สำนักงานกกต. 7 ธ.ค. -“สนธิญา” ให้ปากคำกับ กกต. กรณีร้องยุบเพื่อไทย ขู่เรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญมีหนาว ย้ำไม่ได้กลั่นแกล้ง เตรียมให้ปากคำป.ป.ช. กรณี “สุทิน” กล่าวหา “พล.อ.ประยุทธ์” แจกเงิน 5 ล้าน พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน่า วันนี้ ( 7 ธ.ค. ) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าให้ปากคำต่อ กกต. เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย ในกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีวิดีโอคอลในงานเลี้ยงวันเกิดของนายเกรียง กัลป์ตินันท์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เพื่อมาพูดคุยกับ ส.ส. สมาชิกพรรค และกรรมการบริหารพรรค นายสนธิญา กล่าวว่ากรณีนี้เป็นการชี้นำ ครอบงำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 นายทักษิณได้วิดีโอคอลเข้าในงานเลี้ยงของนายเกรียง ในการวิดีโอคอลมานั้นนายทักษิณได้พูดอย่างชัดเจน ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในพรรคเพื่อไทย และยังมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์ หลังจากนั้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ก็ได้ทำให้เห็นจากการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ดังนั้นจึงสรุปว่านายทักษิณได้ทำให้เห็นจริง อีกทั้ง น.ส.แพทองธารยังให้สัมภาษณ์ว่าได้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกฯ ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ในกระบวนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น มีกฎหมายหลายตัวที่ประกอบการปกครอง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง รัฐธรรมนูญปี 2560 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมพรรคการเมือง ฉะนั้นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญก็จะสามารถส่งเรื่องให้ยัง กกต.พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคได้
นายสนธิญา กล่าวว่าขณะนี้มีคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยประมาณ 10 สำนวน หากมี 5 ใน 10 สำนวน เรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญพรรคเพื่อไทยจะ “หนาว” ย้ำว่าไม่ได้กลั่นแกล้งพรรคเพื่อไทยด้วยความไม่เป็นธรรม ตนเองทำในฐานะเสรีภาพที่มี และพรรคเพื่อไทยก็มีเสรีภาพอยู่แล้วภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน หากตนทำอะไรเกินเลยไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จเพื่อเอาผิดหรือยุบพรรค พรรคเพื่อไทยก็สามารถส่งเจ้าหน้าที่กฎหมายมาแจ้งดำเนินคดีกับตนเองต่อ กกต.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ วันนี้มาให้ปากคำในสำนวนที่ 4 และยังเหลืออีก 2 สำนวน
“ขอกราบเรียนด้วยความเคารพ ว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะทุกอย่างเกิดมาจากการที่พรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ทำขึ้นมา แล้วหยิบตรงนั้นมาตีความตามประเด็นกฎหมาย วันนี้ กกต.เรียกสอบ ว่ากรณีนี้ควบคุม ชี้นำ ทำให้เห็นจริง ตามที่อดีตนายกฯทักษิณ บอกไว้ และอีกประเด็นที่ได้ขอร้องให้ กกต.ได้วินิจฉัยการถือสัญชาติหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบันของนายทักษิณ ว่าเป็นสัญชาติใด เพราะกรณีคนที่ไม่ถือสัญชาติไทย ไม่ถือหนังสือเดินทางไทย ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองไม่ได้ นั่นก็เป็นสาเหตุให้มีการยุบพรรคได้เช่นกัน กกต.ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย” นายสนธิญา กล่าว
นายสนธิญา ยังกล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) ป.ป.ช. ได้เรียกไปให้เข้าให้ข้อมูล ที่ร้องสอบการกระทำที่ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของนายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ที่ออกมาอภิปรายและให้สัมภาษณ์ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจกเงิน ส.ส. คนละ 5 ล้านบาท ในช่วงของการอภิปรายไมไว้วางใจ ซึ่งจะไปให้เหตุผลต่อ ป.ป.ช. ว่าการกระทำเหล่านั้นขัดต่อข้อบังคับ ว่าด้วยจริยธรรมของ ส.ส. และทาง ส.ส.ก็จะต้องอธิบายให้ได้ว่ามีการแจกเงินจริงหรือไม่. สำนักข่าวไทย