่หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) และหน่ายงาน Fact Checker ทั่วโลกต่างปฎิเสธมานาน

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


งานวิจัยที่ Epoch Times กล่าวอ้าง เป็นงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Lund University ในประเทศสวีเดน ตีพิมพ์ทางวารสารงานวิจัย MDPI เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 โดย มาร์คัส อัลเดนและคณะ ได้นำวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ของบริษัท Pfizer-BioNTech ขนาด 0.5, 1 และ 2 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ไปทดลองกับเซลล์เพาะเลี้ยงตับมนุษย์ที่ป่วยเป็นมะเร็ง (Huh7)

สิ่งที่ทีมวิจัยตรวจสอบคือ ปริมาณของ LINE1 (long interspersed nuclear elements 1) ซึ่งเป็นยีนที่สามารถเคลื่อนที่บนสายของจีโนม (jumping genes) และทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงการจัดลำดับจีโนมในร่างกาย โดยมนุษย์มียีน LINE1 อยู่ถึง 17%

การเปลี่ยนแปลงการจัดลำดับจีโนมโดย LINE1 เกิดขึ้นเมื่อมีการทำงานร่วมกับเอ็นไซม์ Reverse Transcriptase (RT) ซึ่งมีหน้าที่สังเคราะห์ DNA โดยใช้ RNA เป็นแม่แบบ ซึ่งเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Reverse Transcription

การสำรวจของทีมวิจัยพบว่า เซลล์เพาะเลี้ยงที่ทดลองกับวัคซีน mRNA มีปริมาณ LINE1 เพิ่มขึ้นอย่างมาก และพบ DNA ที่เกิดจากการสังเคราะห์ RNA อีกด้วย ทีมวิจัยจึงสรุปว่า การที่วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง DNA ภายในเซลล์ Huh7 ทำให้เกิดความกังวลว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech อาจทำการเปลี่ยนแปลงจีโนมของผู้รับวัคซีน และส่งผลเสียต่อยีนของผู้รับวัคซีนในอนาคต แม้จะไม่อาจรู้ได้ว่า DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA จะเข้าไปอยู่ในจีโนมได้หรือไม่

อย่างไรก็ดี การที่ Epoch Times อ้างว่าผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า RNA จากวัคซีน mRNA เข้าสู่นิวเคลียสของเซลล์ได้ เป็นการบิดเบือนผลการทดลอง เพราะผลวิจัยไม่ได้พบว่า DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA สามารถเข้าสู่นิวเคลียสของเซลล์ตามที่กล่าวอ้าง

รีส แพร์รี ผู้เชี่ยวชาญด้านวิวัฒนาการไวรัส มหาวิทยาลัย University of Queensland แสดงผลการทดสอบจากงานวิจัยด้วยวิธี Immunofluorescence พบว่าปริมาณยีน LINE1 ที่เพิ่มขึ้น จะพบแต่ในส่วนไซโตพลาสซึมของเซลล์ ซึ่งเป็นบริเวณที่ห่อหุ้มนิวเคลียสของเซลล์ แต่ไม่พบการมีอยู่ของ LINE1 ในนิวเคลียสของเซลล์แม้แต่น้อย

เดวิด กอร์สกี ศัลยแพทย์และนักวิจัยโรคมะเร็ง มหาวิทยาลัย Wayne State University ให้ความเห็นว่า งานวิจัยของมาร์คัส อัลเดนและคณะเป็นการวิจัยกับปรากฏการณ์จำลอง (Artificial) เนื่องจากเซลล์ที่ใช้ในการวิจัยเป็นเซลล์เพาะเลี้ยงให้ห้องปฏิบัติการ และเป็นเซลล์มะเร็งซึ่งมีปริมาณของ LINE1 มากกว่าเซลล์ปกติของมนุษย์ จึงไม่อาจเปรียบเทียบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเซลล์ของมนุษย์ที่มีสุขภาพแข็งแรงได้

นอกจากนี้ปริมาณวัคซีน mRNA ของ Pfizer-BioNTech ที่ใช้ในการทดลองยังมากกว่าปริมาณที่้ฉีดให้กับคนทั่วไป โดยปริมาณสูงสุดที่ทีมวิจัยใช้คือ 2 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และใช้กับเซลล์เพาะเลี้ยงที่มีจำนวน 2 แสนเซลล์ ส่วนวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer-BioNTech 1 โดส จะมีปริมาณ mRNA อยู่ที่ 30 ไมโครกรัมต่อผู้รับวัคซีน 1 คน

งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Lund University เป็นการต่อยอดงานวิจัยของลิกัว จางและคณะจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่สร้างข้อโต้แย้งในแวดวงวิทยาศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว โดยเผยแพร่ทางวารสารงานวิจัย PNAS เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2021

ทีมวิจัยได้นำเซลล์ไตตัวอ่อนมนุษย์ซึ่งถูกเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการมาเพิ่มปริมาณยีน LINE1 ก่อนจะทำให้เซลล์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลปรากฏว่า DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA ของไวรัส ถูกพบในจีโนมของเซลล์ และเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA ของไวรัส จะเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื้อของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน

อย่างไรก็ดี จากการทดลองซ้ำโดยนักวิทยาศาสตร์หลายสำนัก ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจีโนมตามที่ทีมวิจัยกล่าวอ้าง และสรุปว่าการวิจัยของลิกัว จางและคณะ เป็นงานวิจัยกับปรากฏการณ์จำลอง (Artificial) ไม่สามารถอ้างอิงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้รับวัคซีนจริงๆ โดยผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจสอบสรุปว่า โอกาสที่ DNA ที่ถูกสังเคราะห์จาก RNA ของไวรัส จะเข้าไปอยู่ในจีโนมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นได้ยากมาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/study-lund-university-didnt-show-covid-19-mrna-vaccines-change-dna-epoch-times/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ